เนื้อหาวันที่ : 2009-05-25 09:57:25 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2779 views

ไอบีเอ็ม เปิดศูนย์นวัตกรรมเพื่อส่งเสริมการเติบโตของเทคโนโลยีเชื้อเพลิงในเวียดนาม

ไอบีเอ็ม ขยายขอบเขตสู่ประเทศกำลังพัฒนา เปิดศูนย์นวัตกรรมไอบีเอ็มแห่งแรกในเวียดนาม มุ่งเป้าช่วยชุมชนในท้องถิ่นสร้างทักษะและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ

ไอบีเอ็ม (NYSE: IBM) ได้ขยายขอบเขตไปสู่ประเทศกำลังพัฒนา ด้วยการเปิดศูนย์นวัตกรรมไอบีเอ็ม (IBM Innovation Center) แห่งแรกในเวียดนาม ศูนย์ใหม่นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยชุมชนในท้องถิ่นสร้างทักษะและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อรองรับความต้องการโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิตัลในอุตสาหกรรมการธนาคาร โทรคมนาคม พลังงาน และงานราชการ

.

ศูนย์นี้ตั้งอยู่ในกรุงโฮจิมินห์ จะช่วยให้เจ้าของกิจการ หุ้นส่วนธุรกิจ ผู้ร่วมทุน และนักวิชาการในเวียดนาม กัมพูชา และลาวสามารถเข้าถึงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ บริการให้คำปรึกษา สาธาณูปโภคทางเทคนิคพื้นฐาน และความช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีในการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ สู่ตลาดในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งในความพยายามของไอบีเอ็ม เพื่อช่วยสร้างและสนับสนุนการเติบโตของชุมชนทางเทคนิคในเวียดนาม ไอบีเอ็มยังได้ประกาศถึงการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำ และปรับปรุงการเข้าถึงทรัพยากรสำหรับนักพัฒนาโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย 

.

-.The University of Technology, Vietnam National University (VNU) ที่เมืองโฮจิมินห์จะร่วมกับนักวิชาการของไอบีเอ็มในการริเริ่มและร่วมมือกันสร้างศูนย์คอมพิวเตอร์ Cloud Computing แห่งใหม่ของมหาวิทยาลัยและหลักสูตรอื่นๆ อีกมากมาย 

.

-.The College of Technology, Vietnam National University (VNU) ที่เมืองฮานอย จะตั้งแผนก Service Science Management and Engineering (SSME) ขึ้นและร่วมพัฒนาหลักสูตรกับไอบีเอ็ม และ 

.

-.ไอบีเอ็มจะเปิดตัว IBM developerWorks เวอร์ชั่นภาษาเวียดนามเป็นครั้งแรก โดยเว็บไซต์ดังกล่าวเป็นเว็บไซต์ที่ใหญ่ที่สุดและมีผู้เข้าชมมากที่สุดในโลก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศสามารถพัฒนาทักษะทางเทคโนโลยีของตน

.

ข่าวในวันนี้เป็นการตอบสนองการเติบโตทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศในเวียดนาม เนื่องจาก การใช้อินเตอร์เน็ตในเวียดนามเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอัตราสูงอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศโตขึ้นมากกว่าร้อยละ 20 ต่อปี การใช้อินเตอร์เน็ต จำกัดอยู่ที่ประชากร 200,000 คนในปี 2000 เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในระหว่างปี 2005 และ 2008 จนถึงวันนี้คนเวียดนามมาก 20 ล้านคนเข้าถึงอินเตอร์เน็ต จากรายงานของศูนย์ข้อมูลเครือข่ายอินเตอร์เน็ตของเวียดนาม                                                      

.

ในบรรดาประเทศกำลังพัฒนาทั้งหมด เวียดนาทมีอัตราการใช้อินเทอร์เน็ตสูงที่สุด และด้วยเป้าหมายในการเป็นประเทศอุตสาหกรรมภายในปี 2020 การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้อย่างทั่วถึงในเวียดนามจะช่วยผลักดันการสร้างธุรกิจใหม่ๆ ที่ก่อให้เกิดนวัตกรรมในอุตสาหกรรมที่อิ่มตัวแล้ว 

.

เพื่อสนับสนุนโอกาสเหล่านี้ ศูนย์นวัตกรรมไอบีเอ็มในเวียดนามจะให้บริการด้านความเชี่ยวชาญทางเทคนิคและการสนับสนุนอย่างทันท่วงทีในการทดสอบและตรวจสอบเทคโนโลยีซอฟต์แวร์สำหรับผู้ใช้ก่อนที่จะออกวางจำหน่าย ศูนย์ฯ จะให้การฝึกอบรมและการเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่และมาตรฐาน เช่น cloud computing, เทคโนโลยี Web 2.0, service oriented architecture (SOA), การจัดการการบริการ, และการออกแบบคอมพิวเตอร์ (computing designs ) ที่เอื้อประโยชน์ด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม 

.

"ไอบีเอ็มยังคงลงทุนขนาดใหญ่ในตลาดเกิดใหม่ทั่วโลก การเติบโตของธุรกิจพร้อมๆ กับการช่วยพัฒนาระบบนิเวศในท้องถิ่นที่เพิ่มพูนทักษะและนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ" จิม คอร์เจล ผู้จัดการทั่วไป, IBM ISV and Developer Relations กล่าว "ศูนย์นวัตกรรมไอบีเอ็มแห่งนี้และความร่วมมือใหม่ๆกับมหาวิทยาลัย จะช่วยให้แหล่งทรัพยากรและผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิคของไอบีเอ็มสามารถเข้าถึงนวัตกรรมเชื้อเพลิงได้มากขึ้นและจะช่วยให้ธุรกิจและสถานศึกษาในท้องถิ่นให้สามารถแข่งขันในระดับโลกได้" 

.

ศูนย์ฯในเวียดนามจะทำให้เครือข่ายของศูนย์นวัตกรรมไอบีเอ็มเพิ่มขึ้นเป็น 43 แห่งทั่วโลก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนปีละ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อความสำเร็จของพันธมิตรทางธุรกิจ 100,000 รายทั่วโลก 

.

ในปี 2008 ศูนย์นวัตกรรมไอบีเอ็มช่วยพันธมิตรทางธุรกิจมากกว่า 22,000 ราย ด้วยการประชุมเชิงปฏิบัติการ สัมมนา และการให้คำปรึกษาเพื่อสร้างทักษะและพัฒนาโซลูชั่นของพวกเขาบนเทคโนโลยีของไอบีเอ็ม ทำให้สามารถนำเอาเทคโนโลยีกว่า 7,000 เทคโนโลยีไปใช้

.

ในปีนี้ ศูนย์นวัตกรรมไอบีเอ็มจะจัดงานสัมมนา IBM Business Partner Development Series แบบอินเตอร์แอคทีฟและไม่คิดค่าใช้จ่าย เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีชั้นนำของไอบีเอ็มในด้านต่างๆ ตั้งแต่สาธารณูปโภคพื้นฐานแบบไดนามิกไปจนถึง cloud computing และประสิทธิภาพด้านพลังงาน และรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้ความสัมพันธ์กับไอบีเอ็มให้เกิดประโยช์สูงสุดได้อย่างไร โดยการใช้ข้อได้เปรียบของทรัพยากรไอบีเอ็มที่มีอยู่เพื่อช่วยให้พวกเขาเข้าสู่ตลาดได้รวดเร็วขึ้น ลดต้นทุนการพัฒนา และลดวงจรการขายให้สั้นลง 

.
"ในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจของไอบีเอ็ม บริษัทของเราได้รับประโยชน์ในการเข้าถึงเทคโนโลยีเชิงลึกและคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญโดยไม่มีค่าใช้จ่ายที่ ศูนย์นวัตกรรมไอบีเอ็มในกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย" อเล็กซานเดอร์ ไกรโกรัก ประธานและซีอีโอของ UNICOM Software ในกรุงโฮจิมินห์ กล่าว
.

"ศูนย์แห่งนี้ทำให้เราสามารถรักษาผลการดำเนินงานในระดับสูง ลดต้นทุนการเดินทางและการทดสอบ และทำให้ซอฟต์แวร์การธนาคารของเราออกสู่ตลาดได้เร็วยิ่งขึ้น ศูนย์นวัตกรรมไอบีเอ็มใหม่ในเวียดนามจะเป็นแหล่งทรัพยากรในท้องถิ่นที่ยอดเยี่ยมในการช่วยให้ธุรกิจต่างๆ เข้าถึงเทคโนโลยีและทักษะที่จะเป็นในการขับเคลื่อนธุรกิจและนวัตกรรมใหม่ๆในภูมิภาคนี้"

.

เพื่อเป็นการแสดงความมุ่งมั่นอันแรงกล้าของไอบีเอ็มต่อตลาดเวียดนามศูนย์นวัตกรรมไอบีเอ็มยังจะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีในท้องถิ่น เชื่อมโยงพันธมิตรทางธุรกิจของไอบีเอ็มเข้าด้วยกัน โดยผ่านห้องปฏิบัติการ Cloud Lab ของไอบีเอ็ม เวียดนาม, Banking Center of Excellence และ Technical Exploration Center 

.

"ในฐานะประเทศกำลังพัฒนา เวียดนามให้โอกาสมากมายสำหรับบริษัท ผู้เริ่มต้นธุรกิจ นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศในท้องถิ่น" Vo Tan Long ผู้จัดการทั่วไปของ ไอบีเอ็ม เวียดนาม กล่าว "ตั้งแต่ปี 2000 ไอบีเอ็มได้เปิดศูนย์นวัตกรรมมากกว่าสิบสองแห่งในประเทศเกิดใหม่ เช่น เวียดนาม เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตและนวัตกรรมรอบๆ ทักษะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ประเทศนี้มีคนเก่งมากมาย และไอบีเอ็มมุ่งมั่นที่จะช่วยพัฒนาของชุมชนทางเทคนิคในท้องถิ่น"  

.
ความสัมพันธ์ด้านวิชาการและทรัพยากรสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ 

การประกาศในวันนี้รวมถึงความร่วมมือใหม่อีกสองโครงการระหว่าง ไอบีเอ็ม และ The College of Technology, VNU ในกรุงฮานอย และ The University of Technology, VNU ในกรุงโฮจิมินห์ เพื่อสร้างงานวิจัยและหลักสูตรใหม่เพื่อรองรับความต้องการในการพัฒนาทักษาทางเทคโนโลยีและทางธุรกิจเพื่อตอบสนองต่อโอกาสในการทำงานในอนาคต 

.

The University of Technology, VNU ในกรุงโฮจิมินห์ และ ไอบีเอ็ม จะสร้างห้องปฏิบัติการ cloud computing ซึ่งจะทำให้มหาวิทยาลัยสามารถทดสอบ ประเมิน และขยายการกำหนดค่าขั้นสูงของ cloud computing ต่างๆ ได้ ซึ่งจะช่วยให้มหาวิทยาลัยเข้าร่วมในกิจกรรมการวิจัยระดับโลกและทำให้สามารถร่วมมือกับอุตสาหกรรมชั้นนำในภูมิภาคได้ 

.

ความพยายามร่วมกันในครั้งนี้จะรวมถึงการวิจัยกับ ไอบีเอ็ม ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ และ การสร้างโปรแกรมการศึกษาและหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี cloud computing มหาวิทยาลัยยังจะร่วมโครงการ IBM Academic Initiative ซึ่งจะจัดหาทรัพยากรให้กับโฮสต์โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพื่อช่วยภาควิชาและนักศึกษาในการสร้างโปรแกรมที่ขับเคลื่อนทักษะในศตวรรษที่ 21 

.

The College of Technology, VNU ในกรุงฮานอย และไอบีเอ็มจะร่วมกันกำหนดหลักสูตรและการวิจัยใหม่ ซึ่งจะมุ่งเน้นไปที่ SSME ซึ่งรวมเอาวิทยาการคอมพิวเตอร์ วิศวกรรม และกลยุทธ์ทางธุรกิจเข้าเป็นหนึ่งเดียว วิทยาลัย จะตั้งแผนก SSME ซึ่งจะเน้นไปที่วิชาการแนวใหม่นี้อย่างเดียว ซึ่งได้รับการออกแบบเพื่อผลิตนักเรียนที่มีทักษะทั้งทางธุรกิจและเทคโนโลยีที่จำเป็นต่อตลาดแรงงานในปัจจุบันและพร้อมที่จะทำงานทันทีเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและนวัตกรรมของประเทศ 

.

ไอบีเอ็มทำงานใกล้ชิดกับสถาบันการศึกษาของเวียดนามกว่า 20 แห่ง เพื่อช่วยสร้างผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะสูงที่เป็นที่ต้องการอย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาประเทศและความพยายามในการสร้างนวัตกรรม 

.

วันนี้ ไอบีเอ็มยังเปิดตัวทรัพยากรบน developerWorks ในภาษาเวียดนามเพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศชาวเวียดนาสามารถเข้าถึงเครื่องมือและรหัสของซอฟต์แวร์ มาตรฐาน และหลักปฏิบัติด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และการฝึกอบรมทักษะ สามารถดูข้อมูลเหล่านี้ได้ที่ www.ibm.com/developerworks/vn 

.

ในฐานะที่เป็นไซต์ที่ใหญ่ที่สุดและมีผู้เข้าชมมากที่สุดในโลกเพื่อรับทักษะทางเทคโนโลยี นักพัฒนาหลายล้านคนทั่วโลกใช้ developerWorks ซึ่งช่วยปรับปรุงเทคโนโลยีมาตรฐานและเทคโนโลยีใหม่ๆ ในขณะเดียวกันก็สร้างความมั่นใจว่าบริษัทเทคโนโลยีสารสนเทศจะมีเครื่องมือและทักษะในการรองรับการลงทุนทางเทคโนโลยี เช่น Java, Linux, XML และ cloud computing