ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมายังไทยในปี 52 จะมีจำนวนประมาณ 11-12 ล้านคน ลดลง 20% เมื่อเทียบปี 51 จากเดิมก่อนเหตุการณ์จลาจลจากปัญหาการเมืองและวิกฤตการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เคยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 14 ล้านคน หรือลดลงจากปีก่อนเพียง 3.7% |
. |
ขณะที่รายได้ด้านการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติคาดว่าจะลดลงเหลือเพียง 380,000-400,000 ล้านบาท หรือลดลง 25% เมื่อเทียบปี 51 จากประมาณการเดิมคาดว่าจะมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ 480,000 ล้านบาท หรือลดลงจากปีก่อน 7.7% ดังนั้น ขณะนี้จึงต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 อย่างใกล้ชิดต่อไป |
. |
สำหรับแนวทางเร่งด่วนที่จะสามารถกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาท่องเที่ยวในเมืองไทยนั้น รัฐบาลจำเป็นต้องเร่งฟื้นความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในการเดินทางมาเที่ยวไทยให้กลับคืนมาในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเร็ว รวมทั้งสื่อสารให้รัฐบาลของแต่ละประเทศทราบถึงสถานการณ์การเมืองในประเทศของไทยที่กลับสู่ภาวะปกติแล้ว และขอให้ยกเลิกประกาศเตือนนักท่องเที่ยวที่ไม่ให้เดินทางมาไทย พร้อมทั้งชี้แจงถึงความเข้มงวดและความพร้อมในการรับมือกับเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 |
. |
ส่วนภาคธุรกิจการท่องเที่ยวและบริการที่เกี่ยวข้องเองก็ต้องเร่งปรับตัว นอกเหนือจากการลดแลกแจกแถม และการปรับลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เพื่อรักษาเงินหมุนเวียนที่มีอยู่ให้ได้นานที่สุดแล้ว ผู้ประกอบการควรเร่งนำเสนอรูปแบบการท่องเที่ยวแนวใหม่ๆเพื่อดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะการปรับแผนการตลาดที่หันมาเน้นคนไทยและกลุ่มคนต่างชาติที่ทำงานในไทยมากขึ้น |
. |
และเพื่อสร้างโอกาสในการขยายตลาดโดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นตลาดนักท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่มมากขึ้น จะต้องจำแนกตลาดตามความสนใจของนักท่องเที่ยว และตามกระแสความนิยมของผู้บริโภคเป็นสำคัญ เช่นกระแสโลกร้อน กระแสที่ผู้บริโภคให้สำคัญกับสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และบริโภคอาหารปลอดสารพิษ เป็นต้น หรืออาจจะจำแนกตามเชื้อชาติ เพราะนักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆย่อมมีความต้องการที่แตกต่างกัน รวมถึงการจำแนกตามศาสนาและอื่นๆ เช่นกลุ่มมุสลิม กลุ่มนักประวัติศาสตร์ กลุ่มสตรีที่มาช้อปปิ้ง และกลุ่มฮันนีมูน/แต่งงาน เป็นต้น |