โตโย-ไทยปลื้มไตรมาส 1 รายได้โตแรง 98% ทะลุ 4,068 ล้านบาท เทียบชั้นรับเหมารายใหญ่ มั่นใจขาย IPO มิถุนานี้ หลังธุรกิจรับเหมาEPC โตสวนกระแสธุรกิจรับเหมาทั่วไป
โตโย-ไทยปลื้มไตรมาส 1 รายได้โตแรง 98% ทะลุ 4,068 ล้านบาท เทียบชั้นรับเหมารายใหญ่ มั่นใจขาย IPO มิถุนานี้ หลังธุรกิจรับเหมาEPC โตสวนกระแสธุรกิจรับเหมาทั่วไป |
. |
บริษัท โตโย-ไทย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการรับเหมาออกแบบ จัดหา และก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ครบวงจร (EPC หรือ Engineering, Procurement and Construction) รายแรกและรายเดียวของไทย รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 2552 ที่สร้างความตื่นเต้นให้วงการรับเหมาและวงการหลักทรัพย์อย่างต่อเนื่อง ด้วยกำไรสุทธิเติบโต 53 % เป็น 140.08 ล้านบาท และรายได้รวมเพิ่มขึ้นกว่า 98% เป็น 4,068.34 ล้านบาท ในขณะที่ผู้รับเหมารายใหญ่หลายรายมีผลประกอบการที่ถดถอย |
. |
นายฮิโรโนบุ อิริยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโย-ไทย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า "บริษัทมีความภูมิใจที่จะรายงานว่า บริษัทสามารถสร้างผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง สวนทางสภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย ด้วยรายได้รวมที่เติบโตขึ้น 98% เป็น 4,068.34 ล้านบาท จากรายได้รวม 2,053.35 ล้านบาทในไตรมาส 1 ของปี 2551 และ มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 53% เป็น 140.08 ล้านบาท จากกำไรสุทธิ 91.07 ล้านบาท |
. |
"สาเหตุที่บริษัทฯมีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง สวนกระแสสภาวะเศรษฐกิจและธุรกิจรับเหมาทั่วไปที่ถดถอย นั้นมาจากปัจจัยหลักหลายประการคือ บริษัทได้รับงานโครงการขนาดใหญ่จากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและส่งมอบงานตรงเวลา |
. |
อีกทั้งธุรกิจรับเหมาสร้างโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ครบวงจร (EPC) นั้นเป็นรูปแบบธุรกิจที่สามารถสร้างผลกำไรได้อย่างมีเสถียรภาพ มีความเสี่ยงต่ำกว่า และที่สำคัญตลาดรับเหมา EPC มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเคมี และ ปิโตรเคมี ซึ่งบริษัทฯ มีข้อได้เปรียบทางธุรกิจในการเป็นผู้ประกอบการสัญชาติไทยรายเดียวและมีฐานลูกค้าเดิมเป็นบริษัทขนาดใหญ่จำนวนมาก |
. |
สำหรับในไตรมาสแรกปีนี้ โครงการที่อยู่ภายใต้การดำเนินงานของบริษัทมีความคืบหน้าของงานมากเป็นพิเศษ ทำให้มีการรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นมาก ทั้งนี้ ภายหลังการรับรู้รายได้ในไตรมาสแรกกว่า 4 พันล้านบาท บริษัทยังมีปริมาณงานในมือรอรับรู้รายได้อีกกว่า 7,300 ล้านบาท ทั้งนี้ ในระหว่างปี 2552 - 2553 บริษัทมีแผนที่จะเข้าประมูลงานเพิ่มอีกมูลค่ารวมกว่า 39,000 ล้านบาท" คุณฮิโรโนบุ อิริยา อธิบาย |
. |
"บริษัทพร้อมที่จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) จำนวน 130 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 27% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดแก่นักลงทุน ในต้นเดือนมิถุนายนนี้และพร้อมนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดภายในเดือนเดียวกัน ซึ่งจะทำให้บริษัทฯเป็นบริษัทแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ในปีนี้ โดยบริษัทมั่นใจว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบันและรายย่อยเป็นอย่างดี เนื่องจากบริษัทเป็นผู้นำในธุรกิจรับเหมา EPC ที่ขยายตัวต่อเนื่อง มีฐานลูกค้าประจำเป็นบริษัทที่มีศักยภาพสูงจำนวนมาก |
. |
นอกจากนี้บริษัทมีผลประกอบการที่เติบโตสูงและต่อเนื่องมาตลอดกว่า 20 ปี (ปี 2551 บริษัทมีรายได้รวม 11,049 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 314 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปี 2550 141% และ 124 % ตามลำดับ อนึ่งในช่วงปี 2548-2551 บริษัทมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยของรายได้รวม และกำไรสุทธิปีละ 42% และ 48 %) อีกทั้งบริษัทมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ด้วยมูลค่าเงินสดและเงินลงทุนชั่วคราวประมาณ 4,000 ล้านบาท โดยไม่มีภาระหนี้เงินกู้เลย |
. |
สำหรับปี 2551 บริษัทมีอัตราผลตอบแทนต่อหุ้น (ROE) ที่สูงที่สุดในอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างคือ 46% และในไตรมาสแรกปีนี้เพียงไตรมาสเดียว มีอัตราผลกำไรสุทธิต่อหุ้นสูงถึง 0.43 บาท" คุณสุวิทย์ มโนมัยยานนท์ กรรมการและผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขาย บริษัท โตโย-ไทย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าว |
. |
อีกทั้งบริษัทมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ด้วยมูลค่าเงินสดและเงินลงทุนชั่วคราวประมาณ 4,000 ล้านบาท โดยไม่มีภาระหนี้เงินกู้เลย สำหรับปี 2551 บริษัทมีอัตราผลตอบแทนต่อหุ้น (ROE) ที่สูงที่สุดในอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างคือ 46% และในไตรมาสแรกปีนี้เพียงไตรมาสเดียว มีอัตราผลกำไรสุทธิต่อหุ้นสูงถึง 0.43 บาท" คุณสุวิทย์ มโนมัยยานนท์ กรรมการและผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขาย บริษัท โตโย-ไทย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าว |
. |
"บริษัทมีแผนจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ในการเพิ่มศักยภาพของบริษัทในการเข้ารับงานโครงการขนาดใหญ่ระดับโลกที่มีมูลค่าประมาณ 10,000-17,600 ล้านบาท (300-500 ล้านเหรียญสหรัฐ) ต่อโครงการ และเพื่อใช้ในขยายงานรับเหมา EPCในตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะตลาดตะวันออกกลางและกลุ่มอาเซียน |
. |
ทั้งนี้บริษัทมีประสบการณ์ในการรับงานต่างประเทศมากว่า 12 ปี มีผลงานที่ได้รับการยอมรับจากตลาดเป็นอย่างสูง อีกทั้งบริษัทจะมีข้อได้เปรียบกับคู่แข่งในต่างประเทศอย่างมากในด้านต้นทุนการดำเนินงานที่ต่ำกว่า ในขณะที่สามารถส่งมอบงานที่มีคุณภาพและมาตรฐานการยอมรับระดับโลกได้เช่นกัน บริษัทเชื่อว่าการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับบริษัท ในตลาดต่างประเทศ" คุณสุวิทย์ มโนมัยยานนท์ เปิดเผย |
. |
บริษัท โตโย-ไทย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นในปี 2528 โดยการร่วมทุนระหว่างบริษัท โตโย เอนจิเนียริ่ง คอร์ปอเรชั่น ผู้นำด้านรับเหมาวิศวกรรมโรงงานครบวงจรที่มีประสบการณ์กว่า48 ปีจากประเทศญี่ปุ่น และ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ผู้รับเหมาทั่วไปที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย มีทุนจดทะเบียนรวม 480 ล้านบาท เป็นทุนที่ชำระแล้ว 350 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมีจำนวนวิศวกรทุกสาขามากที่สุดในประเทศไทยคือ 817 คนจากพนักงานทั้งหมด 1,563 คน |
. |
บริษัทมีประสบการณ์ในการรับเหมาสร้างโรงงานอุตสาหกรรมแบบครบวงจรทั้งในประเทศและต่างประเทศมาแล้วกว่า 160 โครงการ คิดเป็นมูลค่างานรวมกว่า 60,000 ล้านบาท มีฐานลูกค้าครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ เคมีภัณฑ์ ปิโตรเคมี ปิโตรเลียม ปุ๋ยเคมี โรงไฟฟ้า พลังงานทดแทน ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นบริษัทมหาชนและบริษัทต่างชาติขนาดใหญ่ อาทิ |
. |
กลุ่มปตท. กลุ่ม SCG หรือปูนซิเมนต์ไทย กลุ่มบมจ. วีนิไทย กลุ่มคาโอของญี่ปุ่น กลุ่มไบเออร์ของเยอรมัน เป็นต้น นอกจากนี้บริษัทมีประสบการณ์รับงานในต่างประเทศมากว่า 12 ปี ซึ่งสร้างรายกว่า 6,000 ล้านบาท โดยกลุ่มตลาดหลักในต่างประเทศได้แก่ เวียดนาม ซึ่งบริษัทมีบริษัทย่อยดำเนินงานอยู่ จีน กลุ่มประเทศอาเซียน กลุ่มตะวันออกกลาง กลุ่มอาฟริกา และสหรัฐอเมริกา" |