เนื้อหาวันที่ : 2009-05-19 11:22:59 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1539 views

ตลาดรถยนต์เดือนเมษายนหดตัวน้อยที่สุดในรอบ4 เดือน

รายงานสถิติการขายรถยนต์เดือน เม.ย. 52 ยอดขายรวม 39,713 คัน ลดลง 27.4% 4 เดือนขาย 147,487 คัน ลดลง 31.9% ซึ่งลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 เหตุเศรษฐกิจชะลอตัวและความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลง

นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนเมษายน 2552 ปริมาณการขาย 39,713 คัน ลดลง 27.4% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 15,981 คัน เพิ่มขึ้น 4.2% รถเพื่อการพาณิชย์ 23,732 คัน ลดลง 39.7% รวมทั้ง รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ จำนวน 21,039 คัน ลดลง 38.7%                                                                                                             

.

สถิติการขายสะสมในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2552 มีปริมาณทั้งสิ้น 147,487 คัน ลดลง 31.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยแบ่งออกเป็น รถยนต์นั่ง 59,949 คัน ลดลง 12.6% รถเพื่อการพาณิชย์ 87,538 คัน ลดลง 40.8% รวมทั้ง รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซ็กเมนท์นี้จำนวน 76,134 คัน ลดลง 40.3% 

.
ประเด็นสำคัญ 

1..ตลาดรถยนต์เดือนเมษายน มีปริมาณการขาย 39,713 คัน ลดลง 27.4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 แต่เป็นอัตราการหดตัวที่น้อยลง เป็นผลจากการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเมษายนที่ลดลงต่ำสุดในรอบ 87 เดือน ซึ่งเกิดจากสถานการณ์ทางการเมืองช่วงกลางเดือนเมษายน          

.

โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 4.2% ซึ่งเป็นการเติบโตครั้งแรกในรอบ 4 เดือน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมามีการชะลอตัวเพื่อรอการเปิดตัวของรถยนต์นั่งขนาดเล็กรุ่นใหม่ ในขณะที่ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ยังคงมียอดขายลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่12 

.

2..ตลาดรถยนต์ 4 เดือนมีปริมาณการขาย 147,487 คัน ลดลง 31.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมีแนวโน้มการหดตัวลดลง สำหรับตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 12.6% เป็นผลจากยอดขายในเดือนเมษายนที่เติบโตเป็นครั้งแรกของปี ในขณะที่ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตลดลง 40.8% เป็นผลจากการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจโดยรวม 

.

3..สำหรับตลาดรถยนต์เดือนพฤษภาคม คาดว่าจะมีปริมาณการขายดีขึ้น จากสถิติเดือนพฤษภาคมจะมียอดขายเป็นอันดับสองของไตรมาส ประกอบกับสถานการณ์ทางการเมืองที่คลี่คลาย ส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภค ทั้งนี้ราคาน้ำมันที่มีแน้วโน้มเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจได้ 

.
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เดือนเมษายน 2552 
1.) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 39,713 คัน ลดลง 27.4% 

อันดับที่ 1 โตโยต้า 15,824 คัน ลดลง 30.2% ส่วนแบ่งตลาด 39.8%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 8,477 คัน ลดลง 33.4% ส่วนแบ่งตลาด 21.3% 
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 6,666 คัน เพิ่มขึ้น 28.1% ส่วนแบ่งตลาด 16.8%

.
2.) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 15,981 คัน เพิ่มขึ้น 4.2%
อันดับที่ 1 ฮอนด้า 6,473 คัน เพิ่มขึ้น 50.9% ส่วนแบ่งตลาด 40.5%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 6,066 คัน ลดลง 18.0% ส่วนแบ่งตลาด 38.0 %
อันดับที่ 3 นิสสัน 749 คัน เพิ่มขึ้น 6.4% ส่วนแบ่งตลาด 4.7 %
.
3.) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 21,039 คัน ลดลง 38.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 8,912 คัน ลดลง 36.2% ส่วนแบ่งตลาด 42.4%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 8,000 คัน ลดลง 34.6% ส่วนแบ่งตลาด 38.0 % 
อันดับที่ 3 นิสสัน 1,504 คัน ลดลง 60.0% ส่วนแบ่งตลาด 7.1 % 
.

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 2,138 คัน
โตโยต้า 1,137 คัน - อีซูซุ 479 คัน - มิตซูบิชิ 475 คัน - ฟอร์ด 47 คัน                               

.
4.) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 18,901 คัน ลดลง 41.6%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 7,775 คัน ลดลง 39.1% ส่วนแบ่งตลาด 41.1 %
อันดับที่ 2 อีซูซุ 7,521 คัน ลดลง 34.8% ส่วนแบ่งตลาด 39.8 %
อันดับที่ 3 นิสสัน 1,504 คัน ลดลง 60.0% ส่วนแบ่งตลาด 8.0 %
.
5.) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 23,732 คัน ลดลง 39.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 9,758 คัน ลดลง 36.2% ส่วนแบ่งตลาด 41.1 % 
อันดับที่ 2 อีซูซุ 8,477 คัน ลดลง 33.4% ส่วนแบ่งตลาด 35.7 % 
อันดับที่ 3 นิสสัน 1,523 คัน ลดลง 60.2% ส่วนแบ่งตลาด 6.4 %      
.
สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม - เมษายน 2552 
1) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 147,487 คัน ลดลง 31.9%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 60,268 คัน ลดลง 32.8% ส่วนแบ่งตลาด 40.9% 
อันดับที่ 2 อีซูซุ 32,035 คัน ลดลง 34.2% ส่วนแบ่งตลาด 21.7% 
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 25,026 คัน ลดลง 9.5% ส่วนแบ่งตลาด 17.0% 
.
2) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 59,949 คัน ลดลง 12.6% 

อันดับที่ 1 โตโยต้า 26,644 คัน ลดลง 19.1% ส่วนแบ่งตลาด 44.4%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 23,723 คัน เพิ่มขึ้น 1.1% ส่วนแบ่งตลาด 39.6% 
อันดับที่ 3 นิสสัน 1,824 คัน ลดลง 31.1% ส่วนแบ่งตลาด 3.0%

.
3) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการ ขาย 76,134 คัน ลดลง 40.3% 
อันดับที่ 1 โตโยต้า 30,405 คัน ลดลง 41.0% ส่วนแบ่งตลาด 39.9% 
อันดับที่ 2 อีซูซุ 30,096 คัน ลดลง 34.5% ส่วนแบ่งตลาด 39.5% 
อันดับที่ 3 นิสสัน 5,613 คัน ลดลง 47.6% ส่วนแบ่งตลาด 7.4%
.
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 7,627 คัน 
โตโยต้า 4,288 คัน - มิตซูบิชิ 1,630 คัน - อีซูซุ 1,569 คัน - ฟอร์ด 140 คัน 
.
4) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 68,507 คัน ลดลง 42.6%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 28,527 คัน ลดลง 33.8% ส่วนแบ่งตลาด 41.6%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 26,117 คัน ลดลง 43.9% ส่วนแบ่งตลาด 38.1%
อันดับที่ 3 นิสสัน 5,613 คัน ลดลง 47.6% ส่วนแบ่งตลาด 8.2%
.
5) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 87,538 คัน ลดลง 40.8%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 33,624 คัน ลดลง 40.8% ส่วนแบ่งตลาด 38.4%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 32,035 คัน ลดลง 34.2% ส่วนแบ่งตลาด 36.6% 
อันดับที่ 3 นิสสัน 5,722 คัน ลดลง 48.2% ส่วนแบ่งตลาด 6.5%