"กระเบื้องหลังคาตราเพชร" พอใจผลงานไตรมาสแรกหลังเปิดเกมสู้เศรษฐกิจหดตัว เดินเกมรุกขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ รับอานิสงค์ตลาดส่งออกโต ขณะที่ดีมานด์ตลาดซ่อมแซมพุ่ง มั่นใจรายได้สิ้นปีเข้าเป้า
"กระเบื้องหลังคาตราเพชร" พอใจผลงานไตรมาสแรกหลังเปิดเกมสู้เศรษฐกิจหดตัว สงครามราคาเดือด เดินหน้าบุกตลาดอย่างหนัก รับอานิสงค์ตลาดส่งออกโต ขณะที่ดีมานด์ตลาดซ่อมแซมพุ่ง มั่นใจปั๊มผลงานทั้งปี 52 เข้าเป้า |
. |
นายอัศนี ชันทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน) |
. |
นายอัศนี ชันทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ "DRT" ผู้ผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์หลังคารุ่นเจียระไน รุ่นอดามัส และ รุ่น CT เพชร ผลิตภัณฑ์ไม้ฝาและไม้สังเคราะห์ ผลิตภัณฑ์แผ่นบอร์ด รวมถึงอุปกรณ์ประกอบหลังคา และบริการหลังการขาย ภายใต้ตราสินค้า "ตราเพชร" เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2552 (มกราคม-มีนาคม 2552) ว่าบริษัทฯ มีรายได้รวม 730.1 ล้านบาท ลดลง 11.1% จากปีก่อนซึ่งมีรายได้รวม 820.9 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 101.8 ล้านบาท ลดลง 20.0 % จากงวดเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 127.3 ล้านบาท |
. |
สำหรับรายได้และกำไรในไตรมาสแรกที่ปรับตัวลดลงจากปีก่อนหน้านั้น เป็นเพราะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่หดตัว และการแข่งขันด้านราคาในตลาดกระเบื้องยังมีอยู่สูง ส่งผลให้ราคาขายเฉลี่ยกระเบื้องหลังคาในตลาดโดยรวมมีทิศทางปรับตัวลดลง |
. |
แต่อย่างไรก็ตามกำไรในระดับดังกล่าวถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่าที่บริษัทฯ ได้ประเมินเอาไว้ ซึ่งเป็นผลมาจากการรุกตลาดอย่างหนักโดยผ่านช่องทางตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ รวมไปถึงตลาดส่งออกในประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะในประเทศกัมพูชายังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับเหตุการณ์ภัยธรรมชาติในช่วงที่ผ่านมาทำให้ความต้องการหลังคากระเบื้องในตลาดซ่อมแซมบ้านปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมาก |
. |
สำหรับแนวโน้มธุรกิจในช่วงไตรมาส 2/2552 นั้น กรรมการผู้จัดการ DRT คาดการณ์ว่าจะอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เนื่องจากพิจารณาปริมาณการขายในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นเดือนที่มีวันหยุดเยอะ แต่ปริมาณการขายยังอยู่ในเกณฑ์ดี ขณะเดียวกันการผลิตก็เริ่มใช้กำลังการผลิตอย่างเต็มที่กว่า 95% |
. |
กรรมการผู้จัดการ DRT กล่าวอีกว่า บริษัทฯ จะสามารถผลักดันยอดขายในปี 2552 ให้เป็นตามเป้าหมาย ซึ่งตั้งไว้ใกล้เคียงกับของปี 2551 โดยการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านตัวแทนเพิ่มขึ้น เพื่อมุ่งเน้นกระจายสินค้าในตลาดภูมิภาคซึ่งถือเป็นตลาดหลัก รวมทั้งกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ ที่จะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง |
. |
ทั้งนี้ แผนงานในปี 2552 บริษัทฯ เตรียมเงินลงทุนไว้ที่ประมาณ 300 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับขยายกำลังการผลิตใหม่ โดยจะขยายเพิ่มอีก 5 หมื่นตัน/ปี จากเดิมที่มีกำลังการผลิต 5 แสนตัน/ปี เป็น 5.5 แสนตัน/ปี โดยจะเพิ่มกำลังการผลิตในกลุ่มสินค้ากระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์ ซึ่งโครงการขยายนี้ได้ดำเนินการไปแล้วบางส่วนในปี 2551 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในต้นปี 2553 และจะส่งผลบวกต่อผลการดำเนินงานโดยรวมให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง |