ร้อยตรีหญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยว่า หลังจากที่กระทรวงฯ ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมบทบาทของอุตสาหกรรม ICT เพื่อการสนับสนุนการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ ในระยะที่ 1 เมื่อปี 2551 ที่ผ่านมา   

เพื่อศึกษาเกี่ยวกับกรอบการจัดเก็บข้อมูลอุตสาหกรรม ICT และการจัดอันดับความพร้อมของอุตสาหกรรม ICT โดยหน่วยงานในต่างประเทศ เช่น E-Readiness Rankings Digital Access Index (DAI) Networked Readiness Index (NRI) และ World Competitiveness Yearbook (WCY)       

"การศึกษาดังกล่าวได้ทำให้ทราบถึงสถานะของประเทศไทย จุดอ่อน-จุดแข็ง ความพร้อมด้านต่างๆ ของประเทศเมื่อเทียบกับต่างประเทศ และยังทำให้พบปัญหาเกี่ยวกับเรื่องข้อมูลของประเทศว่ายังกระจัดกระจายและมีหลายแหล่งข้อมูล ซึ่งหากต้องการผลักดันเรื่องนี้ให้เกิดผลสัมฤทธิ์จำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม และควรมีข้อมูลสนับสนุนเชิงนโยบายและเชิงบริหารที่ทันสมัย

เช่น ข้อมูลอุตสาหกรรม ICT ในภาพรวมของประเทศ ข้อมูลทางการตลาดในการดำเนินธุรกิจในเชิงรุกกับต่างประเทศ ตลอดจนควรมีหน่วยงานหลักที่เป็นแหล่งข้อมูลที่ถูกต้องของประเทศด้วย  โดยกระทรวงฯ กำลังดำเนินการรวบรวมจัดเก็บ และบูรณาการให้เป็นข้อมูลโครงสร้างอุตสาหกรรม ICT ที่มีคุณภาพและมีความน่าเชื่อถืออยู่                  

ซึ่งการส่งข้อมูลที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือนี้ จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและชักจูงให้เกิดการลงทุนจากต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งทำให้การติดตามประเมินผลในเชิงนโยบายมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น และส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศ" ร้อยตรีหญิงระนองรักษ์ กล่าว 

ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปอย่างต่อเนื่องกระทรวงฯ จึงจะดำเนินโครงการส่งเสริมบทบาทของอุตสาหกรรม ICT เพื่อการสนับสนุนการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ ในระยะที่ 2 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา สำรวจ รวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูล Supply Chain ของแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม ICT ภายในประเทศ (Supply Side) เช่น การผลิตสินค้า ICT โทรคมนาคม บริการด้าน ICT และอุตสาหกรรม Content

รวมทั้งสถานการณ์การใช้ ICT ของกลุ่มธุรกิจภายในประเทศในแต่ละภาคเศรษฐกิจ ข้อจำกัด ปัญหาอุปสรรค เพื่อส่งเสริมให้กลุ่มธุรกิจภายในประเทศนำ ICT มาใช้บริหารจัดการกระบวนการและกลไกการปรับเปลี่ยนและเพิ่มประสิทธิภาพในการประกอบธุรกิจอย่างเป็นระบบ 

นอกจากนี้โครงการดังกล่าวยังมีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษา และเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงลึกภาคอุตสาหกรรม ICT ของประเทศที่มีศักยภาพการเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรม ICT ในระดับสากล และข้อเสนอแนะการส่งเสริมการตลาดไปสู่การทำธุรกิจในต่างประเทศ

ตลอดจนศึกษาและพัฒนากำหนดตัวชี้วัดที่เป็นปัจจัยสำคัญ (Key Indicator) ซึ่งใช้ในการติดตามและประเมินผล เพื่อผลักดันให้อุตสาหกรรม ICT เกิดการพัฒนาที่สามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้

พร้อมกันนี้ยังจะมีการจัดทำแผนการพัฒนาบทบาทอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศไทย ระยะเวลา 4 ปี คือ ตั้งแต่ พ.ศ. 2552 จนถึง พ.ศ. 2556 และข้อเสนอแนะแนวทางในการจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อแปลงไปสู่การปฏิบัติ รวมถึงแนวคิดในการติดตามประเมินผลในเชิงบริหารจัดการและเชิงนโยบาย         

"การพัฒนาศักยภาพด้านอุตสาหกรรม ICT ของประเทศนี้ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในระดับสากล ซึ่งมิใช่เพียงแค่ปรับปรุงตัวเลขฐานข้อมูลเพื่อสร้างภาพลักษณ์ของประเทศให้ดีเท่านั้น หากแต่เป็นการเพิ่มพูนศักยภาพของประเทศที่แท้จริงให้เพิ่มมากขึ้น         

นอกจากนี้ยังเป็นการปรับปรุงข้อด้อยของประเทศให้ลดลงอีกด้วย ซึ่งโครงการฯ ในระยะที่ 2 นี้คาดว่าจะเริ่มดำเนินการประมาณปลายเดือน มิถุนายน 2552" ร้อยตรีหญิงระนองรักษ์ กล่าว