เนื้อหาวันที่ : 2009-04-29 15:30:04 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2256 views

นิด้า ระดมสุดยอดนักธุรกิจ-นักวิชาการจับชีพจรประเทศไทย

นิด้า เดินหน้าเปิดตัวโครงการ THAILAND Lecture อย่างยิ่งใหญ่ หวังสกัดปัญหาเศรษฐกิจโลก การเมืองไทย การแตกแยกในสังคมกัดกร่อนประเทศไทยก่อนยากเกินเยียวยา ผนึกความร่วมมือผู้บริหารทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ร่วมระดมสมองหาทางออกในการเสวนา "จับชีพจรประเทศไทย"

NIDA Business School เดินหน้าเปิดตัวโครงการ THAILAND Lecture อย่างยิ่งใหญ่ หวังสกัดปัญหาเศรษฐกิจโลก การเมืองไทย การแตกแยกในสังคมกัดกร่อนประเทศไทยก่อนยากเกินเยียวยา ผนึกความร่วมมือผู้บริหารทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ร่วมระดมสมองหาทางออกในการเสวนา "จับชีพจรประเทศไทย"   ระหว่างวันที่ 8-10 พ.ค.นี้

.

พร้อมเชิญอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ทั้ง "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์-ทนง พิทยะ และโอฬาร ไชยประวัติ" ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจไทย ร่วมกับนักธุรกิจชื่อดังอีกเพียบ มั่นใจนำพาประเทศไทยเดินหน้าฝ่าวิกฤติ เผยแผนระยะยาวเตรียมออกโรดโชว์ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ

.

ผศ.ดร.นฤมล สอาดโฉม รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะบริหารธุรกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒน- บริหารศาสตร์ หรือ NIDA Business School และผู้บริหาร สถาบันวิจัยยุทธศาสตร์และวิเคราะห์ความเสี่ยง (ISTAR) เปิดเผยว่า NIDA Business School ได้ร่วมกับ NIDA Wharton ELP, สมาคมศิษย์เก่า NIDA Business School และเครือข่ายนักธุรกิจไทยทั่วประเทศ

.

จัดทำโครงการ THAILAND Lecture โครงการเสริมสร้างเครือข่ายนักธุรกิจไทยขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมเครือข่ายศิษย์เก่านิด้า ผู้บริหารภาครัฐและภาคเอกชน จากทั่วประเทศในการผนึกกำลังร่วมกันหาทางออกให้กับประเทศไทย ในภาวะที่กำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตเศรษฐกิจโลก รวมทั้งวิกฤตการณ์ทางการเมืองในประเทศ 

.

"ต้องยอมรับว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาที่กระหน่ำเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตระดับโลกที่ภาวะเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย จนส่งผลกระทบกับภาพรวมเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะภาคการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ สะท้อนให้เห็นจากตัวเลขการส่งออกประจำเดือนมีนาคมที่ลดลงอย่างมากถึงกว่า 23% ฉุดให้การส่งออกในไตรมาสแรกลดลงถึงกว่า 20%

.

ขณะเดียวกัน เรายังมีปัญหาภายในเรื่องของความแตกแยกทางความคิด และวิกฤตการเมืองภายในประเทศ ซึ่งปัจจัยทั้งหมดนี้กำลังลุกลามกัดกร่อนประเทศไทยอย่างรุนแรงจนยากเกินเยียวยา   

.

ดังนั้น ในฐานะที่ NIDA Business School เป็นสถาบันพัฒนานักบริหารสู่ภาครัฐและเอกชนมากว่า 40 ปี จึงตระหนักถึงบทบาทในการทำหน้าที่เป็นผู้จุดประกายความคิดให้กับทุกภาคส่วนของสังคม เพื่อร่วมกันกอบกู้วิกฤต เราจึงจัดทำโครงการ THAILAND Lecture ขึ้นมา" ผศ.ดร.นฤมลกล่าว 

.

ทั้งนี้ รูปแบบการจัดงาน THAILAND Lecture ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในระหว่างวันที่ 8-10 พฤษภาคม 2552 ที่โรงแรมไฮแอท รีเจนซี หัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นั้น จะเป็นการรวมพลังนักธุรกิจและเครือข่ายศิษย์เก่านิด้า โดยจะมีนักวิชาการ นักธุรกิจ ตลอดจนผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาต่างๆ มาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองเพื่อสะท้อนปัญหาและชี้แนะทางออกให้กับประเทศไทยภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน

.

โดยได้เกียรติจากศาสตราพิชาน ดร.ทนง พิทยะ และดร.โอฬาร ไชยประวัติ กล่าวเสวนาในหัวข้อ "จับชีพจรเศรษฐกิจ" ดำเนินรายการโดย ดร.อุตตม สาวนายน ขณะที่ ศ.ดร.ชัยอนันต์ สมุทวณิช และอาจารย์แก้วสรร อติโพธิ จะร่วม "จับชีพจรการเมืองและสังคมไทย" และศาสตราพิชาน ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ กล่าวดินเนอร์ ทอล์ค ในหัวข้อ "พันธะสัญญาใหม่เพื่ออนาคตไทย"

.

นอกจากนี้ ยังมีนักธุรกิจชั้นนำในประเทศไทย ประกอบด้วย ดร.ประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ดร.บุญเกียรติ โชควัฒนา ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.หลักทรัพย์ เอเชีย พลัส และ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ธนาคารกรุงไทย ร่วมเสวนาในหัวข้อ "จับชีพจรธุรกิจไทย"

.

รวมทั้งยังมีผู้บริหารรุ่นใหม่ ได้แก่ นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) นายวิน  วิริยประไพกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหวิริยาสตีล อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) และนายศุภชัย  เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมเสวนาในหัวข้อ “จับตาอนาคตธุรกิจไทย” ดำเนินการเสวนาโดย ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์

.

รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา NIDA Business School และผู้บริหาร สถาบันวิจัย ISTAR กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยศักยภาพด้านเครือข่ายของ NIDA Business School ทำให้เชื่อมั่นว่า งาน THAILAND Lecture จะเป็นสุดยอดการระดมความเห็นที่เป็นเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์และข้อมูล 

.

เพื่อหาทางออกให้กับประเทศไทยได้ภายใต้ภาวะวิกฤตและนำพาประเทศไทยไปสู่ความเป็นปึกแผ่นอย่างยั่งยืน ซึ่งหลังจากนี้ จะมีการสลับสับเปลี่ยนการจัดงานไปยังจังหวัดต่างๆ ทุกภูมิภาคของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือที่จังหวัดพิษณุโลก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จังหวัดขอนแก่น และภาคใต้ที่จังหวัดภูเก็ต