นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติอนุมัติโครงการสนับสนุนการท่องเที่ยวภายใต้ชื่อโครงการ "SMEs Power เพื่อธุรกิจท่องเที่ยว" ซึ่งเป็นโครงการช่วยเหลือด้านการเงินแก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจและปัญหาภายในประเทศ                                                                 

โดยผ่านการให้สินเชื่อของธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(ธพว.) หรือ SMEs Bank วงเงิน 5,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษ คือ MLR-3% หรือเท่ากับ 4% เป็นเวลา 2 ปี ระยะเวลาปลอดหนี้ 1 ปี ระยะเวลาการชำระหนี้ไม่เกิน 5 ปี วงเงินรายละไม่เกิน 5 ล้านบาท เป็นโครงการตั้งแต่ 1 พ.ค.-31 ก.ค.52 รวม 3 เดือน 

"เรื่องการเกิด NPL เป็นเรื่องที่พูดได้ยาก เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ไม่ได้คาดคิด และรัฐบาลต้องเข้ามาช่วยเหลือ แต่ได้กำชับให้ SMEs Bank ดำเนินการให้ดีที่สุด แต่อย่าให้มีขั้นตอนที่ยุ่งยาก และให้แยกเป็นบัญชีพิเศษ หรือ PSA" รมช.คลัง กล่าว 

ทั้งนี้หลักประกันที่จะใช้สำหรับการยื่นขอสินเชื่อนั้น ผู้ประกอบการสามารถใช้บุคคลธรรมดา นิติบุคคล หรือทรัพย์สินอื่นๆ รวมทั้งให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.) ค้ำประกันหนี้ให้ได้ ซึ่งคิดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ต่อปี        

นายประดิษฐ์ คาดว่า โครงการดังกล่าวจะสามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการได้ราว 2-3 พันราย พร้อมกันนี้ยังกำชับให้ SMEs Bank พิจารณาคำขอสินเชื่อให้แล้วเสร็จภายใน 15 วันนับแต่วันที่ผู้ประกอบการยื่นขอสินเชื่อ 

รมช.คลัง ยังกล่าวด้วยว่า ที่ประชุม ครม.วันนี้ยังมีมติอนุมติโครงการประกันภัยแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย ครอบคลุมระยะเวลา 6 เดือน โครงการดังกล่าวจะเริ่มตั้งแต่ 1 พ.ค.52 โดยผู้ที่เดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อเกิดอุบัติเหตุ หรือความล่าช้าในการเดินทางจากการเกิดจลาจลในประเทศ รัฐบาลจะรับประกันในวงเงิน 1 หมื่นดอลลาร์/ราย 

"แม้เรามั่นใจว่าจะไม่มีการจราจลขึ้นอีก แต่เราต้องมีระบบประกันภัย หลังจากบริษัททัวร์ต่างประเทศไม่รับประกันผู้ที่เดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย เพราะกลัวเหตุการณ์จะเกิดขึ้นอีก รัฐบาลจึงต้องหาบริษัทมารับประกันการท่องเที่ยว" รมช.คลัง กล่าว 

ทั้งนี้โครงการดังกล่าวจะใช้เงินงบประมาณราว 200 ล้านบาท สามารถรับประกันนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 5 ล้านคน แต่การรับประกันนักท่องเที่ยวต่างชาติในโครงการนี้จะไม่ครอบคลุมถึงกรณีการเสียชีวิต เพราะกรณีเสียชีวิตจะไปอยู่ในข่ายการให้ความช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค.51

สำหรับการคัดเลือกบริษัทประกันภัยที่จะรับประกันนั้น ครม.มอบหมายให้กระทรวงการคลังไปพิจารณาคัดเลือก โดยต้องดำเนินการอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม