เนื้อหาวันที่ : 2009-04-23 11:37:39 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2166 views

จีเอเบิล รุกตลาด IAS 39 จับมือ FinArch หวังกวาดเค้กชิ้นโตในกลุ่มแบงก์

'จีเอเบิล' เปิดฉากปีวัวรุกตลาด IAS 39 เต็มสูบเป็นรายแรก หลังแบงก์ชาติบังคับใช้กับธนาคารทุกแห่งในประเทศไทย จับมือ FinArch ซอฟต์แวร์มาตรฐานการบัญชีชื่อดังในยุโรป

.

'จีเอเบิล' เปิดฉากปีวัวรุกตลาด IAS 39 เต็มสูบเป็นรายแรก หลังแบงก์ชาติบังคับใช้กับธนาคารทุกแห่งในประเทศไทย จับมือ FinArch ซอฟต์แวร์มาตรฐานการบัญชีชื่อดังในยุโรป  มุ่งเสนอแบบแพ็คเกจ หวังกวาดเค้กชิ้นโตจากระบบ IAS 39 ในกลุ่มธุรกิจธนาคาร

.

เผยปี 51   จีเอเบิลครองส่วนแบ่งสูงสุดของกลุ่มบริษัทไอทีไทยในธุรกิจการให้บริการไอทีในตลาดสถาบันการเงินการธนาคาร  พร้อมตั้งเป้าปี 2009 ขยายตัวเพิ่ม 15 — 20 %                                             

.

นายไตรรัตน์ ใจสำราญ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทจีเอเบิล เปิดเผยถึงแนวโน้มการปรับตัวของกลุ่มธุรกิจธนาคารในเมืองไทยเพื่อรองรับมาตรฐานการบัญชีระหว่างประเทศว่า  เมื่อปลายปี 2549 ธนาคารแห่งประเทศไทยได้นำ IAS39 (International Accounting Standard 39) มาตรฐานการบัญชีที่กล่าวถึงการบันทึกบัญชี 

.

การวัดมูลค่าตราสารทางการเงินประเภทต่างๆ ตราสารอนุพันธ์ และการป้องกันความเสี่ยงมาบังคับใช้กับธนาคารทุกแห่งในประเทศไทย  ซึ่งจะเริ่มมีผล ณ วันที่ 1 มกราคม 2554 โดยจะต้องมีข้อมูลเปรียบเทียบทางบัญชีย้อนหลัง 2 ปี  ดังนั้นทุกธนาคารจะต้องเริ่มเก็บข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2552 

.

"ข้อมูล (Data) ถือว่าเป็นหัวใจหลักของการนำ  IAS 39 มาใช้ รวมถึงต้องมีการจัดเก็บอย่างถูกต้องเป็นระบบ มีประสิทธิภาพ  ซึ่งหากไม่เริ่มเก็บข้อมูลตั้งแต่ตอนนี้  ไม่มีระบบที่ดีเข้ามารองรับ   และเมื่อถึงวันบังคับใช้จริง แม้ธนาคารจะสามารถซื้อระบบได้ แต่ก็ไม่สามารถหาซื้อข้อมูลได้"

.

นายไตรรัตน์ กล่าวต่อว่า จีเอเบิลมีเจตนารมย์ที่จะนำเสนอโซลูชั่นทางด้านสถาบันการเงิน  และมักตอกย้ำเสมอถึงการเป็นผู้นำในตลาดไอที ของ Financial & Banking Service Sector  จีเอเบิลจึงเป็นแห่งแรกที่ได้คัดสรรโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพ และได้มาตรฐานระดับโลก เข้ามาตอบสนองการติดตั้งระบบ IAS 39 โดยการร่วมมือกับ FinArch บริษัทซอฟต์แวร์จากประเทศเบลเยี่ยม

.

FinArch มีความโดดเด่นในด้านปรัชญาการดำเนินธุรกิจ ซึ่งเติบโตมาจาก Auditor (ผู้ตรวจสอบบัญชี) จึงทำให้เข้าใจระบบบัญชีอย่างแท้จริง  ได้รับการยอมรับจากธนาคารขนาดใหญ่หลายแห่งในเบลเยี่ยม และยุโรป  รวมทั้งเป็นพาร์ทเนอร์ที่เคยร่วมงานกันมากว่า 2 ปี และให้ความสำคัญด้านการส่งมอบความสำเร็จร่วมกับ        จีเอเบิลมาโดยตลอด   

.

นายไตรรัตน์กล่าวถึงความร่วมมือและนโยบายการทำตลาดว่า จีเอเบิลมุ่งเน้นนำเสนอเป็นแพ็คเกจ ซึ่งประกอบไปด้วย Solution FinArch IAS 39 และ Implementation โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ Guide Line                             

.

ซึ่งเปรียบ เสมือน Knowledge ที่บ่งบอกถึงข้อมูลที่จำเป็น  วิธีการคิดคำนวณสูตร โดยจีเอเบิลคาดหวังที่มีส่วนแบ่งการ ตลาด IAS 39 สูงสุด เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดี สร้างข้อมูลตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องการได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ 

.

สำหรับกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ขนาดกลางและขนาดเล็กของไทย ที่มีสิทธิ์ในการเลือก และจัดซื้อจัดหาโซลูชั่น IAS 39 ได้เองจากซัพพลายเออร์ในประเทศ ทั้งนี้โซลูชั่นดังกล่าวต้องสอดคล้องกับกฎระเบียบของธนาคารแห่งประเทศไทยด้วย 

.

"แบงก์ชาติประกาศบังคับใช้ IAS 39 แล้ว ดังนั้นทุกแบงก์จะต้องใช้  แต่จะใช้แบบแพ็กเกจ หรือแบบเขียนเอง ซึ่งเรามองว่า เป็นโอกาสในการเสนอเป็นแพ็คเกจ เพราะบางแบงก์พยายามเขียนต่อยอดจากสิ่งที่มีอยู่ ปัญหาก็คือ การไม่ทราบมาตรฐานที่แท้จริงคืออะไร หรือว่า รู้เพียงบางส่วนแล้วมาเขียนต่อยอดไปเรื่อยๆ ไม่ได้รองรับเป็นเรื่องราว ระบบก็จะไม่ยืดหยุ่นพอ

.

ดังนั้นแพ็คเกจจึงตอบโจทย์ได้มากกว่า ด้วย Guide Line ให้มาเป็นเหมือน Knowledge Base หากไม่รู้เกี่ยวกับ IAS 39 มากนัก  แต่ตัวระบบจะมี Guide Line ให้  ซึ่งเป็นประโยชน์  ดีกว่าที่จะไปลองผิดลองถูก"

.

ทั้งนี้ จีเอเบิล ใช้เวลาในการเตรียมความพร้อมของทีมงานเพื่อรองรับระบบ IAS 39 มาตลอด 1 ปี  โดยประสานงานกับ FinArch ในการนำข้อบังคับต่างๆ ของธนาคารแห่งประเทศไทย ไปทำงานร่วมกับ FinArch เพื่อเลือกโซลูชั่นที่เหมาะสมกับธนาคารในเมืองไทยและสอดคล้องกับกฎของธนาคารแห่ปงระเทศไทย            

.

รวมถึงการพัฒนาทักษะทั้งด้านเทคนิค การ Implement การให้คำปรึกษา  เนื่องจากการเก็บข้อมูลเข้าระบบ  (Data Integration) ต้องเป็นข้อมูลที่ถูกต้องสอดคล้อง มีรูปแบบตรงตามระบบ IAS 39 พร้อมการแนะนำ Material ที่เหมาะสมมาช่วยดำเนินงาน 

.

นายไตรรัตน์  กล่าวย้ำว่า  จีเอเบิลเป็นบริษัทไอทีไทยที่มี Share Corporate สูงสุดของธุรกิจการ ให้ บริการไอทีใน  Financial  &  Banking  Service   Sector    โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2008 ที่ผ่านมา   Sector ดังกล่าว  จีเอเบิลมีรายได้ 1,500 ล้านบาท  และในปี 2009 นี้  คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก 15 — 20 %

.

"ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวอยู่ในขณะนี้   ธนาคารบางแห่งจะอาศัยจังหวะปรับตัว ปรับปรุงระบบการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเพื่อรองรับกับสภาพเศรษฐกิจที่จะฟื้นตัวในอนาคต รวมถึงรองรับการแข่งขันที่นับวันจะเพิ่มสูงขึ้น ไม่เพียงแข่งกันภายในประเทศ แต่ต้องแข่งขันระหว่างประเทศด้วย ไอทีจึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญ 

.

ดังนั้นจุดนี้จึงถือว่า เป็นโอกาสที่ดีสำหรับจีเอเบิล ซึ่งธนาคารเหล่านี้มีเป็นจำนวนมาก   ขณะเดียวกันก็มีโครงการที่เรากำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งจะต้องดำเนินการต่อไปให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์" นายไตรรัตน์กล่าวในตอนท้าย