เนื้อหาวันที่ : 2009-04-17 15:39:42 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 548 views

ญี่ปุ่นเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.พุ่งสูงสุดในรอบ 5 เดือน

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของญี่ปุ่นเดือนมี.ค.พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน หลังจากที่ดิ่งลงสู่ระดับ 26.2 จุดในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2525 บ่งบอกวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยในประเทศเริ่มคลี่คลายลงแล้ว

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของญี่ปุ่นเดือนมี.ค.พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่า วิกฤตเศรษฐกิจถดถอยในประเทศเริ่มคลี่คลายลงแล้ว                                             

.

สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคไต่ระดับขึ้นแตะที่ 28.9 จุดในเดือนมี.ค.จากระดับ 26.7 จุดในเดือนก.พ. โดยดัชนีเดินหน้าขึ้นเป็นเดือนที่ 3 หลังจากที่ดิ่งลงสู่ระดับ 26.2 จุดในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2525

.

นายกรัฐมนตรีทาโร่ อาโสะของญี่ปุ่น ได้ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 15.4 ล้านล้านเยน (1.56 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและรักษาเสถียรภาพในตลาดแรงงาน โดยความเชื่อมั่นผู้ประกอบการของญี่ปุ่นในเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือนหลังจากที่รัฐบาลเริ่มจ่ายเงินช่วยเหลือภาคครัวเรือนและลดค่าบริการทางหลวง 

.

ซูซูมุ คาโต้ นักวิเคราะห์จากบล.คาลิยง ซีเคียวริตี้ ในโตเกียวกล่าวกับบลูมเบิร์กว่า "ความเชื่อมั่นผู้บริโภคอาจฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องจากอานิสงส์ของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ที่มีขึ้นหลังจากมีการประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับก่อนๆไปแล้ว อย่างไรก็ตามอัตราการจ้างงานและรายได้ของประชาชนยังอยู่ในระดับต่ำ ดังนั้น ขณะนี้จึงเป็นการเร็วเกินไปที่ด่วนสรุปถึงแนวโน้มความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจในแง่บวก" 

.

ทั้งนี้ การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับที่ 3 ของอาโสะนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในเดือนก.ย.นั้นส่งผลให้รัฐบาลมีเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจรวมทั้งสิ้น 25 ล้านล้านเยน หรือคิดเป็น 5% ของผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ ขณะที่เศรษฐกิจหดตัวลง 12.1% ต่อปีในไตรมาส 4 ซึ่งทำสถิติดิ่งลงหนักสุดนับตั้งแต่ปี 2517 

.

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเปิดเผยว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่จะช่วยกระตุ้น GDP ให้ขยายตัวขึ้นได้ 2% ในปีงบประมาณปัจจุบันและจะสร้างงานได้ 500,000 คนต่อปี โดยมาตรการนี้จะมุ่งเน้นที่การช่วยเหลือคนทำงาน พัฒนาเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน และการปล่อยสินเชื่อภาคเอกชน ตลอดจนการดูแลสุขภาพ