ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ทั่วทั้งประเทศในปี 52 จะมีเม็ดเงินสะพัดประมาณ 101,600 ล้านบาท ลดลง 3.6% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่มีเม็ดเงินสะพัดกว่า 105,400 ล้านบาท เนื่องจากผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา ทำให้คนไทยต่างเน้นประหยัด แม้ว่าจะยังคงท่องเที่ยว                            

.

รวมทั้งผลกระทบจากความวุ่นวายทางการเมืองที่ทำให้คนกรุงเทพฯบางส่วนปรับเปลี่ยนแผนการเข้าร่วมกิจกรรม หรือหลีกเลี่ยงการมีกิจกรรมนอกบ้าน รวมถึงการที่เม็ดเงินสะพัดที่ลดลงจากการที่นักท่องเที่ยวต่างชาติหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยในช่วงนี้ด้วย

สำหรับการสำรวจพฤติกรรมของประชาชนในการเข้าร่วมงานประเพณีสงกรานต์ปี 2552 ของคนกรุงเทพฯ และการจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยรวมผลกระทบจากความไม่สงบทางการเมืองเข้าไปด้วยแล้ว คาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัด 22,100 ล้านบาท  ลดลง 2.2% เมื่อเทียบปีก่อน เนื่องจากผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา คนกรุงเทพฯมีความกังวลในเรื่องรายได้ในอนาคต และความมั่นคงในหน้าที่การงาน ทำให้ยังคงมีพฤติกรรมการใช้จ่ายอย่างประหยัด 

เม็ดเงินที่สะพัดกว่า 22,100 ล้านบาท แบ่งออกเป็น เม็ดเงินจากคนที่อยู่กรุงเทพฯ 3,900 ล้านบาท ลดลง 7.1% ซึ่งจะอยู่ในกรุงเทพฯและจังหวัดใกล้เคียง จากการเข้าร่วมกิจกรรมสงกรานต์ และการออกมาทำกิจกรรมนอกบ้าน รวมทั้งการเดินทางท่องเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับ ส่วนเม็ดเงินสะพัดจากคนที่ออกนอกกรุงเทพฯ 18,200 ล้านบาท ลดลง1.2% เมื่อเทียบปีก่อน เป็นเม็ดเงินที่คนกรุงเทพฯที่กลับไปเยี่ยมครอบครัวญาติในต่างจังหวัด ออกเที่ยวต่างจังหวัด และเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ 

อย่างไรก็ตาม หากรวมเม็ดเงินสะพัดของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่เข้ามาท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งมีแนวโน้มลดลงอย่างมาก จากการลดลงของอัตราการจองห้องพัก และการขอเลื่อนโปรแกรมการท่องเที่ยว

เนื่องจากผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจที่ทำให้ต้องประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยว และความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยทำให้หลีกเลี่ยงการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย จึงคาดว่าเม็ดเงินสะพัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในปี 52 ลดลงเหลือ 12,000 ล้านบาท หรือลดลง 20% เมื่อเทียบปีก่อน