จ้าว เสี่ยวหยู ชี้เศรษฐกิจเอเชียมีแนวโน้มฟื้นตัวจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกเร็วกว่าภูมิภาคอื่นๆ เนื่องจากธนาคารในเอเชียถือครองสินทรัพย์ทีมีปัญหาน้อยกว่าสถาบันการเงินในภูมิภาคอื่นๆ อีกทั้งนานาประเทศได้ให้ความร่วมมือกันมากขึ้นหลังจากวิกฤตต้มยำกุ้ง
จ้าว เสี่ยวหยู รองประธานธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชียหรือเอดีบี ชี้เศรษฐกิจเอเชียมีแนวโน้มฟื้นตัวจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกเร็วกว่าภูมิภาคอื่นๆ เนื่องจากธนาคารในเอเชียถือครองสินทรัพย์ทีมีปัญหาน้อยกว่าสถาบันการเงินในภูมิภาคอื่นๆ นอกจากนี้ ยังเป็นเพราะนานาประเทศได้ให้ความร่วมมือซึ่งกันและกันมากขึ้นหลังจากที่เกิดวิกฤตต้มยำกุ้งขึ้นเมื่อปี 2541 |
. |
สถาบันการเงินทั่วโลกต้องขาดทุนและมีมูลค่าสินทรัพย์ที่ลดลงไปถึง 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงที่เกิดวิกฤตการเงินครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ และในการประชุม G20 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่ประชุมก็ได้ให้คำมั่นว่า จะดำเนินการทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อฟื้นตลาดสินเชื่อทั่วโลก |
. |
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดว่า ยอดขาดทุนและมูลค่าสินทรัพย์ที่ถือครองโดยธนาคารและบริษัทประกันอาจจะพุ่งถึง 4 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งหน่วยงานที่มีปัญหาดังกล่าวส่วนใหญ่จะเป็นสถาบันการเงินในสหรัฐ |
. |
บลุมเบิร์กรายงานว่า รองประธานเอดีบีกล่าวต่อไปว่า สถาบันการเงินยุโรปและสหรัฐกำลังขายสินทรัพย์ในเอเชียของตนเองออกไปเพื่อถือครองเงินสด และปรับปรุงงบบัญชี เมื่อพิจารณาในระยะยาวแล้ว การกระทำดังกล่าวถือเป็นยุทธศาสตร์ที่ผิดพลาด แต่ในระยะสั้นถือเป็นเรื่องที่ต้องทำ เอดีบีคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจในเอเชีย ซึ่งไม่นับรวมญี่ปุ่น จะขยายตัว 3.4% ในปีนี้ และ 6% ในปีหน้า |
. |
รองประธานเอดีบีกล่าวต่อไปว่า สถานภาพทางการเงินที่เกี่ยวกับการค้าที่ดีขึ้นถือเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักของการฟื้นตัวก่อนใครในภูมิภาค วิกฤตการเงินทำให้ธนาคารทั่วโลกต้องลดการปล่อยเงินกู้ให้กับประเทศในตลาดเกิดใหม่ และลดการปล่อยสินเชื่อแก่ผู้นำเข้าและส่งออก |