เนื้อหาวันที่ : 2009-04-08 16:13:47 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1889 views

บลจ.ไอเอ็นจีคลอด 3 กองทุนเปิด "ไทย ไลฟ์ไซเคิล"

บลจ.ไอเอ็นจี คลอดกองทุนเปิด "ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ ไซเคิล" พร้อมกัน 3 กองทุนรวด ทั้ง "ไลฟ์ไซเคิล 2015, 2020 และ 2025" ยึดจุดหมายปลายทางในปีที่ผู้ลงทุนตั้งเป้าเกษียณเป็นหลัก พร้อมดีไซน์รูปแบบที่สอดคล้องกับแต่ละช่วงอายุ ชูจุดเด่นปรับสัดส่วนการลงทุนระหว่างตราสารทุนและตราสารหนี้แบบอัตโนมัติ

บลจ.ไอเอ็นจี คลอดกองทุนเปิด "ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ ไซเคิล" พร้อมกัน 3 กองทุนรวด ทั้ง "ไลฟ์ไซเคิล 2015, 2020 และ 2025" ยึดจุดหมายปลายทางในปีที่ผู้ลงทุนตั้งเป้าเกษียณเป็นหลัก พร้อมดีไซน์รูปแบบที่สอดคล้องกับแต่ละช่วงอายุ ชูจุดเด่นปรับสัดส่วนการลงทุนระหว่างตราสารทุนและตราสารหนี้แบบอัตโนมัติ  

.

หวังลดความเสี่ยงให้กับนักลงทุน เผยยิ่งเข้าใกล้วันหมดอายุกองทุน ยิ่งเพิ่มน้ำหนักตราสารหนี้ระยะสั้นจนถึงระดับ 100% เมื่อสิ้นอายุโครงการ มั่นใจช่วยสร้างความมั่นคงในวัยเกษียณ เสนอขาย IPO พร้อมกัน 19-26 มี.ค.นี้ จองขั้นต่ำเพียง 10,000 บาท

.

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวกองทุนใหม่ 3 กองทุนในซีรีย์ส "กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล" (ING Thai Lifecycle Fund) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุมัติจัดตั้งและจัดการจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

.

โดยกองทุนถูกออกแบบการลงทุนให้เหมาะสมและสอดคล้องกับช่วงอายุของผู้ลงทุน ได้แก่ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2015, กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2020 และกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2025 โดยใช้ปีที่ผู้ลงทุนต้องการเกษียณอายุเป็นตัวกำหนดเป้าหมายการลงทุน

.

นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย)

.

นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) กล่าวว่า จุดเด่นของกองทุนอยู่ที่การออกแบบการจัดสรรพอร์ตลงทุนตามอายุของผู้ถือหน่วยลงทุน ซึ่งความเสี่ยงของกองทุนจะลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการวางแผนการเงินของตนเองเพื่อสร้างโอกาสการมีเงินใช้อย่างสบายในวัยเกษียณ 

.

ทั้งนี้ แต่ละกองทุนจะมีเป้าหมายของปีที่คาดว่า จะเกษียณไว้ ซึ่งผู้ลงทุนสามารถเลือกได้ว่าจะเกษียณประมาณปีใด จาก 3 กอง ได้แก่ ปี 2015 ปี 2020 และปี 2025 โดยทั้ง 3 กองทุนนับเป็นนวัตกรรมใหม่สำหรับทางเลือกลงทุนก่อนวัยเกษียณ

.

สำหรับกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2025 จะมีอายุโครงการ 16 ปี 8 เดือน แต่มีสภาพคล่องด้วยการเปิดให้ซื้อ-ขายได้ทุกวันทำการ เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีอายุ 40-45 ปี และคาดว่าอยากจะเกษียณอายุในวัยประมาณ 60 ปี คือ ในปี 2023-2028 ซึ่งนักลงทุนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ยังอยู่ในวัยทำงานที่แสวงหาทั้งความมั่นคงในหน้าที่การงาน และความ   มั่งคั่งให้กับตนเอง การแสวงหาผลตอบแทนที่ดีพร้อมกับการยอมรับความเสี่ยงจึงยังมีได้มาก  

.

ดังนั้น สัดส่วนการลงทุนจะเน้นการลงทุนในตราสารทุนในช่วงปีแรกไม่เกินกว่า 55%  แต่ในปีใกล้สิ้นอายุของกองทุน ตราสารในพอร์ตการลงทุนจะมีการเพิ่มสัดส่วนตราสารหนี้ระยะสั้นมากขึ้นจนกลายเป็นตราสารหนี้ระยะสั้นทั้งหมดในวันสิ้นอายุกองทุน เพื่อลดความเสี่ยงในตลอดช่วงอายุการลงทุน

.

ขณะที่กองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2020 จะมีอายุโครงการ 11 ปี 8 เดือน เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีอายุ 45-50 ปี โดยคาดว่าจะเกษียณที่อายุประมาณ 60 ปี ในปี 2018-2023 ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความสม่ำเสมอของรายได้และ  รับความเสี่ยงได้น้อยลง ดังนั้น จึงให้น้ำหนักการลงทุนในตราสารหนี้มากขึ้น โดยจะลงทุนในตราสารทุนในช่วงปีแรกไม่เกินกว่า 45%

.

ส่วนกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2015 อายุโครงการ 6 ปี 8 เดือน เป็นกองทุนที่เหมาะกับผู้ลงทุนที่มีอายุ 50-55 ปี ซึ่งคาดว่าจะเกษียณที่อายุประมาณในปี 2013-2023 ดังนั้น การจัดสรรการลงทุนจะเน้นความปลอดภัยมากกว่าผลตอบแทนที่สูง เพื่อเตรียมเงินทุนไว้รองรับการใช้จ่ายในยามเกษียณแล้ว โดยในช่วงปีแรกจะลงทุนในตราสารทุนไม่เกินกว่า 30% และจะกลายเป็นตราสารหนี้ระยะสั้นในที่สุด

.

"เราอยากให้ผู้ลงทุนเชื่อมั่นว่า เราได้ออกแบบการปรับเปลี่ยนพอร์ตตามความเสี่ยงที่สอดคล้องกับระยะเวลาการลงทุนไว้เป็นอย่างดีระหว่างหุ้น ตราสารหนี้และเงินสด ทำให้ผู้ลงทุนไม่ต้องกังวลเรื่องจังหวะของการลงทุนและการเลือกลงทุนในแต่ละสินทรัพย์ เพราะทางไอเอ็นจีจะทำการปรับสัดส่วนการลงทุนให้ผู้ลงทุนเองโดยผู้จัดการกองทุนมืออาชีพที่จะทยอยลดการลงทุนในตราสารทุนไปสู่ตราสารหนี้ระยะสั้นเมื่อกองทุนเข้าใกล้วันหมดอายุ ซึ่งเมื่อสิ้นสุดโครงการ สัดส่วนการลงทุนจะขยับเข้าสู่การลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นครบ 100% " นายมาริษกล่าว

.

"กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล" ทั้ง 3 กองทุน เสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) พร้อมกัน ระหว่างวันที่ 19-26 มีนาคม 2552 โดยกำหนดวงเงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด โทร.0-2688-7777 หรือ www.ingfunds.co.th รวมทั้งที่ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารซิตี้แบงก์ ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น (HSBC) และผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนของ บลจ.ไอเอ็นจี

.

ธนาคาร ไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
บริษัทหลักทรัพย์ ซิมีโก้ จำกัด (มหาชน)  บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด
บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน)  บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน)

.
ธนาคาร ดอยซ์แบงก์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน)   
บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ซิกโก้ จำกัด (มหาชน)
บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด  บริษัทหลักทรัพย์ ไอวี โกลบอล จำกัด (มหาชน)
.
บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน จำกัด      บริษัทหลักทรัพย์ ไซรัส จำกัด (มหาชน)   
บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)  บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)    
บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด
.
บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
บริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน)  บริษัทหลักทรัพย์ ฟาร์อีสท์ จำกัด
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด  บริษัทหลักทรัพย์ ยูไนเต็ด จำกัด (มหาชน)