เนื้อหาวันที่ : 2009-04-08 11:44:55 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1701 views

แอลจีโชว์เทคโนโลยีหน้าจอสัมผัส S-Class UI บนมือถือ LG ARENA

แอลจี เผยโฉมนวตกรรมระบบปฏิบัติการขั้นสุดยอด บนโทรศัพท์มือถือระบบสัมผัส S-Class UI ในมือถือรุ่นไฮไลท์ของปี 2552 LG ARENA พร้อมให้ลูกค้าคนไทยได้สัมผัสก่อนใครโดยเปิดสั่งจองล่วงหน้า ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการทั่วประเทศปลายเมษายนนี้

.

แอลจี อีเลคทรอนิคส์ย้ำจุดยืนด้าน Customer Insight เผยโฉมนวตกรรมระบบปฏิบัติการขั้นสุดยอด บนโทรศัพท์มือถือระบบสัมผัส S-Class UI ที่จะพลิกประสบการณ์มัลติมีเดียอัจฉริยะให้ง่ายขึ้นจนคุณคาดไม่ถึงในมือถือรุ่นไฮไลท์ของปี 2552 LG ARENA พร้อมให้ลูกค้าคนไทยได้สัมผัสก่อนใครโดยเปิดสั่งจองล่วงหน้า ( Pre-booking) ที่ร้านเจมาร์ททุกสาขาทั่วกรุงเทพฯ ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการทั่วประเทศปลายเมษายนนี้ หลังยอดจองทะลุล้านเครื่องในยุโรป          

.

มร. เฮียน วู (ฮาเวิร์ด) ลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ที่ผ่านมาโทรศัพท์มือถือแอลจีได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคทั่วโลกเป็นอย่างดีในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้นำด้านการออกแบบและการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้บนโทรศัพท์มือถือเพื่อตอบสนองความต้องการที่แท้จริงในการใช้งานของผู้บริโภค ซึ่งเป็นนโยบายของบริษัทฯ ที่มุ่งวิจัยและศึกษาถึงความต้องการของลูกค้า (Customer Insight) และนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคได้อย่างสมบูรณ์แบบมากที่สุด   

.

โดยผลงานล่าสุดของแอลจี อีเลคทรอนิคส์ คือ เทคโนโลยีหน้าจอสัมผัส S-Class User Interface (S : Superior) ที่ได้นำมาใช้เป็นครั้งแรกบนโทรศัพท์มือถือแบบหน้าจอสัมผัสรุ่นใหม่ LG ARENA ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ของปี 2552 เพื่อนำเสนอประสบการณ์ใหม่ๆ ของการใช้งานด้านมัลติมีเดียบนโทรศัพท์มือถือที่มีสีสันและลูกเล่นที่ล้ำสมัยมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันยังคงให้ความสำคัญกับการใช้งานที่ง่ายและตอบความต้องการของลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ 

.

สำหรับความพิเศษของ S-Class UI ได้รับการพัฒนาขึ้นภายใต้โครงสร้างแบบ 3 มิติและการตอบสนองที่รวดเร็วต่อการสัมผัส โดยมีความโดดเด่นด้วยการออกแบบเมนูทรงลูกบาศก์ (Cube) และสามารถใช้ปลายนิ้วสัมผัสเพื่อหมุนเลือกใช้งานและจัดการเมนูต่างๆ ได้อย่างอิสระจากทั้ง 4 ด้าน และการทำงานของทุกฟังก์ชั่นถูกออกแบบให้มีสีสันและการตอบสนองที่รวดเร็ว   

.

รวมถึงการรองรับระบบสัมผัสแบบ Multi-touch ซึ่งจะให้รูปแบบการควบคุมด้วยปลายนิ้วแตกต่างไปจากระบบสัมผัสทั่วๆ ไปอย่างสิ้นเชิง โดยนอกจากการสั่งงานด้วยการสัมผัสแบบเดิมแล้วระบบนี้ได้เพิ่มความคล่องตัวในการควบคุมผ่านการสัมผัสแบบ 2 จุดเพื่อสั่งงานในอีกรูปแบบหนึ่งได้ง่ายดายมากขึ้น อาทิ การใช้ 2 นิ้วในการขยายหรือย่อรูปภาพควบคุมการเลื่อนหน้าจอแทน Scroll bar หรือใช้ขยายและย่อรูป     

.

นอกจากนี้การควบคุมการทำงานในแต่ละฟังก์ชั่นก็ได้รับการออกแบบให้มีเอกลักษณ์เฉพาะแต่ละฟังก์ชั่นเพื่อสร้างความรู้สึกตอบสนองและการใช้งานที่สะดวกแก่ผู้บริโภค อาทิ ระบบเสียงแบบ Dolby sound ที่ดัง surround รอบทิศทางที่ช่วยเพิ่มอรรถรสในการชมวิดีโอ หรือ ภาพยนตร์ผ่านโทรศัพท์มือถือ หรือกล้องดิจิตอลที่หน้าจอจะได้รับการออกแบบให้มีปุ่มควบคุมเหมือนกับกล้อง SLR หรือ ฟังก์ชั่น MP3 จะถูกออกแบบให้หน้าจอเป็นตู้เพลง (Juke Box)

.

S-Class UI ไม่เพียงแต่ให้ประโยชน์ใช้สอยที่ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังมอบประสบการณ์ความสนุกมากขึ้นอีกด้วยลูกเล่นกราฟฟิคสีสันสดใสที่มอบความรู้สึกการตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวจริง อาทิ ภาพใน Floating Image Gallery จะเลื่อนออกไปนอกจอเมื่อโทรศัพท์ถูกวางในแนวนอน และเพิ่มความสะดวกในการค้นหาภาพด้วยการลากนิ้วจากบนลงล่างและข้ามไปสู่แฟ้มอื่นด้วยการลากนิ้วจากซ้ายไปขวา

.

ที่สำคัญ LG ARENA ยังได้รับการพัฒนาระบบเสียง, เทคโนโลยีหน้าจอ และฟังชั่นการใช้งานมัลติมีเดียให้มีมาตรฐานใหม่ซึ่งถูกนำมาใช้ร่วมกับระบบ S-Class UI อย่างสมบูรณ์แบบ และจะกลายเป็นมาตรฐานการใช้งานสำหรับโทรศัพท์มือถือระดับไฮเอนด์ของแอลจี อีเลคทรอนิคส์ในรุ่นต่อๆ ไปอีกด้วย 

.

ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาแอลจี อีเลคทรอนิคส์ ได้เปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่น LG ARENA และเทคโนโลยีหน้าจอสัมผัสล่าสุดของแอลจีคือ S-Class UI เป็นครั้งแรกในงาน Mobile World Congress 2009 ที่ประเทศสเปน และหลังจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในยุโรป LG ARENA สามารถสร้างกระแสการตอบรับได้เป็นอย่างดี ด้วยยอดสั่งจองล่วงหน้าถึง 1 ล้านเครื่องจากทั่วโลก

.

สำหรับผู้บริโภคคนไทย ทางแอลจีฯจะเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจสามารถสั่งจองล่วงหน้า ( Pre-booking) เพื่อสัมผัสประสบการณ์มือถือมัลติมีเดียที่สมบูรณ์แบบที่สุดในวงการมือถือก่อนใครได้ที่ร้านเจมาร์ททุกสาขาทั่วกรุงเทพฯตั้งแต่วันที่ 17-30 เมษายนนี้ พร้อมรับชุดอุปกรณ์เสริมพิเศษ อาทิ speaker stand มูลค่ารวมกว่า 4,000 บาท ก่อนจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเป็นประเทศแรกในเอเชียปลายเดือนเมษายนนี้