เนื้อหาวันที่ : 2006-10-10 09:10:06 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 6553 views

โรงงานกำจัดกากอุตสาหกรรมแปรสภาพเป็นพลังงานไอน้ำ

ปัจจุบันนี้ปัญหาเรื่องการจัดการขยะเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลกเลยทีเดียว ในอุตสาหกรรมหลังจากผลิตสินค้าต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ย่อมต้องมีการนำวัตถุดิบทรัพยากรธรรมชาติและพลังงานต่าง ๆ มาใช้ในกระบวนการแปรรูป เพื่อทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ตามที่มนุษย์ต้องการ แล้วสิ่งที่ตามมาด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นั่นก็คือ ของเสีย หรือ มลพิษ อันไม่พึงประสงค์ ทั้งที่เป็นอันตรายและไม่เป็นอันตรายเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ปัญหาเรื่องการจัดการขยะเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลกเลยทีเดียว ในอุตสาหกรรมหลังจากผลิตสินค้าต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ย่อมต้องมีการนำวัตถุดิบทรัพยากรธรรมชาติและพลังงานต่าง ๆ มาใช้ในกระบวนการแปรรูป  เพื่อทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ตามที่มนุษย์ต้องการ  แล้วสิ่งที่ตามมาด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นั่นก็คือ ของเสีย หรือ มลพิษ อันไม่พึงประสงค์ ทั้งที่เป็นอันตรายและไม่เป็นอันตรายเป็นจำนวนมาก เช่น กากอุตสาหกรรม น้ำเสีย ฝุ่นละออง เป็นต้น

 .

 .

โรงงานอุตสาหกรรมเป็นแหล่งผลิตในฐานะตัวการทำลายสิ่งแวดล้อมและตัวการทำลายทรัพยากรของโลก อัตราการทำลายสิ่งแวดล้อมและความเสี่ยงต่อพิษภัยที่กระทบกับความเป็นอยู่ในชุมชนจะเพิ่มทวีคูณ หากผู้ประกอบการธุรกิจและอุตสาหกรรมขาดความเอาใจใส่และทำการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างเหมาะสม เพราะขณะนี้ภัยที่น่ากลัวจากโรงงานและแหล่งผลิตได้สะท้อนไปยังผู้บริโภค ซึ่งนำไปสู่การสร้างกระแสการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม หันไปให้ความสำคัญเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยและต่อต้านไม่ซื้อผลิตภัณฑ์ที่ทำลายสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับกระแสการนำเอามาตรฐานการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมของผู้ประกอบการธุรกิจและอุตสาหกรรมมาใช้ในกระบวนแปรรูปนั่นเอง

 .

สำหรับคอลัมน์ Plant Tour ฉบับนี้ จะนำพาท่านผู้อ่านไปพบกับโครงการกำจัดการของเสียด้วยเทคโนโลยีแปรสภาพให้เป็นพลังงานไอน้ำจากวัสดุเหลือใช้ที่ได้มาตรฐานแห่งแรกในเมืองไทย โดยมีนายเอ็ดเวิร์ด เอ.คอร์คอแรน ประธานกรรมการ และผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายปฏิบัติการ นายจักรมณฑ์ ผาสุกวณิช ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และนายอุทัย จันทิมา ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้แนะนำความเป็นมาและประโยชน์ของโครงการฯ ซึ่งนับได้ว่าเป็นมิติใหม่ของการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมที่ถูกต้องตามมาตรฐานสากล ของบริษัท บางปู เอนไวรอนเมนทอลคอมเพล็กส์ จำกัด (BPEC) ซึ่งตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการ

 .

นายเอ็ดเวิร์ด เอ.คอร์คอแรน

ประธานกรรมการ และผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายปฏิบัติการ

 .

นายจักรมณฑ์ ผาสุกวณิช

ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม

 .

นายอุทัย จันทิมา

ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

 .
ความเป็นมาของโครงการ

บริษัท โมเดิร์น เอเชีย เอนไวรอนเมลทอล จำกัด (MAEL) เป็นบริษัทแม่และเป็นเจ้าของ บริษัท บางปู เอนไวรอนเมนทอล คอมเพล็กส์ จำกัด (BPEC) บริษัท อีสเทิร์น ซีบอร์ด เอนไวรอนเมทอล คอมเพล็กส์ จำกัด (ESBEC) และบริษัท เวสท์ แมเนจเม้นท์ สยาม จำกัด (WMS) โดยที่บริษัท บางปู เอนไวรอนเมนทอล คอมเพล็กส์ จำกัด นั้นเป็นโครงการใช้ประโยชน์พลังงานไอน้ำจากวัสดุเหลือใช้ และ โดย บริษัท อีสเทิร์น ซีบอร์ด เอนไวรอนเมทอล คอมเพล็กส์ จำกัด เป็นผู้ให้บริการกำจัดกากอุตสาหกรรมแบบไม่อันตรายอย่างครบวงจรด้วยวิธีการฝังกลบ อย่างถูกสุขลักษณะ รับกำจัดกากของเสียที่เกิดจากกระบวนการทำงานของ บริษัท บางปู เอนไวรอนเมนทอล คอมเพล็กส์ จำกัด อีกด้วย ซึ่งทั้ง บริษัท บางปู เอนไวรอนเมนทอล คอมเพล็กส์ จำกัด และ บริษัท อีสเทิร์น ซีบอร์ด เอนไวรอนเมทอล คอมเพล็กส์ จำกัด นั้นมีบริษัท เวสท์ แมเนจเม้นท์ สยาม จำกัด เป็นผู้บริหารโครงการ

 .

สำหรับโครงการนี้เป็นการประสานการทำงานระหว่างบริษัท เวสท์ แมเนจเม้นท์ สยาม จำกัด และ บริษัท อีสเทิร์น ซีบอร์ด เอนไวรอนเมทอล คอมเพล็กส์ จำกัด โดยความร่วมมือจากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) จะทำให้บริษัท บางปู เอนไวรอนเมนทอล คอมเพล็กส์ จำกัด สามารถทำให้บริการลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์ตั้งแต่การจัดเก็บ การขนส่ง การคัดแยกเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่และการกำจัดอย่างถูกต้อง โดยเป็นการกำจัดด้วยเทคโนโลยีการแปรสภาพของเสียให้กลายเป็นไอน้ำด้วยระบบ Fluidized Bed โดยได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐบาลของประเทศญี่ปุ่น

 .

การให้บริการของโครงการ
การให้บริการของ บริษัท บางปู เอนไวรอนเมนทอล คอมเพล็กซ์ นั้นได้แบ่งกระบวนการ ออกเป็น 4 ขั้นตอนใหญ่ ๆ ดังนี้ คือ
 .

การจัดเก็บและการขนส่งกากของเสีย  เจ้าหน้าที่แผนกขนส่งของจะทำการจัดเก็บถังบรรจุกากของเสียจากโรงงานของลูกค้าและขนส่งมายัง BPEC ด้วยรถบรรทุกกากของเสียที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะ ชนิดและขนาดของถังบรรจุกากของเสียที่จัดให้บริการลูกค้านั้นจะขึ้นอยู่กับชนิดและปริมาณของกากของเสียรวมไปถึงความถี่ในการจัดเก็บด้วย ทั้งถังบรรจุกากของเสีย รถขนส่งกากของเสีย ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการฝึกอบรมมาอย่างดี ทำให้สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างปลอดภัย ภายใต้ข้อกำหนด ISO 14001 และ 9001 ทุกประการ

 .

การกำจัดของเสียด้วยเทคโนโลยีการแปรสภาพของเสียให้กลายเป็นพลังงานไอน้ำ สำหรับกากของเสียที่ไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้นั้น จะถูกนำไปกำจัดด้วยความร้อน โดยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและได้ประโยชน์เป็นพลังงานไอน้ำ การทำลายด้วยความร้อนแบบ Fluidized Bed นี้จะดำเนินงานควบคุม โดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ประกอบกับระบบคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัย ทำให้ระบบการทำงานนี้เป็นไปอย่างปลอดภัยตามข้อกำหนดของไทยและสากลทุกประการ

 .

การกำจัดของเสียด้วยวิธีการฝังกลบที่ถูกสุขลักษณะ  กากของเสียหรือเถ้าที่เกิดขึ้นจากกระบวนการการทำลายด้วยความร้อนนั้นจะถูกนำไปกำจัดที่  ESBEC ด้วยวิธีการฝังกลบแบบถูกสุขลักษณะที่ได้รับการออกแบบตามมาตรฐานทั้งของไทยและสากล โดยมีระบบชั้นปูรองรับขยะ 3 ชั้น ด้วยกัน โดยมีระบบการรวบรวมและบำบัดน้ำชะขยะ รวมถึงระบบรวบรวมและกำจัดก๊าซที่เกิดขึ้นจากหลุมฝังกลบ ESBEC เป็นโครงการที่ให้บริการกำจัดกากของเสีย โดยไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม และมีการบันทึกข้อมูลเป็นลายลักษณ์อักษร สามารถตรวจสอบได้ นอกจากนั้น ESBEC ยังได้มีการจัดตั้งกองทุนเพื่อการปิดหลุมและดูแลภายหลังการปิดหลุมอีกด้วย

 .

ระบบเอกสารกำกับการขนส่ง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ขนส่งจะเดินทางไปเก็บขนกากของเสียจากลูกค้านั้น เจ้าหน้าที่ลูกค้าสัมพันธ์ของโครงการฯ จะทำการวางแผนเส้นทางและ ประสานงานในการออกเอกสารกำกับการขนส่งกากของเสีย โดยที่ทั้งลูกค้าเองและเจ้าหน้าที่ด้านขนส่งของโครงการฯ ต้องทำการลงนามในเอกสารกำกับ การขนส่งดังกล่าวทุกครั้งที่เดินทางไปรับกากของเสียฯ จากลูกค้า เอกสารชุดนี้จะทำการยืนยันว่าโครงการฯ ได้ทำการจัดเก็บ ขนส่ง และกำจัดกากของเสียชนิดนั้น ๆ ได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย และเป็นไปตามข้อกำหนดใน ISO 14001 ทุกประการ นอกจากนั้น โครงการฯ ยินดีที่จะจัดเตรียมเอกสารต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับลูกค้าที่ต้องการทำการตรวจสอบเป็นกรณีเฉพาะอีกด้วย

.

 

.

.
กากของเสียที่ให้บริการกำจัด

1.กากของเสียทั่วไปจากอุตสาหกรรมและสำนักงานที่ไม่ปนเปื้อนสารอันตราย

2.กากของเสียทั่วไปจากภาคธุรกิจและโรงงาน

3.น้ำเสีย กากตะกอนจากระบบบำบัดน้ำเสีย

4.ผลิตภัณฑ์หมดอายุและผลิตภัณฑ์ไม่ได้คุณภาพ

5.พลาสติก ชิ้นส่วนพลาสติก เศษเรซิน

6.ชิ้นส่วนยางต่าง ๆ  ยางสังเคราะห์ ยางรถยนต์  ชิ้นส่วนหนัง  เศษหนังที่ฟอกแล้ว

7.ทรายจากเบ้าหลอม  ฝุ่นเหล็ก ฝุ่นผงขี้เถ้าจากเตาเผา ฝุ่นหนังจากการขัดผิว ตะกรันจากเบ้าหลอม

8.ตัวเร่งปฏิกิริยา (เฉพาะที่ไม่เป็นอันตรายเท่านั้น)

9.เศษแก้ว   กระจก  กระเบื้อง เซรามิค  เลนส์  แผ่นดิสก์

10.ชิ้นเหล็ก เศษวัสดุจากการก่อสร้าง

11.ขยะไม่เป็นอันตรายจากชุมชน

หมายเหตุ : กากของเสียแบบไม่อันตราย ถือตามประกาศฉบับที่ 1 ปี พ.ศ.2541 ของกระทรวงอุตสาหกรรม

 .

.
Fluidized Bed System
ระบบการลำเลียงกากของเสีย  ประกอบด้วยบริเวณรับขยะ เครื่องย่อยขยะ ตัวตักยกขยะ สายพานลำเลียงและระบบควบคุม
 .

ระบบเผาไหม้  ในการทำงานของระบบการเผาไหม้ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดนั้น จะประกอบด้วย 3 T คือ Temperature Turbulence และ Time นั่นคือการควบคุมให้อุณหภูมิในการเผาไหม้คงที่ตลอดเวลา และไม่ต่ำกว่า 950 องศาเซลเซียส ด้วยการควบคุมการระบายอากาศส่วนเกิด เพื่อช่วยให้เกิดการเผาไหม้ได้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งติดตั้งระบบสเปรย์น้ำเพื่อช่วยควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสม และสม่ำเสมอทั่วทุกจุด

 .

ระบบการทำให้ก๊าซเย็นตัว ในขบวนการแปรสภาพของเสียเป็นพลังงานไอน้ำ โดยใช้ของเสียเป็นเชื้อเพลิงเองนั้น จำเป็นต้องควบคุมการเกิดไดอ๊อกซิน และก๊าซออกไซด์ของไนโตรเจน โดยหลังจากที่เกิดการเผาไหม้แล้ว จะเกิดก๊าซหรือไอร้อนที่อุณหภูมิประมาณ 950 องศาเซลเซียส ขึ้น ก๊าซหรือไอน้ำร้อนนี้ต้องถูกทำให้เย็นลงจนเหลืออุณหภูมิเหลือประมาณ 160 องศาเซลเซียส ก่อนที่จะส่งต่อยังระบบทำความสะอาดก๊าซต่อไป ระบบทำให้ก๊าซเย็นตัวนี้ประกอบไปด้วย หม้อต้ม และหอกลั่นเย็น ที่หม้อต้มนี้เองที่จะมีกระบวนการผลิตพลังงานไอน้ำเกิดขึ้นที่ประมาณ 17.6 ตันต่อชั่วโมง

 .

ระบบการทำความสะอาดก๊าซ ระบบทำความสะอาดก๊าซนี้ประกอบด้วย 1.Dry Scrubber ซึ่งจะลดความเข้มข้นของ SO 2 และ HCI โดยการฉีด Slacked Lime เข้าไปทำปฏิกิริยากับก๊าซเสีย 2.Activated Carbon Injection System หรือการฉีด Activated carbon เข้าไปเพื่อกำจัด Dioxin ด้วยการดูดซับ 3.Bag Filter หรือ การกำจัดฝุ่นโดยใช้ตัวกรอง ซึ่งถุงกรองที่ใช้นี้ทนความร้อนได้สูงถึง 1,600 องศาเซลเซียส และ 4. Wet Scrubber ที่จะทำการลดความเข้มข้นของ SO 2 และ HCI ที่ออกมาจาก Bag Filter ให้ได้ตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด

 .

ระบบการจัดการกับสารที่เผาไหม้ไม่ได้รวมถึงเถ้าที่เกิดจากการเผาไหม้ สารหรือวัสดุที่เผาไหมไม่ได้ พร้อมด้วยทรายนำความร้อนที่หมดอายุการใช้งานแล้วจะถูกนำออกมาจากระบบและคัดแยกออกเพื่อทำการรีไซเคิล หรือส่งไปทำลายที่ ESBEC

 .
ขั้นตอนการดำเนินงานของ ESBEC

กากของเสียหรือเถ้าที่เกิดขึ้นจากกระบวนการการทำลายด้วยความร้อน จากโครงการฯ ของ บริษัท บางปู เอนไวรอนเมนทอลคอมเพล็กส์ จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการนั้น จะถูกนำไปกำจัดที่ศูนย์กำจัดของเสียครบวงจรของ บริษัท อีสเทิร์น ซีบอร์ด เอนไวรอนเมทอล คอมเพล็กส์ จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณนิคมอุตสาหกรรมชลบุรี (บ่อวิน) ของบริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) ในตำบลบ่อวิน อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี โดยมีพื้นที่ประมาณ 75 ไร่ และมีพื้นที่สำรองอีกประมาณ 275 ไร่ ซึ่งมีขั้นตอนการดำเนินงาน โดยแบบออกเป็น 3 ส่วน ด้วยกัน ดังนี้

 .
ส่วนที่ 1 ประกอบด้วย

หลุมฝังกลบแบบถูกสุขลักษณะ นำเสนอต้นแบบที่แท้จริงของหลุมฝังกลบที่ถูกสุขลักษณะตามมาตรฐาน US-EPA ที่มีความเข้มงวดสูงและได้รับการอนุมัติในรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม โดยสำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม (สผ.) นับตั้งแต่การออกแบบโดยใช้เทคโนโลยีการปูพื้นหลุมที่ทันสมัย การรวบรวมและบำบัดน้ำเสียที่เกิดจากการย่อยสลายของขยะ การเฝ้าตรวจสอบคุณภาพน้ำใต้ดินและน้ำผิวดิน การรวบรวมและควบคุมก๊าซชีวภาพ พร้อมทั้งปฏิบัติการต่าง ๆ ที่ประกันได้ว่าของเสียและผลเสียพลอยได้ที่เกิดขึ้นจะได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม พร้อมแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอยด้วยวิธีการที่เป็นแบบแผนในระยะยาว และพร้อมรับผิดชอบเต็มที่ต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

 .

ระบบบำบัดน้ำเสียและน้ำชะขยะ หลุมฝังกลบมีระบบบำบัดน้ำเสียที่ออกแบบพิเศษให้สามารถบำบัดน้ำเสียจากโรงงานลูกค้าที่มีค่า BOD และ COD สูง ๆ ได้ นอกจากนั้นยังสามารถบำบัดน้ำชะขยะซึ่งเป็นน้ำที่เกิดจากขยะก้นหลุม และถูกปั้มผ่านท่อเข้าสู่ระบบบำบัดชีวภาพแบบอัตโนมัติ หรือ Sequencing Batch Reactor (SBR’s) ซึ่งอาศัยแบคทีเรียเป็นตัวบริโภคอินทรีย์สารที่ปนเปื้อนในน้ำขยะซึ่งจะต้องมีการปรับปรุงคุณภาพน้ำเสีย ก่อนและหลังใช้ระบบ SBR’s เพื่อให้เหมาะสมต่อขบวนการบำบัดและได้ประสิทธิภาพสูงสุด

 .

ระบบกำจัดก๊าซชีวภาพ  ก๊าซชีวภาพที่เกิดจากการย่อยสลายของขยะก้นหลุมซึ่งเป็นส่วนผสมของก๊าซมีเทนและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในสัดส่วน 50/50 นั้นจะถูกรวบรวมโดยการปั้มผ่านระบบท่อมาเผาทิ้งยังปล่องไฟที่ได้รับการออกแบบตามมาตรฐานสิ่งแวดล้อมของประเทศสหรัฐอเมริกา (US-EPA) เพื่อกำจัดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์และสร้างสภาวะใกล้เคียงสูญญากาศภายในหลุมฝังกลบ

 .

ระบบควบคุมและตรวจสอบสภาพแวดล้อม ระบบการควบคุมและตรวจสอบสภาพแวดล้อมแบบเข้มงวดถูกนำมาปฏิบัติเพื่อให้สอดคล้องตามมาตรฐานที่ยอมรับกันทั่วโลก โดยมีรายละเอียดระบุไว้ชัดเจนในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ที่โครงการฯ ได้รับอนุมัติ ซึ่งจะครอบคลุมถึงเรื่องของน้ำใต้ดิน น้ำผิวดิน ฝุ่นละออง กลิ่น คุณภาพอากาศ โปรแกรมการตรวจสอบความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การขนส่ง ฯลฯ เพื่อให้โครงการนี้เป็นไปตามมาตรฐาน ISO 9000 และ 14000 ทุกประการ

 .

สาธารณูปโภคพื้นฐาน โครงการได้จัดสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานต่าง ๆ ที่จำเป็นโดยครบถ้วน เช่น ถนน ระบบระบายน้ำและป้องกันน้ำท่วม ระบบปั้ม ระบบไฟฟ้า ระบบสื่อสาร และระบบบำบัดน้ำเสีย โดยรอบโครงการจะก่อสร้างคันดินสูง 1.5 เมตร เพื่อเป็นการป้องกันน้ำท่วมเข้า-ออกในโครงการ

.
ส่วนที่ 2 ประกอบด้วย

โรงงานคัดแยกมูลฝอย  ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ในการคัดแยกวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้ใหม่ ๆ อาทิ โลหะ แก้ว กระดาษ พลาสติกและอื่น ๆ ขยะจะได้รับการคัดแยกด้วยกระบวนการ 2 ส่วน คือ การคัดแยกโดยใช้แรงงานมนุษย์ และการคัดแยกด้วยเครื่องจักรกล เพื่อนำทรัพยากรที่มีค่ากลับคืนสู่ระบบผลิตอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนี้กระบวนการดังกล่าวยังสนับสนุนให้เกิดการจ้างงานในท้องถิ่นอีกด้วย ระบบสายพานลำเลียงและอุปกรณ์การขนส่งเป็นอีกส่วนหนึ่งทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 .

โรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์   มูลฝอยประเภทอินทรีย์สารจะถูกคัดแยกโดยเครื่องจักรกลเพื่อนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ โดยจะนำความรู้ด้านวิศวกรรมที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกมาประยุกต์ใช้ในขั้นตอนการออกแบบก่อสร้างโรงงาน เพื่อควบคุมปัญหามลภาวะด้านกลิ่น น้ำเสีย และอื่น ๆ อย่างถูกต้องตามหลักวิศวกรรม ตลอดจนมีการควบคุมคุณภาพของผลผลิตให้สามารถแข่งขันและทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลง / ศัตรูพืชต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจและรักษาสิ่งแวดล้อมได้ในขณะเดียวกัน

 .
ส่วนที่ 3 ประกอบด้วย

สาธารณะสถานภายหลังปิดโครงการ เมื่อหลุมฝังกลมเต็มแล้ว พื้นที่นั้นจะได้รับการปรับปรุงให้มีความเหมาะสมที่จะพัฒนาเป็นสวนสาธารณะ โดยการปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวหรืออาจพัฒนาเป็นสนามกีฬา หรือพื้นที่เอนกประสงค์ต่อไป

 .
ประโยชน์ของโครงการ BPEC

ด้านเทคโนโลยี  ระบบการแปรสภาพของเสียให้กลายเป็นพลังงานไอน้ำแบบ Fluidized Bed เป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีระบบการทำความสะอาดก๊าซทำให้ Air Emission ลดลงได้ อีกทั้งยังลดขนาดพื้นที่ในการกำจัดของเสีย และเพิ่มขีดความสามารถในการใช้พลังงาน

 .

ด้านลูกค้า ต้องปฏิบัติตามข้อบังคับกฎหมายของไทย ISO 14001 และ 9001 รวมถึงมาตรฐานของโลก โดยลูกค้าจะได้รับการบริการที่ตรงตามความต้องการด้านสิ่งแวดล้อมในทุกด้าน ซึ่งจะช่วยลดภาระความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ที่อาจเกี่ยวโยงไปถึงความเสี่ยงด้านสถานะการเงิน โดยลูกค้าจะได้รับการประกันด้านการบริการด้วยมาตรฐานสูงสุดเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างราบรื่น และรวมถึงต้นทุนในการกำจัดกากของเสียโดยรวม มีคุ้มราคาค่าบริการที่ลูกค้าจะได้รับ

 .

ด้านชุมชน เปิดโอกาสให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมรับรู้กิจกรรมของโครงการฯ โดยสนับสนุนด้านการศึกษาและระบบสุขาภิบาลในท้องถิ่น พัฒนาให้ชุมชนสะอาดและมีสุขอนามัยที่ดี สนับสนุนด้านเงินทุนในการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม โดยนำรายได้จากค่าบริการของโครงการฯ เข้ามาสนับสนุนท้องถิ่น มีการจ้างแรงงานและฝึกอบรมแรงงานในโครงการฯ เพื่อให้คนในชุมชนมีรายได้

 .
สรุป

จากสภาวะปัจจุบันนี้ประชากรเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ และมีการชีวิตความเป็นอยู่อย่างแออัด ทำให้ปริมาณขยะล้นประเทศ ซึ่งแต่ละประเทศก็มีกฎหมาย ข้อห้าม กฎระเบียบต่าง ๆ เกี่ยวกับขยะอย่างมากมาย มีการจัดตั้งองค์กรต่าง ๆ ขึ้นมาเพื่อพิทักษ์สิ่งแวดล้อมไปทั่วทุกมุมโลก ในกระแสเรื่องสิ่งแวดล้อมและสิทธิมนุษยชนนี้ ไม่มีใครคนใดคนหนึ่งที่ต้องผูกขาดการแก้ปัญหาแต่เพียงผู้เดียว ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานรัฐ หรือเอ็นจีโอ ทุกกลุ่มล้วนมีข้อจำกัดของตัวเอง การมีจริยธรรมของธุรกิจนั้นไม่เพียงแต่แสดงออกซึ่งการรับผิดชอบต่อผู้บริโภคด้วยการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ไม่เอาเปรียบผู้บริโภค และไม่ทำร้ายใครในกระบวนการผลิตแล้ว ยังสามารถแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมได้เกือบทุกเรื่องในโลกนี้ เราต้องยอมรับว่าปัญหาสิ่งแวดล้อมเกิดจากการดื่ม กิน เสพสุข เกิดจากการบริโภค ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสารพิษ ปัญหาขยะ ปัญหามลภาวะทางดิน น้ำ อากาศ ปัญหาโลกร้อน ล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาที่เกิดจากน้ำมือของมวลมนุษย์แทบทั้งสิ้น จึงเป็นสิ่งที่เราทุกคนจะหลีกเลี่ยงหรือปฏิเสธไม่ได้

 
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
คุณกรริกา สายพันธุ์ และคุณนวธิดา บัวโชติ บริษัท ออล สไมส์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด
โทรศัพท์ 0-2909-8530-1 โทรสาร 0-2909-8536