เนื้อหาวันที่ : 2009-03-26 13:11:53 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 543 views

ไทยเตรียมเสนอตั้ง Infrastructure Fund ในเวที รมว.คลังอาเซียน 6-9 เม.ย.

นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม รมว.คลังอาเซียน ครั้งที่ 13 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในระหว่างวันที่ 6-9 เม.ย.52 โดยการประชุมครั้งนี้จะหารือประเด็นสำคัญ คือ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศในภูมิภาคอาเซียนผ่านกลไกทางการเงินต่างๆ ซึ่งจะมีการนำเสนอแนวทางการตั้ง Infrastructure Fund โดยใช้เงินสำรองของประเทศสมาชิกเข้ามาลงทุน                

.

สำหรับรูปแบบการดำเนินการอาจผ่านทางธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย(เอดีบี)ในลักษณะคล้ายการจัดตั้งกองทุนเงินสำรองระหว่างประเทศตามมาตรการริเริ่มที่เชียงใหม่ ซึ่งอาจออกเป็นรูปตั๋วสัญญาใช้เงินและมีการเบิกจ่ายเงินเมื่อมีการใช้เงินจริง การดำเนินการดังกล่าวเพื่อเป็นประโยชน์ต่อประเทศสมาชิกอาเซียนรวมถึงไทยในการจัดหาแหล่งเงินทุนเพื่อใช้ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ และการจัดทำมาตรการเสริมกระตุ้นเศรษฐกิจระยะปานกลางถึงระยะยาวท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจโลก                             

.

นายกรณ์ กล่าวว่า ปัจจุบันเงินทุนสำรองระหว่างประเทศในอาเซียนมีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงเห็นว่าควรอาศัยช่องทางดังกล่าวในการนำเงินทุนสำรองออกมาลงทุนในอาเซียนโดยตรง ทั้งนี้ไทยจะนำเสนอแผนการลงทุนเมกะโปรเจ็คต์ที่เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 ของรัฐบาลต่อที่ประชุมด้วย 

.

นอกจากนี้ การประชุมในเวที รมว.คลังอาเซียนยังจะหารือถึงแผนปฺฏิบัติการด้านการพัฒนาตลาดทุนสู่การรวมตลาด ซึ่งปัจจุบัน Asean Capital Market Forum(ACMF)ได้ศึกษาเรื่องดังกล่าวไว้แล้ว และจะนำเสนอผลการศึกษาต่อที่ประชุม รมว.คลังอาเซียนให้ความเห็นชอบ เพื่อวางแนวทางการรวมตลาดทุนอาเซียนตามเป้าหมายการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจอาเซียนในปี 58 และเป็นช่องทางขยายตลาดการลงทุนของอาเซียนในอนาคต   

.

ก่อนหน้านี้ ในการประชุม รมว.คลังอาเซียน+3 ช่วงเดือนม.ค.ที่ผ่านมาได้มีการหารือกันระหว่างประเทศสมาชิกถึงการรวมตลาดทุนของ 5 ประเทสสมาชิกไว้ในเบื้องต้นแล้ว          

.

นอกจากนี้ยังจะหารือถึงภาวะวกิฤติเศรษฐกิจโลกที่จะกระทบต่อเศรษฐกิจในภูมิภาค รวมถึงการแลกเปลี่ยนวามคิดห็นในการวางแนวนโยบายและมาตรการของประเทศสมาชิกอาเซียนเพื่อรองรับผลกระทบทางเศรษฐกิจและพิจารณาถึงผลการะประชุม G20 เพื่อให้ประเทศสมาชิกอาเซียนใช้เป็นแนวทางดำเนินการต่อไป