วอลโว่ คาร์ นำเสนอรถที่มีประหยัดน้ำมัน หรือ รถยนต์กลุ่ม DIRVe ทุกคันล้วนแล้วแต่เป็นรถที่เป็นอันดับหนึ่งในเรื่องของการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในระดับต่ำ อันเป็นผลมาจากเทคโนโลยีชั้นสูงคือระบบติดและหยุดเครื่องยนต์
|
. |
วอลโว่ คาร์ นำเสนอรถที่มีประหยัดน้ำมัน หรือ รถยนต์กลุ่ม DIRVe ทุกคันล้วนแล้วแต่เป็นรถที่เป็นอันดับหนึ่งในเรื่องของการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในระดับต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรุ่น C30, S40 และ V50 อันเป็นผลมาจากเทคโนโลยีชั้นสูงคือระบบติดและหยุดเครื่องยนต์ |
. |
วอลโว่ C30, 3.9 ลิตร/100กม, ค่า CO2 104 กรัม/กม |
. |
DRIVe เป็นชื่อที่ใช้เรียกขาน รถยนต์วอลโว่รุ่นที่ดีที่สุดในเรื่องสิ่งแวดล้อมเมื่อเทียบกับรถอื่นๆ ในขนาดเดียวกันนั้น โดยรถกลุ่มนี้จะมีป้าย DRIVe ติดอยู่ที่หลังรถให้มองเห็นได้ รถในกลุ่มนี้ทั้งหมดเป็นรถเครื่องยนต์ดีเซลขับเคลื่อนด้วย ระบบเกียร์แบบ manual ที่ช่วยให้มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันน้อยเป็นพิเศษ รถเหล่านี้ยังได้ถูกออกแบบเป็นพิเศษ เพื่อให้มีแรงต้านต่ำและลดการเสียดทานของอากาศ |
. |
"ความทุ่มเทในการทำรถ DRIVe ในปี 2009นี้ สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถของวอลโว่ ในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ลูกค้ามีความต้องการผลิตภัณฑ์ใช้นำมันได้อย่างประสิทธิภาพและมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย ที่ปารีสมอเตอร์โชว์ในปี 2008 เราเปิดตัว DRIVe ในรถรุ่น C30, S40 and V50 และตอนนี้ทั้งเราและตลาดรถยนต์พร้อมแล้วที่จะก้าวไปอีกขั้นหนึ่ง " สดีเฟน โอเดล ประธาน และซีอีโอ บริษัท วอลโว่ คาร์กล่าว |
. |
นอกจากนี้สดีเฟน โอเดล ประธาน และซีอีโอ บริษัทวอลโว่ คาร์ กล่าวเสริมว่า "ขณะนี้ รถรุ่น V70, S80, XC60 และ XC70 ก็เป็นแบบ DRIVe ด้วยเช่นกัน ซึ่งทำให้รถเหล่านี้กลายเป็นรถทีมีความน่าสนใจมากที่สุดในกลุ่มรถหรู ด้วยประสิทธิภาพในด้านอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันและคุณสมบัติด้านสิ่งแวดล้อม " |
. |
ค่าไอเสีย 3 ระดับ |
DRIVe แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ตามค่าไอเสีย คือ 120, 140, และ 160กรัม/กม "ระดับค่าไอเสียที่วอลโว่ ตั้งไว้สูงนั้น สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของวอลโว่ที่จะลดค่า CO2 ลงโดยค่า CO2 ที่ตั้งไว้นี้ยังสอดรับกับเงื่อนไขการลดภาษีและเงื่อนไขพิเศษต่างๆ ที่รัฐบาลตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนรถยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมในหลายๆประเทศในยุโรป เป้าหมายของเราคือการลดระดับค่าไอเสียลงไปเรื่อยๆ โดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น" สตีฟ โอเดล อธิบาย |
. |
C30, S40, V50 กับค่าไอเสียที่ต่ำกว่า 120ก. |
. |
รถกลุ่มแรกของวอลโว่กับ ระบบติดและหยุดเครื่องยนต์อัตโนมัติ |
เพื่อที่จะช่วยลดบริมาณไอเสียจากคาร์บอนไดออกไซด์ วอลโว่ C30, S40 และ V50 DRIVe ใหม่ ได้ติดตั้งคุณลักษณะพิเศษ อันชาญฉลาดไว้ 2 ระบบ นั่น คือ ระบบ ติดและหยุดเครื่องยนต์ อัตโนมัติที่ทำให้เครื่องยนต์ดับเองเมื่อรถหยุดอยู่นิ่งเมื่อต้องจอดรอไฟแดงหรือรถติด |
. |
เมื่อคนขับเข้าเกียร์ว่างและปล่อยคลัชในขณะที่รถหยุดนิ่งเครื่องยนต์จะหยุดการทำงาน และเมื่อคนขับรถเหยียบคลัชอีกครั้งหนึ่งเครื่องยนต์จะติด เทคโนโลยีนี้สามารถช่วยลดการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและลดปริมาณไอเสียคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 4-5 % โดยการคำนวณจากการขับขี่ในรูปแบบต่างๆ ระบบติดและหยุดเครื่องยนต์ อัตโนมัตินี้มีประสิทธิภาพมากในการขับขี่ ในเมือง ซึ่งสามารถช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 8% |
. |
ความสะดวกสบายที่ไม่มีใครเหมือนในวอลโว่กับการติดเครื่องที่รวดเร็ว |
ในขณะที่รถหยุดและเครื่องยนต์ดับนั้นระบบไฟฟ้าบางชนิด อาทิ เครื่องปรับอากาศจะปรับลงมาอยู่ในระดับ สแตนด์บายเพื่อประหยัดพลังงาน อย่างไรก็ตามระบบติดและหยุดเครื่องยนต์ อัตโนมัติจะเฝ้าดูระดับความสบายอย่างต่อเนื่องและจะปรับการทำงานของระบบที่เกี่ยวข้องโดยอัตโนมัติ |
. |
ตัวอย่างเช่น ปรับการทำงานของเครื่องทำความเย็นหากอุณหภูมิในห้องโดยสารสูงขึ้น ระบบนี้ไม่ได้จำกัดคุณลักษณ์ในรถที่อำนวยความสบายไว้เพียงเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่มีอยู่ในระบบต่างๆ อาทิ เครื่องเสียงหรืออุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆที่ลูกค้าต้องการ |
. |
ระบบการเฝ้าติดตามในรถยนต์วอลโว่ และความสะดวกสบายสูงที่ได้รับนี้เกิดขึ้นจาก แบตเตอรี่ตัวเล็กที่มีหน้าที่ช่วยแบตเตอรี่ตัวใหญ่ในการให้พลังงานเสริม แบตเตอรี่ตัวเล็กนี้ ทำงานอย่างรวดเร็วและช่วยทำให้ระบบเครื่องเสียงทำงานได้ราบรื่นขึ้น ไม่สะดุดเมื่อมอเตอร์สตาร์ทเริ่มทำงาน และนี่เป็นจุดที่ทำให้วอลโว่แตกต่างจากคู่แข่ง ยิ่งไปกว่านั้นแบตเตอรี่ตัวหลักยังได้รับการปรับให้สามารถรองรับรอบการเปิดปิดอัตโนมัติได้ถึง 175,000 รอบ |
. |
คนขับรถจะได้รับข้อมูลจากระบบแจ้งสถานภาพเป็นระยะ ผ่านทางหน้าจอแสงข้อมูลในรถ ระบบปิดเปิดอัตโนมัตินี้ติดตั้งมาโดยตั้งค่ามาตรฐานให้ทำงาน ทว่าสามารถเปิดและปิดการใช้งานได้จากปุ่ม DRIVe ที่ติดตั้งอยู่ที่คอนโซลกลาง ซึ่งในอนาคตปุ่ม DRIVe นี้ยังสามารถใช้ควบคุมระบบอื่นๆ ได้อีก อาทิ การตั้งค่าแบบประหยัดที่ให้ประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงที่ดีได้อีกด้วย |
. |
เติมไฟแบตเตอรี่จากพลังงานจลน์ |
. |
V70 และ S80 ต่ำกว่า140g นี่เป็นครั้งแรกที่ V70 และ S80 เป็นรุ่น DRIVeทั้งสองรุ่นนี้ใช้ระบบส่งกำลังแบบเดียวกันกับรถรุ่นอื่นคือ เครื่องยนต์ 1.6 ดีเซล เกียร์ธรรมดา ทว่าใช้ซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษโดยเฉพาะและมีอัตราการทดกำลังที่แตกต่างไปในเกียร์สาม สี่ และ ห้า |
. |
สิ่งที่ช่วยให้รถซีดานและรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ของวอลโว่ลดอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันและค่าคาร์บอน ไดออกไซด์ได้อย่างมากนั้นหลักๆ แล้ว ได้มาจากการใช้ระบบส่งกำลังอย่างเต็มประสิทธิภาพ: |
. |
"เราเชื่อว่าผู้ใช้รถขนาดเล็กไม่มีความจำเป็นต้องได้รับสิ่งต่างๆ ที่ควรได้ในการขับขี่หรือความสะดวกสบายน้อยลงเมื่อเทียบกับรถใหญ่ รถเล็กเหล่านี้มีสมรรถนะที่เท่าเทียมกับรถใหญ่ทว่าสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า ในความจริงแล้วค่าของผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากรถขนาดเล็กของวอลโว่ที่กำหนดไว้นี้ ยังไม่มีรถยี่ห้ออื่นคิดทำด้วยซ้ำ" แมกนัส โยนส์สัน รองประธานบริหาร ฝ่ายผลิตภัณฑ์กล่าว |
. |
ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันลดลง ตัวอย่างเช่นยางที่ออกแบบมาให้มี ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศต่ำและเป็นครั้งแรกที่ รถยนต์ V 70 และ S80 DRIVe ติดตั้งปั๊มพวงมาลัยพาวเวอร์ที่ทำให้การช่วยเลี้ยงใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและ เที่ยงตรงตามที่ผู้ขับขี่ต้องการ รถ DRIVe ทุกรุ่นติดตั้งระบบนี้ |
. |
V70 ติดตั้งคุณลักษณ์ต่างๆเหล่านี้ไว้เพื่อช่วยลดค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ: |
. |
วอลโว่จะมี DRIVe ในรถรุ่น XC60 และ XC70 แบบขับเคลื่อนล้อหน้า เครื่องยนต์ 2.4 D ทั้งสองรุ่นจะมีค่าไอเสียอยู่ที่ 159 กรัม / กม. และอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่น้อยที่สุดในรถกลุ่มเดียวกันคือเพียงแค่ 6.0 ลิตร/100 กม. |
. |
นอกจากพัฒนาการในรถขับเคลื่อนล้อหน้าแล้ว ยังมีการปรับปรุงสิ่งละอันพันละน้อยที่ล้วนช่วยให้รถรุ่นใหม่มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันและค่าไอเสียน้อยลง ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องยนต์ของวอลโว่ประสบความสำเร็จในการลดค่าเสียดทานและทำให้ประสิทธิภาพการบรรจุอากาศในกระบอกสูบดีขึ้น ในเครื่องยนต์ดีเซล |
. |
ด้วยปั๊มแรงดันสูงและการออกแบบระบบหัวฉีดรุ่นใหม่ล่าสุด ของระบบไฟฟ้าแบบเพียโซ ทำให้แรงดันของหัวฉีดที่เพิ่มขึ้น เครื่องยนต์ใช้ซอฟต์แวร์ควบคุมเครื่องยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดที่ให้แรงอัดที่ต่ำและมีประสิทธิภาพในการเผาไหม้ดีขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นตัวอัดอากาศของเครื่องยนต์เทอร์โบยังได้รับการออกแบบให้มีแรงบิดสูงสุดในรอบเครื่องยนต์ต่ำ ระบบการส่งกำลังใหม่นี้ทำให้ อัตราการทดเกียร์มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันต่ำ |
. |
โจทย์ในการพัฒนาที่สำคัญยิ่งของรถพวกนี้คือการที่ต้องทำให้ลักษณะการขับขี่ที่สนุกสนานต้องยังคงอยู่เพราะนั่นคือหัวใจสำคัญที่ทำหน้าที่ดึงดูดความสนใจให้กับรถรุ่นนี้ |
. |
แรงม้าที่มากขึ้นและแรงบิดที่สูงขึ้นกอรปกับการติดตั้ง แชสซีแบบสปอร์ต ล้วนมีส่วนช่วยให้ XC60 แบบขับเคลื่อนล้อหน้ามีความคล่องตัวสูง นับเป็นทางเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับลูกค้าที่ต้องการใช้รถที่มีค่าไอเสียต่ำทว่าไม่ต้องสูญเสียความสนุกสนานในการขับขี่ แมกนัส โยนส์สัน กล่าว |
. |
แมกนัส โยนส์สัน ยังกล่าวต่อไปอีกว่า "สำหรับ XC70 นั้น ประสบความสำเร็จในการผสมผสานความสะดวก สบายเข้ากันกับความสามารถในการพาคุณลุยไปได้ทุกที่ทว่ามีอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่ำ XC70ก็เช่นเดียว กับ รถยนต์วอลโว่รุ่นอื่นๆ คือ ต้องมีการทดสอบใช้งานภายใต้สภาพที่เหมือนกับการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันของผู้ใช้รถทั่วไป ด้งนั้นตัวเลขที่วอลโว่แจ้งแก่สื่อมวลชนจึงเป็นตังเลขที่ใกล้เคียงที่สุดในการใช้งานของลูกค้าในสภาพทั่วไปบนท้องถนน ซึ่งจะสังเกตเห็นได้จากบนหน้าจอแสดงผลการทำงานในรถ" |
. |
เพิ่มประสิทธิภาพให้กับทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์ |
พัฒนาการทางด้านสิ่งแวดล้อมนี้ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะในรถกลุ่ม DRIVe เท่านั้น วิธีการลดการใช้เชื้อเพลิงนี้จะได้ถูกนำไปใช้ในรถรุ่นอื่นๆ อีกด้วย และยิ่งไปกว่านั้น ในรถระบบเกียร์อัตโนมัติรุ่นที่จะมาถึงในอีกประมาณ 2 ปีข้างหน้าจะมีประสิทธิภาพที่ขึ้นถึง 5-7 % ด้วย |
. |
แมกนัส โยนส์สัน กล่าวปิดท้ายว่า "วัตถุประสงค์ของเราคือการทำให้รถยนต์ของเรามีค่าไอเสียที่ต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับรถอื่นในขนาดเดียวกัน DRIVe เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงขบวนการการทำงานเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ และ รถที่ติดป้าย DRIVe ไว้นั้นก็เป็นรถที่มีความคืบหน้าสูงสุดในขบวนการนี้" การที่เรามอบความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่าสูงและเป็นตัวเลือกที่ดี ทำให้ลูกค้าสามารถที่จะเลือกการมีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อมของตัวเองได้ |
. |
ตารางสมรรถนะ ค่าไอเสีย และอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันใน วอลโว่ DRIVe รุ่นปี 2010 |
รุ่น เครื่องยนต์ กำลัง CO2 อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน |
C30 ระบบปิดเปิดอัตโนมัติ 1.6D 109 hp/240 Nm 104 กรัม 3.9 ลิตร/100 กม |