บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กำลังเตรียมหาพื้นที่เพื่อสร้างโรงไฟฟ้าในอนาคต หลังจากพื้นที่เดิมในจังหวัดราชบุรีมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 5,000 เมกะวัตต์
นายบุญชู ดิเรกสถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทกำลังเตรียมหาพื้นที่เพื่อสร้างโรงไฟฟ้าในอนาคต หลังจากพื้นที่เดิมในจังหวัดราชบุรีมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 5,000 เมกะวัตต์ ซึ่งบริษัทเห็นว่าไม่ควรจะขยายกำลังผลิตไฟฟ้าเพิ่มเติมในพื้นที่ดังกล่าวอีก เพราะต้องการให้เกิดความมั่นคงในระบบไฟฟ้า เวลาเกิดปัญหาไฟจากราชบุรีฯ หลุดจากระบบ ไม่ก่อให้เกิดปัญหาไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง แม้ว่าจะมีพื้นที่เหลือเพียงพอสร้างโรงไฟฟ้าได้อีกก็ตาม
สาเหตุที่บริษัทจำกัดการผลิตไฟฟ้าไว้ที่ 5,000 เมกะวัตต์ ในพื้นที่เดิมที่จังหวัดราชบุรี เพราะต้องการให้มีระบบไฟฟ้ามั่นคง หากโรงไฟฟ้ากระจุกอยู่ที่เดียวกัน เวลาเกิดปัญหาเกี่ยวกับเชื้อเพลิงติดขัดหรือซับสเตชั่นมีปัญหา จะทำให้ไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้างเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในต่างประเทศทั้งสหรัฐฯ และมาเลเซียอย่างไรก็ตาม
พื้นที่ดังกล่าวจะยังเหลือพอที่จะสร้างโรงไฟฟ้าไอพีพีอีก 1 ยูนิต จำนวน 700 เมกะวัตต์ที่บริษัทจะยื่นประมูลก่อสร้าง หากรัฐบาลเปิดให้เอกชนก่อสร้างโรงไฟฟ้าไอพีพีในปีนี้ ซึ่งจะมีหน่วยผลิตไฟฟ้าครบ 8 ยูนิต ถือว่าเต็มพื้นที่ตาม เป้าหมายของบริการสำหรับพื้นที่ที่บริษัทกำลังพิจารณาจัดหาอยู่นั้น ได้แก่ พื้นที่ในจังหวัดกาญจนบุรี และพื้นที่แถบภาคตะวันออก เช่น ระยอง และชลบุรี เป็นต้น
โดยหลักเกณฑ์การเลือกพื้นที่สร้างโรงไฟฟ้านั้น จะต้องเป็นพื้นที่ไม่ไกลจากระบบส่งของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มีแหล่งน้ำเพื่อใช้ในขบวนการหล่อเย็น และใกล้แหล่งเชื้อเพลิง ในปัจจุบันไทยมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดที่ 2 หมื่นเมกะวัตต์ ขณะที่กำลังการผลิตไฟฟ้าอยู่ที่ 2.5 หมื่นเมกะวัตต์ จึงน่าเป็นห่วงว่ากำลังการผลิตไฟฟ้าที่กระจุกรวมกันอยู่ที่เดียวกัน หากเกิดปัญหาเชื้อเพลิง เช่น ก๊าซธรรมชาติสะดุด จะมีผลทำให้เกิดไฟฟ้าดับกินบริเวณกว้างหลายจังหวัด กระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
Thailandindustrycom_official
