ฮิโรชิ วาตานาเบ้ ซีอีโอของธนาคารเจแปน แบงค์ ฟอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น (JBIC) ให้สัมภาษณ์ว่า การระดมทุนของบริษัทญี่ปุ่นกำลังอยู่ในภาวะที่ยากลำบาก ส่งผลให้บริษัทรายใหญ่ๆหันมาขอเงินกู้ฉุกเฉินจากธนาคารที่รัฐบาลสนับสนุนแทน ซึ่งบริษัทใหญ่ๆเหล่านี้ไม่ได้จำกัดวงเฉพาะบริษัทรถเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับไฟฟ้าและชิป ตลอดจนบริษัทที่ดำเนินการด้านการผลิตที่เดินเข้ามาหาธนาคารเพื่อขอเงินกู้เป็นจำนวนมาก ทางธนาคารเองก็กำลังปล่อยกู้ให้กับบริษัทชั้นนำที่มีปัญหาเรื่องการหมุนเวียนของเงินสด เพื่อให้เป็นไปตามโครงการของรัฐบาล |
. |
นับตั้งแต่สิ้นปีที่แล้ว เจบิคได้รับคำร้องขอเงินกู้ฉุกเฉินจำนวนสูงถึง 4 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงเกือบถึง 4 เท่าของงบประมาณดั้งเดิมของปีงบประมาณการเงินที่จะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 มี.ค. บริษัทเอกชนต่างดิ้นรนเพราะมีปัญหาขาดแคลนเงินทุนที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศ |
. |
ทั้งนี้ กำไรของกลุ่มบริษัทส่งออกของญี่ปุ่น ซึ่งรวมถึงโตโยต้า มอเตอร์ ด้วยนั้น หดหายไปเพราะวิกฤตการเงินโลกส่งผลกระทบต่อดีมานด์รถยนต์ โทรทัศน์ และคอมพิวเตอร์ โดยโตโยต้า ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตรถรายใหญ่ที่สุดในโลกนั้น เปิดเผยว่า บริษัทไฟแนนซ์ในเครือกำลังเดินเรื่องขอเงินกู้จากเจบิค ขณะที่ตัวเลขบริษัทล้มละลายก็มีจำนวนมากขึ้น รัฐบาลจึงวางแผนตรวจสอบการดำเนินการของแบงค์ต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจว่า แบงค์จะปล่อยเงินกู้ให้กับบริษัท |
. |
เมื่อปีที่แล้ว รัฐบาลได้สนับสนุนงบประมาณการปล่อยกู้ของเจบิคอีกประมาณ 5 แสนล้านเยน หรือ 5.2 พันล้านดอลลาร์ เป็น 1.6 ล้านล้านเยน โดยนับตั้งแต่ที่รัฐบาลได้อนุญาตให้เจบิคปล่อยเงินกู้ฉุกเฉินเมื่อเดือนธ.ค.นั้น บริษัทต่างๆได้ยื่นเรื่องขอเงินกู้ถึง 3-4 ล้านล้านเยนเลยทีเดียว บลูมเบิร์กรายงานว่า ซีอีโอของเจบิค กล่าวต่อไปว่า ยอดขอเงินกู้บางรายก็มีมูลค่าสูงถึงนับหมื่นล้านเยน |
. |
โตโยต้า ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทไฟแนนซ์ของโตโยต้า เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ในระหว่างการเจรจากับเจบิคเรื่องขอเงินกู้ โดยสื่อญี่ปุ่นรายงานว่า บริษัทอาจจะขอเงินกู้สูงถึง 2 แสนล้านเยน ขณะที่ฮอนด้า มอเตอร์ บริษัทรถรายใหญ่อันดับ 2 ของญี่ปุ่น ก็อาจจะเดินเรื่องขอเงินกู้ด้วยเช่นกัน |