บริษัท ฮิตาชิ โกลบอล สตอเรจ เทคโนโลยีส์ เปิดตัวฮาร์ดไดรฟ์สำหรับรถยนต์ ใหม่ล่าสุด ทำงานได้ดีเยี่ยมในทุกระดับความสูง และอุณหภูมิ อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีด้านการป้องกันแรงสั่นสะเทือนชั้นเยี่ยม
|
บริษัท ฮิตาชิ โกลบอล สตอเรจ เทคโนโลยีส์ เปิดตัวฮาร์ดไดรฟ์สำหรับรถยนต์ ใหม่ล่าสุด Endurastar® ® รุ่น J4K50 และ N4K50 ซึ่งได้รับการออกแบบให้มีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษในขณะที่รถขับเคลื่อนบนพื้นถนนที่ขรุขระที่สุด-ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยมีคนใช้นักก็ตาม ฮาร์ดไดรฟ์ทั้งสองรุ่นนี้นับว่าเป็นฮาร์ดไดรฟ์สำหรับรถยนต์รุ่นที่สี่ของฮิตาชิ เพื่อใช้งานกับแอพพลิเคชั่นในรถยนต์ อาทิ อุปกรณ์นำทาง (Navigation) อุปกรณ์ดิจิตอลเพื่อความบันเทิง (ในรูปแบบของดนตรี, หนังสือ, วิดีโอ), เทเลเมติกส์ (telematics) และการใช้งานแบบ Mobile Computing อย่างแท้จริง |
| . |
| . |
|
Endurastar® ®รุ่นใหม่นี้สามารถทำงานได้ดีเยี่ยมในทุกระดับความสูง และอุณหภูมิ อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีด้านการป้องกันแรงสั่นสะเทือนชั้นเยี่ยมไว้ภายในอีกด้วย ทำให้สามารถปฏิบัติงานได้เต็มประสิทธิภาพบนทุกสภาพพื้นผิว ฮาร์ดไดรฟ์ใหม่ทั้งสองรุ่นนี้มีความจุถึง 50 กิกะไบต์ ซึ่งนับได้ว่ามีความจุสูงที่สุดในตลาดฮาร์ดไดรฟ์สำหรับรถยนต์ในปัจจุบัน |
| . |
|
มร. ชินจิโร่ อิวาตะ ประธานฝ่ายการตลาด บริษัท ฮิตาชิ โกลบอล สตอเรจ เทคโนโลยีส์ กล่าวว่า ตลาดฮาร์ดไดรฟ์สำหรับรถยนต์นั้นเป็นตลาดที่ท้าทายและด้วยความต้องการที่เฉพาะเจาะจงมาก ๆ เป็นตัวขับเคลื่อนให้ฮิตาชิพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถตอบสนองความต้องการเหล่านั้นให้ได้ ฮิตาชิเล็งเห็นโอกาสที่ดีมากสำหรับตลาดฮาร์ดไดรฟ์ในรถยนต์ ที่ผนวกข้อมูลดิจิตอลที่เป็นประโยชน์ทุกชนิดเข้ากับข้อมูลดิจิตอลสำหรับความบันเทิง ซึ่งจะทำให้ฮาร์ดไดรฟ์กลายเป็นส่วนประกอบหนึ่งที่ประมาณค่ามิได้สำหรับรถยนต์สมัยใหม่อีกด้วย |
| . |
|
ลาดฮาร์ดไดรฟ์สำหรับรถยนต์นั้นมีโอกาสเติบโตสูง โดยไอดีซี ซึ่งองค์กรที่จัดการวิเคราะห์ภาคอุตสาหกรรมได้คาดการณ์ไว้ว่า จะมีอัตราการเติบโตถึง 38 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2548-2553 * |
| . |
| คุณสมบัติโดดเด่น แข็งแกร่งเยี่ยงรถถัง |
|
Endurastar® ® J4K50 สามารถปฏิบัติงานได้ดีในระดับอุณหภูมิตั้งแต่ -30 ถึง 85 องศาเซลเซียส (หรือ -22 ถึง 185 องศาฟาเรนไฮต์) ในขณะที่ N4K50 สามารถปฏิบัติงานได้ดีในระดับอุณหภูมิที่แตกต่างกว่าเล็กน้อยซึ่งอยู่ที่ -16 ถึง 70 องศาเซลเซียส (3 ถึง 158 องศาฟาห์เรนไฮต์) ซึ่งหมายความว่า ฮาร์ดดิสก์ใหม่ทั้งสองรุ่นนี้สามารถปฏิบัติงานได้เป็นอย่างดีแม้ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็งไปจนมีอุณหภูมิสูงเกือบถึงจุดเดือด และในส่วนของความทนทานต่อพื้นผิวถนนนั้น ฮาร์ดไดรฟ์รุ่น J4K50 สามารถเดินทางได้ไม่ว่าจะเป็นทวีป แอนตาร์กติก้า ซึ่งในช่วงฤดูหนาวมีอุณหภูมิต่ำถึง -30 องศาเซลเซียส หรือแม้แต่ทะเลทรายซาฮาร่า ซึ่งในช่วงฤดูร้อนมีอุณหภูมิสูงสุดถึง 80 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว นอกจากนั้นผลิตภัณฑ์ฮาร์ดไดรฟ์ Endurastar® ® นี้มีเทคโนโลยี Thermal Fly-height Control ที่ช่วยรักษาระยะห่างระหว่างหัวอ่าน/เขียนของไดรฟ์กับพื้นผิวสัมผัสของดิสก์ในระดับที่เหมาะสมอยู่เสมอ เพื่อป้องกันผลกระทบจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้เป็นอย่างดี |
| . |
|
นอกจากนี้ แม้แต่ในพื้นที่ที่ระดับต่ำกว่าระดับน้ำทะเล 300 เมตรถึงระดับความสูงกว่าระดับน้ำทะเล 5,000 เมตร ฮาร์ดไดรฟ์ J4K50 สามารถเก็บรักษาและเรียกใช้ข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมแม้ในจุดต่ำสุดของโลกที่ใกล้กับระดับของทะเลเดดซี (-394ม.) ไปจนถึงจุดสูงสุดของโลกที่ถนนไปถึง คือบนเทือกเขาแอนดีส (4,818 ม.) ส่วนฮาร์ดไดรฟ์รุ่น N4K50 นั้นสามารถปฏิบัติงานได้ในพิกัดความสูง-ต่ำที่แคบกว่าเล็กน้อยที่ราว 3,000 เมตรจากระดับพื้นดิน |
| . |
|
สำหรับการเดินทางข้ามเนินเขาสูงชัน ภูเขา หรือท้องถนนที่ขรุขระ ฮิตาชิได้มีการใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ เพื่อช่วยให้ฮาร์ดไดรฟ์ Endurastar® มีความทนทานต่อทุกสภาพการใช้งาน โดยสามารถทนทานต่อแรงสั่นสะเทือนสูงตั้งแต่ระดับ 3.0 G ถึง 800 G เลยทีเดียว |
| . |
|
- มอเตอร์แบบ Fluid Dynamic Bearing ได้รับการปรับแต่งเพื่อช่วยให้ Endurastar® สามารถปฏิบัติงานได้เต็มประสิทธิภาพแม้ในที่อุณหภูมิต่ำหรือสูงมาก ๆ - ฟิลเตอร์กรองอากาศความจุสูง (high-capacity breather filter) ภายในที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อ Endurastar® โดยเฉพาะจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซับถึง 10 เท่าเหนือกว่าแผ่นกรองมาตรฐานทั่วไป สามารถป้องกันความชื้นและมลพิษที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อการทำงานของฮาร์ดไดรฟ์ได้ดีกว่า - เซนเซอร์รับแรงสั่นสะเทือนจะช่วยตรวจจับแรงรบกวนจากสิ่งแวดล้อมภายนอกเพื่อปกป้องข้อมูลระหว่างกระบวนการเขียนข้อมูลในฮาร์ดไดรฟ์แม้ในขณะเดินทาง - ตัวพักข้อมูล (cache buffers) ขนาดใหญ่ถึง 8-เมกะไบต์ ช่วยรองรับข้อมูลไม่ให้เสียหายแม้ในสภาพการขับเคลื่อนที่สมบุกสมบัน |
| . |
|
ฮิตาชิปฏิบัติงานร่วมกันกับอุตสาหกรรมยานยนต์มาเป็นระยะเกือบทศวรรษแล้ว ในการพัฒนาฮาร์ดไดรฟ์ที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในรถยนต์ ความต้องการของผู้บริโภคที่มีต่อฮาร์ดไดรฟ์ในรถยนต์นั้นค่อนข้างจะแตกต่างจากความต้องการที่มีต่อฮาร์ดไดรฟ์ที่ใช้ในคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วไปอยู่มากพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นในด้านความทนทานต่อพิกัดอุณหภูมิและความสูง-ต่ำของพื้นที่ ตัวอย่างเช่น รถยนต์นั้นถูกสร้างมาเพื่อการใช้งานในระยะเวลาหลาย ๆ ปี ดังนั้นฮาร์ดไดรฟ์ที่นำมาใช้ในรถยนต์ก็ควรจะมีอายุการใช้งานที่ใกล้เคียงกันกับชิ้นส่วนต่าง ๆ ของรถยนต์ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ฮาร์ดไดรฟ์ที่ใช้กับรถยนต์ยังจะต้องมีการผลิตไว้อย่างเพียงพอเพื่อการเปลี่ยนตัวฮาร์ดไดรฟ์ และการซ่อมบำรุงในระยะที่ยาวนานกว่ามาก เมื่อเทียบกับสต็อกสินค้าสำหรับอุปกรณ์ไอทีทั่ว ๆ ไปฮาร์ดไดรฟ์ในตระกูล Endurastar® ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการเหล่านี้โดยเฉพาะ |
| . |
|
ปัจจุบัน ฮาร์ดไดรฟ์สำหรับรถยนต์ส่วนใหญ่มีการนำมาใช้งานใน 3 ลักษณะใหญ่ ๆ ด้วยกัน คือ เป็นทาง เลือกของผู้ผลิต (manufacturer option), ทางเลือกของตัวแทนจำหน่าย (dealer option) และเพื่อการติดตั้งหลังการขาย (after-market installation) ผู้ผลิตรถยนต์หรูหลายแบรนด์ได้เริ่มมีการนำเอาฮาร์ดไดรฟ์มาเป็นส่วนหนึ่งในอุปกรณ์เสริมของรถยนต์ที่ประกอบมาจากโรงงาน โดยลูกค้าในกลุ่มผู้ผลิตและกลุ่มทางเลือกของตัวแทนจำหน่าย มักเลือกใช้ฮาร์ดไดรฟ์รุ่นที่มีพิกัดความทนทานต่ออุณหภูมิที่สูงคือ รุ่น J4K50 ส่วนกลุ่มทางเลือกเพื่อการติดตั้งหลังการขายนั้นมักจะเลือกใช้รุ่น N4K50 ที่มีพิกัดความทนทานอุณหภูมิและความสูง-ต่ำของพื้นที่ที่ต่ำกว่าเล็กน้อย |
Thailandindustrycom_official
