บริษัทในกลุ่มเคมีภัณฑ์และเวชภัณฑ์ระดับโลก มีประสบการณ์ในการสั่งซื้อวัตถุดิบจากประเทศจีน อินเดีย มานานหลายปี รวมถึงชิ้นส่วนต่างๆ ในย่านเอเชีย ออกรายงานถึงปัญหาที่พบ
บริษัทในกลุ่มเคมีภัณฑ์และเวชภัณฑ์ระดับโลก มีประสบการณ์ในการสั่งซื้อวัตถุดิบจากประเทศจีน อินเดีย มานานหลายปี รวมถึงชิ้นส่วนต่าง ๆ ในย่านเอเชีย ออกรายงานถึงปัญหาที่พบเกี่ยวกับคุณภาพสินค้านำเข้าและความน่าเชื่อถือของซัพพลายเออร์ ให้กับบริษัทใหม่ที่กำลังจะเลือกใช้ซัพพลายเออร์ในย่านเอเชีย โดยเตือนให้ระวังก่อนเลือกซัพพลายเออร์และต้องทำการบ้านก่อนเสมอ |
. |
สำหรับเคมีภัณฑ์ ประเทศจีนอยู่ในสภาพยุ่งเหยิง เพราะมีการลงทุนจากผู้ประกอบการหน้าใหม่อย่างรวดเร็ว และหวังกอบโกยผลกำไรในระยะอันรวดเร็ว จึงไม่เน้นคุณภาพและความเชื่อถือได้ ทำให้อนาคต ความเสี่ยงในเรื่องคุณภาพวัตถุดิบจากประเทศในย่านเอเชีย อาจกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทระดับโลกที่ใช้วัตถุดิบจากประเทศเหล่านี้ |
. |
ความแตกต่างทางวัฒนธรรมก็มีส่วนกระทบเช่นกัน ด้วยความเข้าใจมาตรฐานที่ไม่ตรงกัน อย่างบริษัทแห่งหนึ่งบอกว่า มาตรฐานความบริสุทธิ์ของเคมีภัณฑ์ของเขาขั้นต่ำอยู่ที่ 97% สำหรับที่นำเข้าจากประเทศจีน ครั้งแรกอาจจะมาที่ 99.5% ส่วนที่เหลือมาที่ 97.5% โรงงานในประเทศจีน อาจบอกว่า ความบริสุทธิ์มากกว่าดีกว่า แต่ในเมืองของเขา มาตรฐานของเขาคือ ไม่ใช่บริสุทธิ์กว่าจะดีกว่า แต่ต้องบริสุทธิ์เหมือนกันถึงจะดีกว่า อย่างนี้ทำให้มาตรฐานที่ได้รับไม่เหมือนกัน จึงต้องผ่านไป |
. |
คล้าย ๆ กัน อีกเรื่องคือ ท่าทางที่ไม่เอาใจใส่ต่อความตรงต่อเวลาในการจัดส่งก็สร้างปัญหาเหมือนกัน ในบางแห่งของเอเชีย การบอกว่าจะส่งของภายในวันพรุ่งนี้ ก็มีความหมายแตกต่างกันว่าเป็นวันพรุ่งนี้หรือหนึ่งวันให้หลังจากวันนี้ |
. |
ผู้นำเข้าสินค้าเคมีภัณฑ์จากประเทศเอเชียระยะยาว อ้างถึงปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น มีการขึ้นราคาทันทีทันใด ก่อนส่งของลงเรือทำให้ป้ายราคาสินค้าไม่ตรงกับใบรับของ ซึ่งทำให้ต้องเสียค่าปรับที่ด่านกรมศุลกากร หรือถูกจับสินค้าที่ท่าเรือ |
. |
บริษัทเคมีภัณฑ์จากตะวันตกหลายแห่ง เคยใช้บริการจัดซื้อจัดหาในเอเชียมานาน และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับซัพพลายเออร์ จึงสามารถเชื่อใจกันได้ ซึ่งใช้เวลาหลายปีในการสร้างความสัมพันธ์ดังกล่าว หลายบริษัทเปิดสำนักงานในประเทศจีนและมีโรงงานผลิตที่นั้น |
. |
สภาพแวดล้อมที่กำลังเปลี่ยนแปลง |
บริษัทตัวแทนจำหน่ายและผลิตเคมีภัณฑ์รายใหญ่ อธิบายถึงการจัดซื้อจัดหาวัตถุดิบจากประเทศจีนว่า ต้องใช้เวลานานมากกว่าหนึ่งปีกว่าจะได้ซัพพลายเออร์ ปัจจุบันได้วัตถุดิบจากจีน 85% ซึ่งใช้เวลาทั้งสิ้น 25 ปี ในสมัยก่อนบริษัทจีนก็จะมีเจ้าของเป็นคนจีนเท่านั้น ซึ่งคุณภาพการผลิตจะไม่สม่ำเสมอ และเพื่อแก้ปัญหานี้ ผู้ซื้อจำเป็นต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับโรงงานผลิตในจีน บางครั้งบางเวลาต้องเข้าไปช่วยแนะนำ กระบวนการผลิต การพัฒนาการทำงาน และเครื่องมือต่าง ๆ อาจจะต้องปรับปรุงให้ทันสมัย เพื่อผลิตให้ได้ตามมาตรฐานของผู้สั่งซื้อ ปัจจุบันมีบริษัทข้ามชาติไปตั้งสำนักงานในประเทศจีนมามากมาย พร้อมกับวัฒนธรรมจีนเปิดกว้างรับชาวต่างชาติมากขึ้น แม้แต่การซื้อกิจการบางประเภทก็สามารถทำได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้แน่ใจได้ว่าคุณภาพสินค้าที่ผลิตจากจีนจะได้มาตรฐาน บริษัทบางแห่งที่เปิดสาขาในจีน ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ยังต้องเดินทางไปเยี่ยมอย่างน้อยปีละ 5 ครั้ง |
. |
ตรวจสอบประวัติซัพพลายเออร์ |
การจะแน่ใจว่าซัพพลายเออร์ที่เลือก สามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและเชื่อถือได้ ต้องมีการตรวจสอบประวัติย้อนหลังกันก่อน ด้วยการไปเยี่ยมชมโรงงาน คุยกับระดับบริหาร และประเมินฐานะทางการเงิน ซึ่งแน่นอนว่าซัพพลายเออร์ที่เหมาะสม จะมาพร้อมกับประวัติที่ดีในเรื่องคุณภาพสินค้าและความน่าเชื่อถือเสมอ |
. |
แน่นอนว่า ไม่ใช่ทุกบริษัทต้องการจัดซื้อจัดหาจากประเทศย่านเอเชีย จะมีเวลาเดินทางมาเยี่ยมชม เอเยนต์หลาย ๆบริษัท มีส่วนช่วยในการคัดซัพพลายเออร์ได้ แต่อย่างไรก็ตาม เอเยนต์ก็อาจสร้างความเสี่ยงให้เกิดขึ้นได้ เพราะเป้าหมายของเอเยนต์คือการขายและรับค่านายหน้า การใส่ใจในคุณภาพและความเชื่อถือได้จึงด้อยลงไป ตลาดกลางซื้อขายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Marketplaces) เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการติดต่อกับซัพพลายเออร์ในย่านเอเชียได้ ซึ่งจะไม่ได้รับความน่าเชื่อถืออย่างสม่ำเสมอจากซัพพลายเออร์ในช่องทางนี้ |
. |
ChemConnect หนึ่งในตลาดกลางซื้อขายเคมีภัณฑ์ออนไลน์ มีการพัฒนาฟังก์ชั่นพิเศษเพื่อให้ผู้ใช้สะดวกเมื่อต้องการสั่งซื้อจำนวนมาก และยังสามารถตรวจสอบเบื้องต้นเรื่องราวของซัพพลายเออร์ที่สนใจจากทั่วโลกได้ด้วย รวมถึง กำลังการผลิต โปรแกรมวิจัยและพัฒนา เอกสารอ้างอิงและการจัดการโซ่อุปทาน ขณะเดียวกัน ChemConnect มีการให้ Rating ซัพพลายเออร์อย่างไม่เป็นทางการ และแจ้งให้ผู้ซื้อทราบก่อนการตัดสินใจเลือกใช้ซัพพลายเออร์ เพื่อลดปัญหาที่จะตามมาได้ในอนาคต |
. |
การประเมินซัพพลายเออร์ |
ในบริษัทยาและเคมีภัณฑ์ขนาดใหญ่ ล้วนแต่มีระบบการจัดหาและประเมินความเชื่อถือได้ของซัพพลายเออร์รายใหม่ในเอเชีย บริษัทอาจจะใช้มาตรฐานการประเมินแบบเดียวกับที่ใช้ในอเมริกาและยุโรปก็ได้ เช่น เมื่อได้ซัพพลายเออร์รายใหม่ที่คิดว่ามีศักยภาพแล้ว สิ่งแรกที่ต้องทำคือ การวิเคราะห์สินค้าจากตัวอย่างในห้องทดสอบขนาดเล็ก และต้องทำการรับรองคุณสมบัติของสินค้า โดยเฉพาะเมื่อต้องนำเข้า ถ้าผ่านไปได้ ก็ทดลองผลิตจริง และดูเรื่องบรรจุภัณฑ์และวิธีการขนส่งด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าทำได้ถูกต้อง สุดท้ายต้องตรวจสอบฐานะทางการเงินของซัพพลายเออร์ การขอเยี่ยมชมโรงงานจะช่วยให้สืบรู้ถึง คุณภาพของการผลิต และวัตถุดิบที่ใช้ว่ามีคุณภาพตรงตามที่ตกลงไว้หรือไม่ รวมถึงควรพูดคุยกับผู้จัดการโรงงานเพื่อให้แน่ใจมีความสามารถจะผลิตให้ได้ตามกำหนด |
. |
เอกสารสำคัญที่ต้องมี |
วงการเคมีภัณฑ์ การนำเข้าต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพจากหน่วยงานจัดซื้อ บ่อยครั้งต้องมีใบรับรองเป็นทางการถ้าผู้ซื้อต้องการขายวัตถุดิบสำหรับอาหาร ยา หรือสิ่งที่กฎหมายควบคุม ขึ้นกับชนิดของเคมี อาจจะรวมถึง ISO certification, FDA registration, Underwriters Laboratories certification, หรือ Kosher certification เพื่อให้ได้ใบรับรองมา ผู้นำเข้าต้องมีบริการทดสอบหลายอย่างและออกใบรับรองได้ ภายหลังนำไปผลิตแล้วก็ยังสามารถสอบย้อนกลับมาหาที่มาได้ว่ามาจากที่ไหน |
. |
ผู้ซื้อยังต้องเตรียมข้อมูลความปลอดภัยของวัตถุดิบที่นำเข้ามา (MSDS: Material Safety Data Sheet) ติดบนสารเคมีที่นำเข้ามา เพื่อให้แน่ใจว่ามีเอกสารเป็นไปตามกฎหมายของประเทศต่าง ๆ ดังนั้น ฝ่ายจัดซื้อต้องนำเรื่องของใบรับรองมาเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการจัดซื้อทุกครั้งสำหรับสินค้าอันตราย และติดไปในระหว่างการขนส่งทุกครั้ง |
. |
ถ้าสินค้าที่สั่งซื้อมาจากซัพพลายเออร์ย่านเอเชียเป็นประจำ โดยในช่วงแรกคุณภาพและความถูกต้องเป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ แล้วในเวลาต่อมา เริ่มมีการละเลยคุณภาพอย่างที่ควรจะเป็น หนทางที่จะหลีกเลี่ยงปัญหานี้คือ ควรไปที่ออฟฟิศหรือโรงงานของซัพพลายเออร์อย่างน้อยปีละสองครั้ง แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ทำยากสำหรับหลายๆ บริษัทที่ไม่มีออฟฟิศในเอเชีย อย่างการเยี่ยมชม เพื่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีสม่ำเสมอระหว่างฝ่ายต่าง ๆ และสนับสนุนซัพพลายเออร์ให้รักษามาตรฐานคุณภาพที่ดีตลอดไป |
. |
ดังนั้น ก่อนเลือกซัพพลายเออร์รายใหม่ในย่านเอเชียหรือไม่ว่าที่ไหนในโลกก็ตาม ควรจะทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ |
. |
- เยี่ยมชมสถานที่ผลิตของซัพพลายเออร์ - ประเมินฐานะความมั่นคงทางการเงิน - ตรวจสอบชื่อเสียง - วิเคราะห์คุณภาพสินค้าตัวอย่างและความถูกต้อง - ทดลองสั่งซื้อ - ขอดูเอกสารสำคัญเช่น ใบรับรองที่จำเป็นต้องดู - ตรวจดูนโยบายระบบเอกสารและการเก็บรักษา - ตรวจดูนโยบายการบรรจุภัณฑ์และป้ายฉลากสินค้า - ตรวจดูนโยบายการจัดส่งสินค้า |