เนื้อหาวันที่ : 2009-03-05 11:09:43 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1356 views

DRT พอใจผลงานปี 51 พร้อมรักษาเป้ารายได้รวม 2.5 พันลบ.

กระเบื้องหลังคาตราเพชร เตรียมแผนเชิงรุกปี 52 ทุ่มงบลงทุนกว่า 300 ล้านบาท ขยายกำลังการผลิตใหม่ เพิ่มความหลากหลายของสินค้า เดินหน้าขยายตัวแทนปั๊มยอดขาย- เจาะตลาดต่างจังหวัด

"กระเบื้องหลังคาตราเพชร" ทำรายได้รวมปี 51 กว่า  2.5 พันล้านบาท พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 2 ในรอบปีอีก 0.10 บาท/หุ้น รวมทั้งปีจ่าย 0.25 บาท/หุ้น เตรียมแผนเชิงรุกปี 52 ทุ่มงบลงทุนกว่า 300 ล้านบาท ขยายกำลังการผลิตใหม่ เพิ่มความหลากหลายของสินค้า  เดินหน้าขยายตัวแทนปั๊มยอดขาย- เจาะตลาดต่างจังหวัด  และลุยตลาดส่งออก ด้าน ผู้บริหาร DRT มั่นใจรักษาระดับยอดขายปี 52 ได้ใกล้เคียงปีก่อน เชื่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ ปลุกกำลังซื้อผู้บริโภค

 

นายอัศนี ชันทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT

 

นายอัศนี ชันทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์หลังคารุ่นเจียระไน รุ่นอดามัส และ รุ่น CT เพชร  ผลิตภัณฑ์ไม้ฝาและไม้สังเคราะห์  ผลิตภัณฑ์แผ่นบอร์ด รวมถึงอุปกรณ์ประกอบหลังคา และบริการหลังการขาย ภายใต้ตราสินค้า ตราเพชร   

 

ผลการดำเนินงานปี 2551 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,542.7 ล้านบาท กำไรสุทธิ 284.8 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นผลงานที่น่าพอใจ ถึงแม้รายได้รวมและกำไรสุทธิจะต่ำกว่าเป้าหมายที่เคยกำหนดไว้ เนื่องจากต้องยอมรับว่าในช่วงครึ่งหลังของปี 2551 ตลาดซบเซามากกว่าที่คาดไว้จากผลกระทบทางเศรษฐกิจ และความวุ่นวายทางการเมือง ฉุดความมั่นใจของผู้บริโภค

 

ทั้งนี้หากพิจารณาเปรียบเทียบแนวโน้มแต่ละไตรมาสก็มีสัญญาณที่ชี้ถึงการฟื้นตัวที่ดีขึ้นโดยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสินค้าและให้บริการ 549.0 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าไตรมาส 3 ของปีเดียวกัน 73.8 ล้านบาท

 

"ในไตรมาสสุดท้าย เราได้รับแรงหนุนจากยอดขายที่ปรับตัวดีขึ้นจากการก่อสร้างบ้านในต่างจังหวัด หลังจากที่บริษัทฯ มีการรุกและเจาะกลุ่มลูกค้าในต่างจังหวัดจากการเพิ่มและพัฒนาประสิทธิภาพของตัวแทนขาย และทำโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงราคาน้ำมันและเหล็กเส้นที่ปรับตัวลดลงอย่างมากก็มีส่วนในการช่วยกระตุ้นยอดขายอีกด้วย" นายอัศนี กล่าว

 

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 ยังได้มีมติในการจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีหลังในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท หลังจากที่ในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 0.15 บาทต่อหุ้น ทำให้รวมเป็นการจ่ายปันผลในอัตรา 0.25 บาทต่อหุ้นในรอบปีที่ผ่านมา โดยจะจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ที่มีรายชื่อผู้มีสิทธิในการรับเงินปันผล ณ วันที่ 9 มีนาคม 2552 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นภายในวันที่ 29 เมษายน 2552

 

สำหรับแผนงานในปี 2552 บริษัทฯ เตรียมเงินลงทุนไว้ที่ประมาณ 300 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับขยายกำลังการผลิตใหม่ โดยจะขยายเพิ่มอีก 5 หมื่นตัน/ปี จากเดิมที่มีกำลังการผลิต 5 แสนตัน/ปี เป็น 5.5 แสนตัน/ปี โดยจะเพิ่มกำลังการผลิตในกลุ่มสินค้ากระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์ ซึ่งโครงการขยายนี้ได้ดำเนินการไปแล้วบางส่วนในปี 2551 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในต้นปี 2553 และจะส่งผลบวกต่อผลการดำเนินงานโดยรวมให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง

 

“ปีนี้ DRT ไม่ได้ตั้งเป้าการเติบโต แต่จะรักษายอดขายให้ได้ใกล้เคียงกับปี 2551 โดยมองว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ของรัฐบาล จะช่วยปลุกกำลังซื้อให้มีมากขึ้น บวกกับสถานการณ์การเมืองเริ่มคลี่คลาย จะส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันเรา จะเน้นทำงานเชิงรุกมากขึ้นในทุกๆ ด้าน ซึ่งจะเดินหน้าขยายฐานลูกค้า โดยตั้งเป้าหมายจะเพิ่มตัวแทนจำหน่ายอีก 100 ราย จากเดิม 600 ราย รวมถึงมีแผนจะสร้างศูนย์กระจายสินค้าเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับตัวแทนจำหน่าย” นายอัศนี กล่าว

 

ในส่วนของตลาดส่งออก ผู้บริหาร DRT ยังกล่าวต่อว่า ในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มียอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 30% ซึ่งนับว่าเกินเป้าที่เราตั้งไว้ ซึ่งในปีนี้บริษัทฯ จะบุกตลาดส่งออกมากขึ้น เพราะที่ผ่านมายังมีสัดส่วนเพียงเล็กน้อย โดยที่ปัจจุบันตลาดส่งออก DRT จะอยู่ในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านเป็นหลัก โดยเฉพาะ ประเทศกัมพูชา ลาว และพม่า ตามลำดับ

 

ขณะเดียวกันจะรุกตลาดโครงการมากขึ้น ซึ่งบริษัทฯ มีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเจียระไน ที่จะตอบสนองความต้องการของกลุ่มดังกล่าวได้เป็นอย่างดี พร้อมกับการขยายกำลังการผลิตและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ควบคู่ไปกับการเสริมบริการพิเศษ