มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประมาณการเศรษฐกิจของไทยปี 2552 ติดลบร้อยละ 0.8-2.8 เศรษฐกิจโลกชะลอตัวมากในครึ่งปีแรกและฟื้นครึ่งปีหลัง การเมืองไทยมีเสถียรภาพมากขึ้น มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเริ่มเห็นผลครึ่งปีหลังคนว่างงานเพิ่มขึ้นจากปี 2551 ที่จะมีการว่างงาน 500,000 คน
มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประมาณการเศรษฐกิจของไทยปี 2552 ติดลบร้อยละ 0.8-2.8 เศรษฐกิจโลกชะลอตัวมากในครึ่งปีแรกและฟื้นครึ่งปีหลัง การเมืองไทยมีเสถียรภาพมากขึ้น มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเริ่มเห็นผลครึ่งปีหลังคนว่างงานเพิ่มขึ้นจากปี 2551 ที่จะมีการว่างงาน 500,000 คน |
. |
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย |
. |
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ ได้ประมาณการอัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยปี 2552 มีโอกาสติดลบร้อยละ 0.8-2.8 ภายใต้สมมติฐาน 3 กรณี ทั้งนี้ กรณีที่ 1 โอกาสเกิดขึ้นร้อยละ 60 คือ เศรษฐกิจโลกชะลอตัวมากในครึ่งปีแรกและฟื้นครึ่งปีหลัง การเมืองไทยมีเสถียรภาพมากขึ้น |
. |
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเริ่มเห็นผลครึ่งปีหลัง ปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยครึ่งปีแรกติดลบร้อยละ 3-5 แต่ครึ่งปีหลังจะเติบโตร้อยละ 1-3 ส่งผลให้เศรษฐกิจทั้งปีติดลบร้อยละ 1 โดยการส่งออกติดลบร้อยละ 5-7 เงินเฟ้อติดลบร้อยละ 0.1-1.1 อัตราว่างงาน 900,000 ถึง 1.2 ล้านคน คิดเป็นอัตราว่างงานร้อยละ 2.3-3.1 เพิ่มขึ้นจากปี 2551 ที่จะมีการว่างงาน 500,000 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 1.5 |
. |
ส่วนกรณีที่ 2 สถานการณ์ดีขึ้นมีโอกาสเกิดขึ้นร้อยละ 25 คือ เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงครึ่งปีแรก แต่ฟื้นตัวปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า ขณะที่การเมืองขาดเสถียรภาพ ทำให้เศรษฐกิจครึ่งปีแรกไม่เติบโตร้อยละ 0 ถึงติดลบร้อยละ 3 แต่ครึ่งปีหลังเศรษฐกิจดีขึ้นขยายตัวได้ร้อยละ 2-4 ทำให้เศรษฐกิจทั้งปีขยายตัวร้อยละ 0.8 |
. |
ขณะที่การส่งออกเติบโตร้อยละ 0-3 อัตราเงินเฟ้อร้อยละ 0-1 การว่างงานจะมีประมาณ 700,000-900,000 คน คิดเป็นร้อยละ 1.9-2.3 และกรณีสุดท้ายสถานการณ์แย่ มีโอกาสเกิดขึ้นร้อยละ 15 คาดว่าเศรษฐกิจโลกชะลอตัวมากในครึ่งปีแรก และฟื้นตัวกลางปีนี้ |
. |
ขณะที่การเมืองไทยมีเสถียรภาพมาก มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเริ่มมีผลปลายไตรมาส 2 ปีนี้ส่งผลให้เศรษฐกิจครึ่งปีแรกติดลบประมาณร้อยละ 2-4 แต่ครึ่งปีหลังจะดีขึ้นเล็กน้อยไม่เติบโตร้อยละ 0 ถึงติดลบร้อยละ 3 ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวทั้งปี เฉลี่ยติดลบร้อยละ 2.8 และการส่งออกติดลบร้อยละ 9-11 อัตราเงินเฟ้อติดลบร้อยละ 1.3-2.3 การว่างงานประมาณ 1.3-1.5 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 3.4-3.9 |
. |
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นไตรมาสแรกปีนี้คาดว่าจะทรงตัว โดยจะลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2551 และจะต่ำสุดปลายไตรมาส 2 แต่จะดีขึ้นบ้างไตรมาส 3 จากการใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้านการลงทุนตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีที่แล้ว มีอัตราการเติบโตร้อยละ 1.2 ทั้งปี 2551 ขยายตัวร้อยละ 2.3 |
. |
ส่วนปี 2552 การลงทุนจะเติบโตร้อยละ 1.9 ชะลอลงจากปี 2551 ซึ่งนับเป็นการขยายตัวระดับต่ำ เนื่องจากมีความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจ โลกชะลอตัวลงและการเมืองที่ไม่แน่นอน ขณะที่การบริโภคภายในประเทศปี 2551 คาดว่าจะเติบโตร้อยละ 2.5 แต่ปี 2552 คาดว่าจะเติบโตเหลือร้อยละ 1.8 |
. |
ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ กล่าวถึงอัตราดอกเบี้ยปี 2552 ว่า น่าจะยังปรับตัวลดลงอีก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจเปราะบาง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังต้องใช้อัตราดอกเบี้ยเพื่อเป็นเครืองมือในการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ด้านเงินฝากและสินเชื่อธนาคารพาณิชย์มีสัญญาณชะลอตัวลงชัดเจนในครึ่งปีแรกจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวลงเป็นหลัก |
. |
สำหรับราคาน้ำมันดิบปี 2552 เฉลี่ยประมาณ 48.5 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ต่ำว่าราคาเฉลี่ยปี 2551 ที่อยู่ระดับ 94 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล แต่คาดว่าไตรมาส 3 จะเพิ่มขึ้นบ้างตามความต้องการตามฤดูกาลและผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ |
. |
นายธนวรรธน์ กล่าวอีกว่า สำหรับภาคการท่องเที่ยวปี 2552 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 13.97 ล้านคน ลดลงจากปีที่แล้ว ร้อยละ 3.89 และมีรายได้ 480,000 ล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 8.88 เป็นผลสืบเนื่องจากวิกฤติการเงินโลก |
. |
ส่วนค่าเงินบาทเริ่มอ่อนค่าลงตั้งแต่ไตรมาส 4 จากการถอนเงินลงทุนออกไปจากตลาดภูมิภาคเอเชียและวิกฤติการเงินโลกรวมถึงปัญหาการเมือง จึงคาดการณ์ว่าแนวโน้มไตรมาสแรกปี 2552 ค่าเงินบาทจะทรงตัวระดับ 34-35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะสหรัฐ รวมถึงมูลค่านำเข้าและส่งออกที่ยังชะลอตัว |
. |
"สาเหตุที่เศรษฐกิจไทยปีนี้ ไม่เติบโตอยู่ที่ร้อยละ 0 เนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศต้องเผชิญกับภาวะความเสี่ยงจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจในประเทศ ทำให้การส่งออกชะลอตัวลง โดยการส่งออกปีนี้คาดว่าจะติดลบร้อยละ 5.8 หรือมีมูลค่าประมาณ 165,150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากคำสั่งซื้อที่ชะลอลงแทบทุกกลุ่ม"นายธนวรรธน์กล่าว . |
. |
ที่มา : สำนักข่าวไทย |