เมตตา อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เข้มตรวจสถานีบริการน้ำมันที่เข้าร่วมโครงการ "ปั๊มคุณภาพ ปลอดภัย น่าใช้บริการ" ที่นำน้ำมันเชื้อเพลิงมาตรฐานยูโร 4 มาใช้ในไทย หวังลดก๊าซเรือนกระจก 30% และปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก 15% ซึ่งจะเป็นผลดีต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด

นายเมตตา บันเทิงสุข อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน(ธพ.)

นายเมตตา บันเทิงสุข อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน(ธพ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมธุรกิจพลังงานได้ดำเนินการตรวจประเมินสถานีบริการน้ำมันที่เข้าร่วมโครงการ "ปั๊มคุณภาพ ปลอดภัย น่าใช้บริการ" จนได้สถานีบริการน้ำมันที่ผ่านการรับรองได้รับรางวัลจากกรมธุรกิจพลังงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยแบ่งรางวัลเป็น 3 ประเภท ได้แก่ รางวัลเหรียญทองแดงจากทั่วประเทศ จำนวน 38 แห่ง , รางวัล เหรียญเงิน จำนวน 208 แห่ง และรางวัลเหรียญทอง จำนวน 124 แห่ง ซึ่งทุกแห่งเป็นสถานีบริการน้ำมันที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือก 3 ข้อใหญ่ คือ ได้มาตรฐานทั้งในด้านของคุณภาพน้ำมัน ความปลอดภัย ความสะอาดของสภาพแวดล้อมภายในสถานีบริการน้ำมัน และ มาตรฐานการบริการที่มีคุณภาพ

ล่าสุดคณะผู้บริหารได้เดินทางไปตรวจสอบบริการน้ำมันทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดที่ได้รับรางวัล เพื่อให้ทราบถึงการดำเนินงานว่า ได้มีการควบคุมคุณภาพน้ำมัน ปรับปรุง และรักษาระดับมาตรฐานอย่างต่อเนื่องหรือไม่ ทั้งนี้ก็เพื่อต้องการให้สถานีบริการน้ำมันได้ตระหนักอยู่ตลอดเวลาในการที่จะควบคุมคุณภาพน้ำมัน และสถานีบริการน้ำมัน

นายเมตตา ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า โดยในส่วนของคุณภาพน้ำมันนั้น กรมธุรกิจพลังงานได้มีการประกาศมาตรฐานน้ำมันเบนซินและดีเซลสะอาดตามมาตรฐานยูโร 4 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 เพื่อเป็นการประกาศล่วงหน้าให้ผู้ค้าน้ำมันได้เตรียมการติดตั้งอุปกรณ์ และปรับปรุงโรงกลั่นน้ำมันให้สามารถผลิตน้ำมันยูโร 4 ได้ และให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ได้พัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ให้เหมาะสมกับการใช้น้ำมันยูโร 4 ก่อนจะให้มีผลบังคับใช้มาตรฐานยูโร 4 ของประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2555 เป็นต้นไป

น้ำมันมาตรฐานยูโร 4 จะมีข้อกำหนดที่เข้มงวดมากขึ้นจากเดิมที่ปัจจุบันประเทศไทยใช้มาตรฐานน้ำมันยูโร 3 โดยจะปรับลดปริมาณกำมะถันจากเดิม 350 ppm. ลงเหลือไม่เกิน 50 ppm. ปรับปรุง น้ำมันเบนซินและน้ำมันแก๊สโซฮอล์ ให้มีปริมาณสารไฮโรคาร์บอนเหลือเพียง 1% อะโรมาติก เหลือ 35% และจำกัดปริมาณโอเลฟิน ไม่ให้สูงกว่า 18%

ส่วน น้ำมันดีเซล กำหนดโพลีอะโรมาติก ไฮโดรคาร์บอน ไม่ให้สูงกว่า 11% และเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ ค่าซีเทน เป็น 50 ที่สำคัญเมื่อมีการนำน้ำมันเชื้อเพลิงมาตรฐานยูโร 4 มาใช้ในประเทศไทยแล้ว จะทำให้สามารถลดก๊าซเรือนกระจก 30% และปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก 15% ซึ่งจะเป็นผลดีต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนโดยรวม เช่นเดียวกับหลายๆประเทศ เช่น ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฮ่องกง และเกาหลีใต้ ที่มีการนำมาตรฐานยูโร 4 มาใช้

โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยในขณะนี้มีผู้ค้าน้ำมันได้ผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงมาตรฐานยูโร 4 ออกมาจำหน่ายก่อนการบังคับใช้กฎหมายแล้วจำนวน 2 ราย ได้แก่ บริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ซึ่งสถานีบริการน้ำมันจำนวนหนึ่งที่ได้รับรางวัลปั๊มคุณภาพก็มีการนำมาตรฐานนี้มาใช้แล้วด้วย