เนื้อหาวันที่ : 2009-01-27 15:01:00 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1127 views

ส.อ.ท.ค้านแนวคิดเก็บภาษีที่ดินฯ แนะรัฐเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจก่อน

สันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ค้านแนวคิดของรัฐบาลที่จะจัดเก็บภาษีที่ดินและทรัพย์สิน เนื่องจากเป็นเรื่องที่มีรายละเอียดมาก ดังนั้น รัฐบาลควรศึกษาข้อดีข้อเสียให้ชัดเจนก่อนว่าเกิดประโยชน์กับคนส่วนใหญ่หรือไม่

นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ค้านแนวคิดของรัฐบาลที่จะจัดเก็บภาษีที่ดินและทรัพย์สิน เนื่องจากเป็นเรื่องที่มีรายละเอียดมาก ดังนั้น รัฐบาลควรศึกษาข้อดีข้อเสียให้ชัดเจนก่อนว่าเกิดประโยชน์กับคนส่วนใหญ่หรือไม่

.

ทั้งนี้เห็นว่า เรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลควรเร่งดำเนินการก่อน คือ การหาแนวทางแก้ไขปัญหาการส่งออกและสภาพคล่องที่มีความสำคัญต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ และการแก้ไขปัญหาคนตกงาน  โดย ส.อ.ท.เตรียมเสนอกระทรวงการคลังพิจารณาค้ำประกันผู้ส่งออก เพื่อกระตุ้นให้เกิดการส่งออกและเป็นการประกันความเสี่ยงให้กับผู้ประกอบการนาย

.

ประธาน สอท. กล่าวอีกว่า  ขณะนี้ ภาคเอกชนมีความมั่นใจว่าการประชุมร่วม 2 สภาจะผ่านความเห็นชอบเกี่ยวกับกรอบข้อตกลงอาเซียน  และเห็นว่า ส.ส.ต้องร่วมมือกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์สภาล่มอีก นายกรัฐมนตรีเองก็ต้องชี้แจงให้สภาฯ เห็นถึงความสำคัญในกรอบข้อตกลงที่จะเป็นผลดีและผลเสียต่อประเทศอย่างไร

.

อย่างไรก็ตาม หากกรอบข้อตกลงอาเซียนไม่ผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ จะยิ่งสร้างผลเสียหายต่อประเทศ และเป็นการทำลายภาพลักษณ์ ของประเทศอย่างมาก โดยเฉพาะความเชื่อมั่นของนักลงทุน เพราะรัฐบาลจะขาดความชอบธรรมในการลงนามความร่วมมือการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่จะเกิดขึ้นในการประชุมครั้งนี้ 

.

"ส.ส.ควรคำนึงถึงประเทศชาติเป็นหลัก ไม่ควรเล่นเกมการเมืองจนทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ เพราะผู้ที่ได้รับผลเสียหายอย่างมากคือผู้ประกอบการซึ่งจะส่งผลกระทบไปยังผู้ว่างงานได้" นายสันติ กล่าว

.
ส.อ.ท.เล็งเสนอรัฐจัดสรรงบ 5 หมื่นล้านบาทจัดตั้งกองทุนค้ำประกันส่งออก

นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ภาคเอกชนเตรียมเสนอต่อนายกรัฐมนตรีในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน(กรอ.)ครั้งหน้า เพื่อขอสนับสนุนงบประมาณจำนวน 50,000 ล้านบาท จัดตั้งกองทุนค้ำประกันการส่งออก

.

โดยเน้นไปที่การช่วยเหลือกลุ่มผู้ส่งออกขนาดกลางและย่อม หรือ SMEs ซึ่งหลักการของกองทุนนี้เป็นการให้รัฐบาลช่วยค้ำประกันการส่งออกให้กับ SMEs, เป็นการลดความเสี่ยงให้ผู้ประกอบการ รวมถึงเป็นการช่วยเพิ่มแรงจูงใจให้ผู้ส่งออกรายย่อยมีความเชื่อมั่นที่จะกล้าออกไปทำตลาดใหม่ๆ ตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการขยายตลาดส่งออกไปยังตลาดใหม่แทนตลาดหลักที่กำลังซื้อเริ่มลดลงตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว

.

โดยอาจจะขอความร่วมมือรัฐบาลให้ช่วยเจรจากับธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ เช่น ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธกส.), ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ในการช่วยค้ำประกันการส่งออกให้กลุ่มผู้ประกอบการ

.

นายสันติ กล่าวถึงการที่นายกรัฐมนตรีจะนำคณะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นในช่วงต้นเดือน ก.พ.นี้ว่า การเดินทางไปในครั้งนี้จะเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนญี่ปุ่น และจะได้รับผลตอบรับที่ดีกลับมา เนื่องจากนักลงทุนญี่ปุ่นยังมองว่า ประเทศไทยมีความน่าสนใจที่จะเข้ามาลงทุนเป็นอันดับแรกในภูมิภาค

.

ทั้งนี้ คาดว่ากลุ่มธุรกิจที่มีโอกาสดีที่ญี่ปุ่นจะเข้ามาลงทุนเพิ่มเติม คือ สินค้าอิเลคทรอนิคส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อาหารสำเร็จรูป เสื้อผ้าสำเร็จรูป รวมถึงสินค้าเหล็กด้วย

.

ด้านนายประมนต์ สุธีวงศ์  ประธานสภาหอการค้าไทย กล่าวว่า แม้หลายฝ่ายมองว่างบประมาณแสนล้านบาทของรัฐบาลที่ออกมาเพื่อช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจอาจจะดูไม่เพียงพอในการแก้ไขปัญหา แต่เชื่อว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 ในเรื่องของภาษีที่ออกมาน่าจะสามารถช่วยลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการ ซึ่งเมื่อรวมมาตรการชุดแรกกับชุด 2 แล้วเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นและแก้ไขเศรษฐกิจได้พอสมควร

.

อย่างไรก็ดี คงต้องจับตาดูในช่วง 3 เดือนหลังจากที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลมีผลบังคับใช้ว่าจะส่งผลให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้มากน้อยเพียงใด เพราะมองว่าหากรัฐบาลไม่ทำอะไรเลยอาจจะทำให้เศรษฐกิจในปีนี้ติดลบได้

.

"ถ้าประเมินเศรษฐกิจไทยตอนนี้ไม่ดีแน่ แต่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลน่าจะมีผลได้ เพราะถ้ามาตรการดีตัวเลขเศรษฐกิจก็น่าจะดีขึน ถ้าไม่ทำอะไรเลยก็อาจจะติดลบได้ แต่คงรอดู 3 เดือนหลังจากมาตรการออกมาแล้วถึงจะมีผลวัดได้...เชื่อว่ารวมมาตรการทั้ง 2 ชุดแล้วน่าจะมีผล(กระตุ้น)พอควร" นายประมนต์ กล่าว