.

 เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์  สำนักงานใหญ่ของฮอนด้าประจำภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย เปิดเผยว่า มูลค่าส่งออกผลิตภัณฑ์ฮอนด้าจากประเทศไทยในปี 2551 มีอัตราเติบโตขึ้น 4% เมื่อเทียบกับปี 2550 โดยมีมูลค่า 104,583 ล้านบาท ในจำนวนนี้แบ่งเป็นสัดส่วนการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปและชิ้นส่วนเพื่อการประกอบรถยนต์ 62% คิดเป็นมูลค่า 65,091 ล้านบาท ตามด้วยรถจักรยานยนต์ 23% คิดเป็นมูลค่า 23,881 ล้านบาท และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ 10% คิดเป็นมูลค่า 10,128 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีการส่งออกชิ้นส่วนอะไหล่ อุปกรณ์ตกแต่ง และแม่พิมพ์อีก 5% คิดเป็นมูลค่า 5,483 ล้านบาท

นายฟูมิฮิโกะ อิเคะ ประธานกรรมการบริหาร และซีอีโอ บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่าการส่งออกของฮอนด้ามีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ที่บริษัทเริ่มส่งออกในปี 2530 ทั้งนี้ เป็นผลจากความแข็งแกร่งของฐานการดำเนินธุรกิจฮอนด้าในประเทศไทยและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ฮอนด้าที่ได้รับความเชื่อถือจากนานาประเทศ ส่งผลให้ยอดสะสมของผลิตภัณฑ์ฮอนด้าที่ส่งออกจากประเทศไทยจนถึงสิ้นปี 2551 มีมูลค่ารวมถึง 555,012 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีหลังของปีที่ผ่านมาพบว่ายอดส่งออกของฮอนด้าเริ่มลดลงเนื่องมาจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจโลก

" วิกฤติการเงินโลกส่งผลกระทบต่อยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ฮอนด้าในหลายประเทศ การส่งออกเริ่มชะลอตัวลงตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 โดยในไตรมาสที่ 4 ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป และเครื่องยนต์อเนกประสงค์มีอัตราลดลง ในขณะที่ยอดส่งออกรถจักรยานยนต์โดยรวมยังคงเติบโตอยู่บ้าง ส่งผลให้มูลค่าส่งออกรวมของทุกผลิตภัณฑ์ในไตรมาสที่ 4 ลดลง 12% เมื่อเทียบกับช่วงเเดียวกันของปี 2550 อย่างไรก็ตามเนื่องจากได้อานิสงส์ของยอดส่งออกในช่วงครึ่งปีแรกทำให้มูลค่าส่งออกทั้งปีของสามผลิตภัณฑ์หลักยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับปี 2550" นายอิเคะกล่าว

.นายฟูมิฮิโกะ อิเคะ ประธานกรรมการบริหาร และซีอีโอ บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด

ในปี 2551 มูลค่ารวมของการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปและชิ้นส่วนเพื่อการประกอบรถยนต์ฮอนด้ามีอัตราการเติบโตใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ การส่งออกชิ้นส่วนเพื่อการประกอบรถยนต์ฮอนด้าขยายตัวเพิ่มขึ้น 13% หรือมีมูลค่าอยู่ที่ 26,031 ล้านบาท โดยมีปัจจัยเกื้อหนุนมาจากการเริ่มสายการผลิตฮอนด้า แจ๊ส ในประเทศบราซิล และฮอนด้า ซิตี้ในประเทศอินเดีย ทางด้านการส่งออกรถยนต์นั่งสำเร็จรูป

ฮอนด้าได้ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปรวม 5 รุ่น ได้แก่ ซิตี้ แจ๊ส ซีวิค แอคคอร์ด และซีอาร์-วี ไปยังประเทศต่างๆ กว่า 30 ประเทศทั่วโลก ในปี 2551 มีปริมาณการส่งออกจำนวน 72,497 คัน หรือคิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 39,060 ล้านบาท ลดลง 6% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา อันเป็นผลเนื่องมาจากวิกฤติสินเชื่อตึงตัวทำให้การปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มีความเข้มงวดมากขึ้นในหลายประเทศ ประกอบกับทิศทางตลาดรถยนต์ของโลกที่หันไปนิยมรถยนต์ขนาดเล็ก ทำให้ยอดสั่งซื้อรถยนต์ขนาดใหญ่ลดลง

ด้านรถจักรยานยนต์ ยอดส่งออกรถจักรยานยนต์สำเร็จรูปและชิ้นส่วนเพื่อการประกอบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในปี 2551 มีมูลค่ารวม 23,881 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปี 2550 โดยชิ้นส่วนเพื่อการประกอบรถจักรยานยนต์มีมูลค่าส่งออกรวม 22,298 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% ทั้งนี้ เป็นผลจากการขยายการผลิตรถจักรยานยนต์ฮอนด้ารุ่นใหม่ ๆ ในประเทศในแถบอาเซียน อาทิ เวียดนาม อินโดนีเซีย และกัมพูชา ขณะที่รถจักรยานยนต์สำเร็จรูปมีมูลค่าส่งออก 1,584 ล้านบาท ลดลง 22% จากปี 2550 สืบเนื่องจากความต้องการที่ลดลงในตลาดยุโรป

ประเทศไทยนับเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกเครื่องยนต์อเนกประสงค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกของฮอนด้า โดยมีการส่งออกไปยังกว่า 80 ประเทศทั่วโลก สำหรับในปี 2551 สถานการณ์วิกฤติเศรษฐกิจโลกส่งผลกระทบต่อตลาดในประเทศต่างๆ ทั้งในภูมิภาคยุโรปและสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นตลาดหลักของฮอนด้า ทำให้ปริมาณการส่งออกเครื่องยนต์อเนกประสงค์ลดลง 2% โดยมีจำนวนส่งออก 1,755,132 เครื่อง คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 10,128 ล้านบาท