นักวิชาการ สอนสวย รัฐมนตรีป้ายแดง กรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง หนุนนโยบาย "มาร์คษิโณมิกซ์" กระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล พร้อมเสนอแนะในด้านต่างๆ โดยเฉพาะการช่วยเหลือคนจน แก้ปัญหาแรงงาน เร่งสร้างความเชื่อมั่น และรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ ขณะที่ติงบางนโยบายยังแก้ปัญหาไม่ตรงจุด
นักวิชาการ สอนสวย รัฐมนตรีป้ายแดง กรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง หนุนนโยบาย "มาร์คษิโณมิกซ์" กระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล พร้อมเสนอแนะในด้านต่างๆ โดยเฉพาะการช่วยเหลือคนจน แก้ปัญหาแรงงาน เร่งสร้างความเชื่อมั่น และรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ ขณะที่ติงบางนโยบายยังแก้ปัญหาไม่ตรงจุด |
. |
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง |
. |
นักวิชาการเสนอความเห็นต่อนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ผ่านเวทีศุกร์เศรษฐกิจกับรัฐมนตรีกรณ์ ในหัวข้อ "ถกแผนเศรษฐกิจยกหนึ่ง คิดไปถึงแผนสอง" โดยนักวิชาการส่วนใหญ่สนับสนุนแนวนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล พร้อมเสนอแนะในด้านต่างๆ โดยเฉพาะการช่วยเหลือคนจน แก้ปัญหาแรงงาน เร่งสร้างความเชื่อมั่น และรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ ขณะที่ติงบางนโยบายยังแก้ปัญหาไม่ตรงจุด |
. |
ทั้งนี้ นางอัจนา ไวความดี รองผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศ(ธปท.)กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลต้องสร้างความสมดุลให้เกิดขึ้นทั้งในการสร้างความเชื่อมั่นและการสร้างเสถียภาพเศรษฐกิจ โดยจะต้องไม่สร้างภาระการคลังจนกลายเป็นหนี้สาธารณะให้สูงขึ้น |
. |
หากมองภาพเศรษฐกิจปี 52 แบบเลวร้ายสุด เศรษฐกิจไทยอาจขยายตัวเป็น 0% ขณะที่รัฐบาลขาดดุลงบประมาณกว่า 5 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 5.5% ต่อจีดีพี และหนี้สาธารณะเพิ่มเป็น 42% ดังนั้น ในปีงบประมาณ 53 เชื่อว่ารัฐบาลอาจทำงบประมาณขาดดุลต่อเนื่อง แต่คงไม่มากเท่าปี 52 |
. |
นางอัจนา กล่าวว่า ในแผน 2 ของการกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลควรจะเน้นให้เกิดการสร้างงานมากขึ้น จัดโครงการฝึกอบรมแรงงาน ส่วนสภาพคล่อง เห็นว่าควรจะเลิกการพูดถึงส่วนต่างดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝาก(สเปรด)แต่ควรให้ความสำคัญ เรื่องการมีต้นทุนการเงินที่ต่ำ เพราะขณะนี้ความเสี่ยงในการให้สินเชื่อมีสูงขึ้น |
. |
รัฐบาลควรที่จะวางแนวทางเพื่อให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อ โดยมี่ต้นทุนความเสี่ยงต่ำ โดยในต่างประเทศจะใช้ระบบการค้ำประกันสินเชื่อ ดังนั้นในส่วนของไทย สามารถดำเนินการได้ผ่านธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เข้ามารับความเสี่ยง 80 ต่อ 20 กับ ธนาคารพาณิชย์ มีการแยกบัญชีการทำธุรกิจตามนโยบายรัฐ |
. |
รองผู้ว่าการ ธปท.มองว่า หากมีการค้ำประกันสินเชื่อได้ 1 แสนล้านบาท จะทำให้มีการปล่อยสินเชื่อในระบบเพิ่มขึ้นถึง 3 แสนล้านบาท นอกจากนี้ ควรลดค่าธรรมเนียมการค้ำประกันสินเชื่อ จาก 1.75% เหลือ 1% โดยรัฐบาลสูญเสียรายได้แค่ 1,000 ล้านบาท ซึ่งแนวทางดังกล่าวป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา Credit Crunch |
. |
นอกจากนี้ ในระยะยาว รัฐบาลควรคิดถึงการหารายได้ทั้งในส่วนของประชาชนและภาครัฐ ซึ่งวิธีการปูพรมที่ดี คือการสร้างแหล่งน้ำให้เกษตรกรเพื่อสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจระยะยาวในการหารายได้เกษตรกร ซึ่งจะทำให้รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์อยู่ในใจของประชาชน นอกจากนี้ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งเป็นเรื่องถกเถียงมานาน หากรัฐบาลผลักดันให้เกิดขึ้น เชื่อว่า รัฐบาลจะอยู่ในใจของนักวิชาการได้เช่นกัน |
. |
"สิ่งที่ไม่ชอบคือ นโยบายแจกเงิน 2 พันบาท เพราะใช้เงินกว่า 18,000 ล้านบาท ซึ่งก็เห็นผลได้แค่ 1-2 เดือน ส่วนการแจกข้าว ยิ่งไม่สนับสนุน เพราะหากทำเพื่อลดสต๊อกข้าวเก่า แต่ก็มีสร้างสต๊อกข้าวใหม่ขึ้นมาได้"นางอัจนา กล่าว |
. |
ด้านนายสมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(TDRI) กล่าวว่า นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลดำเนินการถือว่าสอดคล้องกับแนวคิดของนักวิชาการในหลายเรื่อง แต่ต้องการให้รัฐบาลพุ่งเป้าหมายการให้ความช่วยเหลือประชาชนคนจนในเมือง ซึ่งมีผลต่อการสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากกว่า |
. |
นอกจากนี้คือกลุ่แรงงานนอกระบบ ซึ่งสนับสนุนแนวคิดการจัดต้องกองทุนแรงงานนอกระบบ แต่ปัญหาสำคัญของไทยของการขาดฐานข้อมูลคนจน ทำให้การแก้ปัญหาคนจนยังไม่ตรงจุด ท้ายที่สุดแล้ว เห็นว่ารัฐบาลไม่ควรให้ความสำคัญกับตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจ มากเกินไป เพราะไม่ใช่แนวทางแก้ปัญหา ที่ถูกต้อง |
. |
ด้านนางผาสุก พงษ์ไพจิตร อ.ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า วิกฤติเศรษฐกิจโลก คงต้องใช้เวลาฟื้นตัวอีก 3-5 ปี ดังนั้น ซึ่งคาดว่าไทยก็คงต้องใช้เวลาฟื้นตัวในระยะเวลาเดียวกัน การแก้ปัญหาคงไม่สามารถใช้แนวทางเดิมๆ ได้ ดังนั้น จึงต้องการเสนอแนะรัฐบาลให้ความสำคัญกับกลุ่มแรงงานนอกภาคเกษตร ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ |
. |
รัฐบาลควรจัดทำแผนอุดหนุนสินค้าเกษตรในทุกประเภท จัดทำเป็นแผนต่อเนื่องในระยะ 3-5 ปี ซึ่งถือเป็นนโยบายของการแก้ปัญหารายได้ตกต่ำในภาคเกษตรที่เหมาะสม โดยอาจเป็นความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และกลุ่มสหกรณ์ ซึ่งเข้าถึงภาคเกษตรได้มากกว่า |
. |
พร้อมทั้ง ตั้งคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญประสานกับงานกับ อปท. กลุ่มสหกรณ์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อมีข้อมูลในการให้ความช่วยเหลือมากขึ้น รวมทั้งตั้งวอร์รูมติดตามข้อมูลโครงการรับจำนำพืชผลกเกษตร ป้องกันการรั่วไหล ทุจริต และระยะยาว ควรมีระบบการประกันการทำงานในภาคชนบท |
อย่างไรก็ตาม เห็นว่ารัฐบาลไม่ควรกังวลกับเพดานการก่อหนี้ภาครัฐมากจนเกินไป ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน ที่มีความจำเป็นที่รัฐบาลต้องใช้เงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ |
. |
น.ส.กิริฎา เภาพิจิตร นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารโลกประจำประเทศไทย กล่าวว่า แผน 2 ของรัฐบาลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ต้องเน้นทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ และต้องปกป้องกลุ่มเสี่ยง ที่ควรได้รับการปกป้องด้วย ซึ่งควรพิจารณาว่า กลุ่มใด จะมีส่งผลให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากกว่า |
. |
นอกจากนี้ รัฐบาลควรมองระยะยาว หลังเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวใน 3 ปีข้างหน้า เพื่อเตรียมพร้อมรับมือ สร้างความสามารถการแข่งขัน โดยต้องมีมาตรการเพิ่มทักษะแรงงาน เพื่อรองรับการจ้างงานในอนาคร มีการวางโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ หลังจากไทยไม่มีการลงทุนในด้านนี้มากว่า 10 ปีแล้ว ทำให้ปัจจุบัน ระบบ ลอจิสติกส์ของไทย มีต้นทุนที่สูง รัฐบาลควรอัดฉีดเม็ดเงินส่วนนี้ เพื่อผลต่อเศรษฐกิจในอนาคต การแก้ไขกฎระเบียบภาครัฐ ที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชนและนักลงทุน และการกระตุ้นภาคเกษตร เช่นการมีระบบการประกันภัยพืชผล และ คาร์บอน เครดิต |
. |
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ รองประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ควรประเมินปัญหาเศรษฐกิจต่ำเกินไป เพราะมองว่า ปัญหาเศรษฐกิจโลก จะมีผลต่อสถาบันการเงินเร็วขึ้นในช่วงกลางปีนี้ โดยเฉพาะตราสาร CDO ที่จะครบกำหนดชำระหนี้ เป็นเม็ดเงินกว่า 66 ล้านล้านดอลลาร์ ดังนั้นรัฐบาลต้องเตรียมหาแนวทางรับมือ ทั้งภาคการส่งออก การท่องเที่ยว และภาคการลงุทน ที่คาดว่าจะมีคนตกงานจำนวนมาก |
. |
ส่วนการเงินระหว่างประเทศ คาดว่าจะมีความผันผวนมาก รัฐบาลต้องเตรียมมือ ซึ่ง กระทรวงการคลัง และ ธปท. ต้องวางแผนรับมือ อย่างไรก็ตามการแก้ปัญหาเศรษฐกิจสิ่งสำคัญคือการสร้างความเชื่อมั่น ไม่ใช่การวางเป้าหมายทางการเมืองเป็นเป้าหมายหลัก แต่ควรคำนึงถึงเศรษฐกิจ แก้ไขปัญหาเพื่อชาติ |
. |
ด้านนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลพร้อมรับข้อเสนอของนักวิชาการเพื่อนำไปจัดทำนโยบายต่างๆ ต่อไป ส่วนข้อเสนอให้มีการกู้เงินเพิ่มเพื่อนำมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจนั้น รัฐบาลมีแผนการจัดทำงบประมาณประจำปี 53 ซึ่งจะเป็นโอกาสที่รัฐบาลจะเพิ่มบทบาททางการคลังเพื่อฟื้นเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลยังดำเนินนโยบายขาดดุลงบประมาณต่อเนื่อง โดยจะประเมินสถานการณ์ต่างๆ เพื่อกำหนดนโยบายและมาตรการ ภายใต้หน้าที่หลักของรัฐบาลคือการช่วยลดภาระให้ประชาชน และรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ โดยเฉพาะประชาชนผู้มีรายได้ต่ำ |
. |
อย่างไรก็ตาม รมว.คลัง ยืนยันว่ารัฐบาลยังไม่มีความจำเป็นต้องปรับกรอบความยั่งยืนทางการคลัง จากที่กำหนดไว้ว่าหนี้สาธารณะต้องไม่เกิน 50% ของจีดีพี แม้กฎหมายไม่มีมีข้อผูกมัดในเรื่องดังกล่าว แต่เป็นกฎเกณฑ์เพื่อใช้รักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ และปัจจุบันภาระหนี้สาธารณะยังอยู่ในกรอบ แต่หากสถานการณ์ต่างๆ เปลี่ยนแปลงก็พร้อมที่จะทบทวน |
. |
ส่วนการเดินหน้าการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้น เห็นว่าขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษา ซึ่งยอมรับว่าการปรับโครงสร้างภาษีนั้นภาษีบางประเทศ ไม่ได้มุ่งเน้นเพื่อหารายได้เข้ารัฐ แต่เป็นการสร้างความเป็นธรรมในระบบภาษีและภาษีบางประเภทต้องการเพื่อลดปริมาณการบริโภคสินค้า |