ผลสำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ รวมถึงนักวิเคราะห์ในเมืองมุมไบของอินเดียและเมืองชิคาโกของสหรัฐ บ่งชี้ว่า ราคาทองคำในตลาดโลกมีแนวโน้มพุ่งขึ้นอีกเนื่องจากนักลงทุนยังคงมองว่าทองคำเป็นแหล่งการลงทุนที่ปลอดภัยในยามที่เศรษฐกิจโลกผันผวน
ผลสำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ รวมถึงนักวิเคราะห์ในเมืองมุมไบของอินเดียและเมืองชิคาโกของสหรัฐ บ่งชี้ว่า ราคาทองคำในตลาดโลกมีแนวโน้มพุ่งขึ้นอีกเนื่องจากนักลงทุนยังคงมองว่าทองคำเป็นแหล่งการลงทุนที่ปลอดภัยในยามที่เศรษฐกิจโลกผันผวน |
. |
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 37 ดอลลาร์ ปิดที่ 895.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไร |
. |
ราคาทองพุ่งขึ้น 5.5% ในปี 2551 ซึ่งเป็นสถิติที่ปรับตัวขึ้นติดต่อกันยาวนานถึง 8 ปี เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยส่งผลให้นักลงทุนไม่ต้องการเสี่ยงเข้าลงทุนในตลาดการเงินมากนัก โดยเฉพาะเมื่อทางการสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนธ.ค.ปี 2551 ร่วงลง 524,000 ตำแหน่ง |
. |
มอร์แกน สแตนลีย์ คาดการณ์ว่า ราคาทองคำในตลาดโลกจะปรับตัวขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงปีพ.ศ.2555 เพราะได้รับแรงหนุนจากความต้องการโลหะมีค่าที่พุ่งสูงขึ้นและสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลง เนื่องจากรัฐบาลทั่วโลกกระตุ้นงบประมาณการใช้จ่ายเพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย |
. |
ทั้งนี้ มอร์แกน สแตนลีย์ คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในระดับเฉลี่ย 900 ดอลลาร์/ออนซ์ในปีนี้ เพิ่มขึ้น 20% จากที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 750 ดอลลาร์/ออนซ์ จากนั้นราคาจะเคลื่อนไหวที่ระดับเฉลี่ย 1,000 ดอลลาร์/ออนซ์ในปีพ.ศ. 2553, 1050 ดอลลาร์/ออนซ์ในปี 2554 และ 1,075 ดอลลาร์/ออนซ์ในปีพ.ศ. 2555 ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ถึง 34% หลังจากที่ราคาทองคำในตลาดโลกเคยทำสถิติพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,032.70 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อวันที่ 17 มี.ค.ปีที่แล้ว |
. |
นอกจากนี้ มอร์แกน สแตนลีย์คาดว่าราคาพลาตินัมจะเคลื่อนไหวโดยเฉลี่ยที่ 875 ดอลลาร์/ออนซ์ในปีนี้, 1,000 ดอลลาร์/ออนซ์ในปีพ.ศ.2553, 1,050 ดอลลาร์/ออนซ์ในปีพ.ศ.2554 และ 1,150 ดอลลาร์/ออนซ์ในปี 2555 ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ถึง 42% สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน |