เนื้อหาวันที่ : 2009-01-14 13:46:24 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1247 views

รุมค้าน "ประชานิยมมาร์ค" เริ่มขยับแล้ว

นักวิชาการ-ประธานสภาแรงงาน ออกโรงสับรัฐบาล "อภิสิทธิ์ษิโณมิกซ์" ออกมาตรการแก้ปัญหาแรงงานไม่ตรงจุด-เกาไม่ถูกที่คัน18 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเป็นเพียงประชานิยมเท่านั้น อยากเห็นมาตรการที่เป็นรูปธรรมมากกว่านี้ ไม่ปลื้มกับการที่รัฐบาลเอาเงินไปแจกจ่ายประชาชนด้วยวิธีการนี้

นักวิชาการ-ประธานสภาแรงงาน ออกโรงสับรัฐบาล "อภิสิทธิ์ษิโณมิกซ์" ออกมาตรการแก้ปัญหาแรงงานไม่ตรงจุด-เกาไม่ถูกที่คัน18 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเป็นเพียงประชานิยมเท่านั้น อยากเห็นมาตรการที่เป็นรูปธรรมมากกว่านี้ ไม่ปลื้มกับการที่รัฐบาลเอาเงินไปแจกจ่ายประชาชนด้วยวิธีการนี้

.

นายแล ดิลกวิทยรัตน์  ศาสตราพิชาน  คณะเศรษฐศาสตร์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  กล่าวในการเสวนาเรื่อง "วิกฤติเศรษฐกิจโลกต่อสภาวะการจ้างงานในประเทศไทยถึงมาตรการการอัดฉีดเงิน 115,000  ล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ว่า เป็นมาตรการที่ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ  กระจัดกระจายเกินไป  ไม่ได้มีการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนว่าต้องการช่วยเหลือกลุ่มผู้ใช้แรงงาน โดยเฉพาะแรงงานที่ถูกเลิกจ้าง  ซึ่งเป็นกลุ่มสำคัญที่สุด"

.

นายแล กล่าวว่า มาตรการช่วยเหลือแรงงานโดยเฉพาะการให้เงินผู้ที่มีเงินเดือนไม่ถึง 14,000  บาท  จำนวน  2,000  บาท  เป็นมาตรการที่ไร้ประโยชน์และไม่เข้าใจว่ารัฐบาลทำเพื่ออะไร มุ่งเน้นการหาเสียงมากกว่า  สำหรับมาตรการที่รัฐบาลที่ควรจะทำคือ  ใส่เงินเพื่อช่วยเหลือแรงงานที่ถูกเลิกจ้างโดยตรง  เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและควรจะมีมาตรการชะลอการเลิกจ้าง  หากรัฐบาลจ่ายเงินให้ผู้ถูกเลิกจ้างก็ทำให้เกิดแรงกระตุ้นในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว  เพราะผู้ที่ถูกเลิกจ้างจะนำเงินไปจับจ่ายใช้สอยทันทีไม่นำไปเก็บออมหรือซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย 

.

นอกจากนี้  รัฐบาลควรจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือแรงงานที่ถูกเลิกจ้าง  โดยมีตัวแทนนายจ้างและลูกจ้างร่วมมือกัน  ส่วนวงเงินกองทุนเท่าใด  รัฐบาลจะต้องมีการประเมินว่าคนถูกเลิกจ้างจะมีเท่าใด  จึงจะสามารถจัดสรรงบประมาณสำหรับกองทุนได้อย่างชัดเจน

.

นายแล กล่าวด้วยว่า  ไม่อยากเห็นนายจ้างมองแรงงานเป็นเพียงทรัพยากร  ควรมองว่าเป็นมนุษย์  และไม่ต้องการให้นายจ้างฉวยโอกาสอ้างว่าภาวะเศรษฐกิจไม่ดีแล้วปลดคนงาน  ทั้ง ๆ ที่ธุรกิจยังเดินหน้าได้  รวมทั้งเห็นว่าหากเกิดภาวะเศรษฐกิจควรที่จะลดต้นทุนส่วนอื่น  เช่น  ค่าน้ำมัน  วัตถุดิบ  หรือภาษี  ก่อนที่จะปลดคนงาน  ซึ่งควร เป็นสิ่งที่ทำขั้นสุดท้าย

.

ด้าน นายชินโชติ แสงสังข์ ประธานสภาแรงงานแห่งประเทศไทย กล่าวถึง 18 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลว่า มาตรการให้เงิน 2,000 บาทดีแน่นอน แต่อยากเห็นมาตรการที่เป็นรูปธรรมมากกว่านั้น เนื่องจากยังไม่สบายใจว่า การเอาเงินไปแจกเลยทำได้หรือไม่ แต่ถ้าไม่มีปัญหาทางนโยบายก็คงไม่ติดใจอะไร หากใช้เงินงบประมาณคงไม่ติดขัด แต่ถ้าใช้ประกันสังคมคงทำไม่ได้

.

นายชินโชติ กล่าวต่อว่า งบกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นนโยบายเฉพาะหน้าที่ช่วยเหลือแรงงานได้ไม่ถาวร และไม่ช่วยให้เกิดความเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะการลดเงินสมทบประกันสังคมทำไม่ได้แน่นอน เนื่องจากจะเกิดผลกระทบกับเงินกองทุนประกันสังคม เป็นการเกาไม่ถูกที่คัน