นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจวันพรุ่งนี้(7 ม.ค.) กระทรวงพาณิชย์จะเสนอของบประมาณจำนวน 5,000-10,000 บาท จากงบประมาณกลางปีที่มีอยู่ 1 แสนล้านบาท เพื่อใช้ดำเนินโครงการขับเคลื่อนภาคการส่งออกตามยุทธศาสตร์เชิงรับและเชิงรุก เช่น ดำเนินโครงการเจาะตลาดใหม่, การกระตุ้นตลาดในประเทศ เพื่อผลักดันการส่งออกปี 52 ขยายตัวได้ตามเป้าหมายเกินกว่า 5%

นอกจากนี้ จะได้หารือถึงมาตรการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง คือการแก้ปัญหาสภาพคล่องเพื่อเสริมสร้างความสามารถทางการแข่งขันให้แก่ผู้ส่งออก ซึ่งเบื้องต้นจากที่ได้หารือกับนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี และนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ต่างสนับสนุนแนวคิดการจัดตั้งกองทุนแมชชิ่งฟันด์ วงเงินไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยจะระดมเงินทุนจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) และธนาคารพาณิชย์ เป็นกองทุนเพื่อสนับสนุนสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการในอัตราดอกเบี้ยต่ำ

รมช.พาณิชย์ ยังกล่าวด้วยว่า จะมีการจัดตั้งกองทุนประกันความเสี่ยงเพื่อการส่งออกของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) วงเงิน 5,000 ล้านบาท เนื่องจากพบว่ายุทธศาสตร์การส่งออกไปยังตลาดใหม่จะมีอัตราความเสี่ยงด้านการส่งออกที่สูงกว่าตลาดหลัก ซึ่งอาจจะกระทบต่อผู้ส่งออกได้ ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องวางแนวทางเพื่อช่วยลดความเสี่ยงให้แก่ผู้ประกอบการ

"เท่าที่หารืออย่างไม่เป็นทางการกับรองนายกฯ และรมว.คลัง เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว ขณะที่กระทรวงการคลังเองจะมีแพ็คเกจอื่นๆ ซึ่งมาตรการที่กระทรวงพาณิชย์เสนอเป็นในเรื่อง demand เพื่อส่งเสริมให้เกิดการขายมากที่สุด" นายอลงกรณ์ กล่าว