เนื้อหาวันที่ : 2008-12-23 14:24:58 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1551 views

อมตะ ไม่หวั่นต่างชาติปรับลดพอร์ต เร่งจับธุรกิจบริการเอื้อแผนขายที่ดินปี 2552

"อมตะ" เร่งแผนกระจายความเสี่ยงการลงทุนปี 2552 หันจับธุรกิจบริการหนุนการขายที่ดิน พร้อมเดินสายโรดโชว์ จีน ญี่ปุ่น หวังสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนหวนกลับไทย หลังต่างชาติปรับลดพอร์ตอมตะเหลือ 37.98% เหตุจากไม่มั่นใจสถานการณ์การเมืองในประเทศไทยและหวั่นความผันผวนของตลาดทุนโลก

"อมตะ" เร่งแผนกระจายความเสี่ยงการลงทุนปี 2552 หันจับธุรกิจบริการหนุนการขายที่ดิน พร้อมเดินสายโรดโชว์ จีน ญี่ปุ่น หวังสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนหวนกลับไทย หลังต่างชาติปรับลดพอร์ตอมตะเหลือ 37.98% เหตุจากไม่มั่นใจสถานการณ์การเมืองในประเทศไทยและหวั่นความผันผวนของตลาดทุนโลก

.

นางวราภรณ์ วัชรานุเคราะห์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารการลงทุน  เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้มีการวางแผนจัดการความเสี่ยงด้านรายได้ โดยกระจายการลงทุนไปยังธุรกิจบริการ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีความั่นคงเช่น การให้บริการน้ำ และบริการด้านสาธารณูปโภคแก่ลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมซิตี้และนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ฯลฯ

.

นอกจากนี้บริษัทมีแผนที่จะกระตุ้นยอดขาย โดยต้นปี 2552 จะเดินทางไปนำเสนอข้อมูล (road show) กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเช่น จีน ญี่ปุ่น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กลับมาลงทุนที่ประเทศไทย ซึ่งน่าจะช่วยลดความเสี่ยงจากภาวะการผันผวนจากปัจจัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน

.

เนื่องจากสถานการณ์การเมืองที่ไม่มีเสถียรภาพนัก ประกอบกับภาวะความผันผวนในตลาดทุนของโลก ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติเริ่มเทขายหุ้นไทยติดต่อกันทุกวันตั้งแต่ปลายเดือน พฤษภาคม 2551 เป็นต้นมาจึงทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติในอมตะลดลงด้วยอย่างต่อเนื่อง จนถึงวันที่ 2 ธันวาคม 2551 ซึ่งสัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติรวมไทยเอ็นวีดีอาร์ เหลือเพียง 37.98% จึงส่งผลให้อมตะไม่ติดในอันดับ SET50 สำหรับงวดครึ่งปีแรกของปี 2552 โดยเคยอยู่ในอันดับดังกล่าวในช่วง กค.2546-ธค.2547 และ กค.2549-ธค.2551 ขณะที่ปัจจุบันอมตะมีสัดส่วนรายได้ที่เกิดขึ้นประจำ (Recuring Income) คิดเป็น 24% ของรายได้รวม

.

"ที่ผ่านมาบริษัทได้นำหุ้น บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชั่น เข้าตลาดหลักทรัพย์ แต่ต้องยอมรับว่าหุ้นอมตะจัดเป็นหุ้นบลูชิพที่นักลงทุนไทยและต่างชาติให้ความสนใจเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามสัดส่วนนักลงทุนต่างชาติที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง จะเป็นไปตามสัดส่วนการลงทุนของต่างชาติในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งในช่วงเดือนกันยายน 2550 อมตะมีสัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติรวมไทยเอ็นวีดีอาร์ 52.63% ซึ่งในระยะเวลาเดียวกันนั้นเงินลงทุนสะสมของต่างชาติในตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็สูงสุดด้วย" นางวราภรณ์กล่าว

.

อย่างไรก็ดี จากการที่ธนาคารโลก (World Bank) ออกมาประเมินอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของประเทศไทยว่า ในปี 2552 จะได้รับแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจโลกและการค้าที่ถดถอย ส่งผลให้ปีหน้า GDP ไทยน่าจะมีการขยายตัวที่ 2% และคาดว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกปีหน้าขยายตัวเพียง 0.9% แน่นอนว่าหากเศรษฐกิจเป็นไปตามที่ธนาคารโลกคาดการณ์จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการขายพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมของอมตะอย่างแน่นอน