"กระเบื้องหลังคาตราเพชร" หรือ DRT เปิดแผนรุกตลาดปี 2552 ลุยตั้งศูนย์กระจายสินค้าตามภูมิภาค หวังขยายฐานตัวแทนจำหน่ายเพิ่มเป็น 700 ราย รับพฤติกรรมลูกค้าเร่งสร้างบ้าน หลังราคาวัสดุก่อสร้างลดลง เร่งโรดโชว์แนะนำสินค้ากับคู่ค้าต่อเนื่อง หวังช่วยดันยอดขาย มั่นใจตลาดส่งออกเติบโตต่อเนื่อง
"กระเบื้องหลังคาตราเพชร" หรือ DRT เปิดแผนรุกตลาดปี 2552 ลุยตั้งศูนย์กระจายสินค้าตามภูมิภาค หวังขยายฐานตัวแทนจำหน่ายเพิ่มเป็น 700 ราย รับพฤติกรรมลูกค้าเร่งสร้างบ้าน หลังราคาวัสดุก่อสร้างลดลง เร่งโรดโชว์แนะนำสินค้ากับคู่ค้าต่อเนื่อง หวังช่วยดันยอดขาย มั่นใจตลาดส่งออกเติบโตต่อเนื่องคาดสิ้นปีหน้า ขยับสัดส่วนเป็น 12% ก่อนเพิ่มเป็น 15% ในปี 2553 หลังเริ่มเดินสายการผลิตไม้ฝา-ไม้บอร์ด ที่มีกำลังการผลิต 5 หมื่นตัน พร้อมลุยเจาะตลาดทั้งในและต่างประเทศ |
. |
. |
นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการ สายการขายและการตลาด บริษัทกระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องหลังคาและไม้สังเคราะห์ "ตราเพชร" เปิดเผยถึงแนวโน้มของตลาดวัสดุก่อสร้างในปี 2552 ว่า คาดว่าเติบโตไม่มากนัก เนื่องจากมีปัจจัยลบทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งภาวการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้ราคาวัสดุก่อสร้างหลายรายการได้ปรับราคาลงเพื่อให้สอดคล้องกับภาวะตลาด เช่น ราคาเหล็ก จากเดิมที่มีราคาอยู่ที่ 30-40 บาทต่อกิโลกรัม ลดเหลือ 20 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งแนวโน้มของราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวลง ทำให้กลุ่มลูกค้าที่เคยชะลอการตัดสินใจก่อสร้างที่อยู่อาศัย ในช่วงที่ราคาวัสดุก่อสร้างราคาแพง กลับมาเร่งก่อสร้างในช่วงปีหน้า โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ในระดับกลางถึงล่าง |
. |
ทั้งนี้ บริษัทฯ มองว่าถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะรุกทำตลาดหลังคาให้มากขึ้น เนื่องจากสินค้าของบริษัทฯ มีกลุ่มเป้าหมายหลักอยู่ที่กลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงล่าง และเป็นตลาดใหญ่ที่ลูกค้ามีความต้องการซื้อสินค้า การพัฒนาสินค้าและช่องทางการจัดจำหน่ายให้มีประสิทธิภาพ จะช่วยผลักดันให้บริษัทฯ สามารถประสบความสำเร็จในการทำตลาดได้ |
. |
"ในปี 2552 เรายังมองตลาดในแง่บวก จากปัจจัยในเรื่องของราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวลงตามแนวโน้มของตลาด แต่ก็ยังมีโอกาสในการขายสินค้าให้กับกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงล่าง ที่มองถึงปัจจัยในเรื่องของราคาวัสดุก่อสร้าง เมื่อราคาปรับตัวลงลูกค้ากลุ่มนี้ที่เคยชะลอการก่อสร้างบ้านก็จะหันกลับมาเร่งสร้างบ้านให้เสร็จในช่วงนี้ เพราะจะประหยัดเงินจากการก่อสร้างบ้านได้เป็นจำนวนมาก" นายสาธิต กล่าว |
. |
รองกรรมการผู้จัดการ สายการขายและการตลาด กล่าวว่า จากแนวโน้มของตลาดดังกล่าว ทำให้บริษัทฯ ได้เตรียมแผนการทำตลาดในปี 2552 ที่จะเร่งขยายฐานตัวแทนจำหน่ายเพิ่มขึ้นจากเดิมที่มี 600 ราย เพิ่มเป็น 700 ราย โดยเน้นพื้นที่ในต่างจังหวัดที่เจาะลงไปยังตัวแทนขายรายย่อยในระดับตำบล พร้อมกับจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าของบริษัทฯ ที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าในการกระจายสินค้าไปยังตัวแทนจำหน่ายได้ทันความต้องการของลูกค้าและยังช่วยลดต้นทุนขนส่งและพื้นที่สต็อกสินค้าให้กับตัวแทนจำหน่ายด้วย ซึ่งคาดว่าจากแผนดังกล่าว จะผลักดันยอดขายพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้เพิ่มขึ้น 10-20% |
. |
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังได้เตรียมงบทำตลาด 5% ของยอดขายรวม เพื่อทำตลาดสินค้าใหม่ๆ ด้วยการโรดโชว์อบรมแนะนำสินค้าให้กับตัวแทนจำหน่าย ช่างรับเหมาก่อสร้างเพื่อให้มีความเข้าใจ รวมถึงการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อวิทยุ สิ่งพิมพ์ ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ และงบบางส่วนใช้ทำโปรโมชั่นกับตัวแทนจำหน่ายหรือเทรดโปรโมชั่น เพื่อให้คู่ค้าร่วมกันช่วยผลักดันการขายสินค้าในช่องทางการจัดจำหน่ายไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ |
. |
"ในปีหน้า กำลังซื้อของลูกค้าจะลดลงกว่า 50% ตามภาวะปัจจัยทางเศรษฐกิจในประเทศ ทำให้เราต้องเร่งขยายตัวแทนจำหน่ายสินค้าให้มากขึ้น เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้ารายเล็กที่มีความต้องการก่อสร้างบ้าน พร้อมตั้งศูนย์กระจายสินค้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง ที่จะตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้ารายย่อยในแต่ละพื้นที่ได้มากขึ้น ซึ่งช่วยผลักดันยอดขายของเราให้เติบโตได้" นายสาธิต กล่าว |
. |
รองกรรมการผู้จัดการ สายการขายและการตลาด DRT กล่าวว่า ส่วนแผนการลงทุนนั้น ขณะนี้อยู่ในระหว่างการติดตั้งสายการผลิตที่ 9 รองรับการผลิตไม้ฝา ไม้บอร์ด ที่มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 5 หมื่นตันต่อปี โดยแล้วเสร็จและพร้อมเดินเครื่องได้ในปี 2553 ซึ่งสายการผลิตดังกล่าว จะช่วยให้บริษัทฯ สามารถผลิตสินค้าไม้บอร์ดและไม้ฝา ที่มีความหลากหลายตามความต้องการของผู้ใช้งาน เพื่อป้อนให้กับลูกค้าทั้งตลาดในประเทศ และตลาดส่งออก ที่ตั้งเป้าว่าสัดส่วนเพิ่มยอดขายจากตลาดส่งออกจากปีนี้อยู่ที่ 10% เพิ่มเป็น 12% ในปี 2552 และเพิ่มเป็น 15% ภายในปี 2553 นี้ |
. |
ส่วนเป้ายอดขายในปี 2552 นั้น บริษัทฯ คาดว่าจะมียอดขายเติบโตใกล้เคียงกับปีนี้ ที่คาดว่าจะเติบโตไม่ถึง 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากในปีนี้ มีปัจจัยลบทางด้านการเมืองที่ทำให้ลูกค้าชะลอการก่อสร้างบ้านลง |