นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลจะประกาศออกมาภายหลังการแถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้นจะครอบคลุมปัญหาทุกส่วน มุ่งเน้นที่จะรักษาอำนาจซื้อ แรงงานได้รับการคุ้มครองและเกิดการจ้างงานใหม่ ฟื้นความเชื่อมั่นให้กลับคืนมา

"เราเจอปัญหาสองอย่างมาพร้อมกัน วิกฤติโลกกระทบด้านสภาพคล่อง ความตกใจของสถาบันการเงิน ทำให้ระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อ อำนาจซื้อลดลง ส่งออกได้รับผลกระทบ แถมราคน้ำมันลดลง ทำให้ราคาสินค้าเกษตรก็ลงตาม ปัญหาการเมืองก็เข้ามาซ้ำเติมเรื่องความเชื่อมั่น และการท่องเที่ยว เราต้องการแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ครอบคลุม"นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์เช้านี้

"ทำอย่างไรจะรักษาอำนาจซื้อได้ เกษตรกรต้องได้ราคาพืชผลที่ดี แรงงานได้รับการคุ้มครอง ท่องเที่ยวต้องเรียกความเชื่อมั่นกลับมา ทั้งชาวต่างชาติและคนไทยที่จะเดินทางท่องเที่ยวต้องได้รับการกระตุ้น อสังหาริมทรัพย์ ทำอย่างไรให้มีอำนาจซื้อเพื่อประคับประคองภาวะซบเซา"

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มาตรการทั้งหมดต้องอาศับงบประมาณ รัฐบาลจะสานต่อการเพิ่มงบประมาณกลางปี 1 แสนล้านบาทจากรัฐบาลชุดเก่า แต่อาจต้องปรับปรุงในรายละเอียด ซึ่งจะต้องมุ่งให้เงินเข้ากระเป๋าคนให้เร็วที่สุด สร้างงานให้มากที่สุด ดูเรื่องปล่อยสินเชื่อให้ผู้ประกอบการเดินไปได้ และช่วยเหลือภาคเกษตร

รัฐบาลจะเร่งรัดการจัดทำข้อตกลงอาเซียนทั้ง 9 ประเทศ ที่ขณะนี้กำลังรอความพร้อมในการลงนามของไทย ซึ่งจะต้องให้เสร็จภายในต้นปี 52 เพื่อเดินหน้าเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำอาเซียนโดยเร็ว ซึ่งไทยจะส่งสัญญาณไปยังสมาชิกอาเซียนว่ามีความพร้อมจะจัดการประชุมได้ตั้งแต่ปลายม.ค. เพื่อเรียกความเชื่อมั่นที่เป็นรูปธรรมว่าประเทศไทยมีความสงบแล้ว

หากไทยสามารถจัดประชุมระดับนานาชาติได้ก็จะส่งผลดีต่อด้านการท่องเที่ยวด้วย เพราะเบื้องต้นความเชื่อมั่นเป็นเรื่องสำคัญ นอกจากนั้น ยังจะหาแนวทางลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการ สายการบินต่าง ๆ รวมทั้งสร้างแรงจูงใจต่าง เช่น ค่าธรรมเนียมที่คิดกับสายการบิน และนักท่องเที่ยว รวมทั้งการพูดคุยกับรัฐบาลต่างประเทศ เริ่มจากด้านเอเชีย เพราะมองว่าตลาดเอเชียจะกลับมาได้เร็วที่สุด

ด้านการแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตร  นายอภสิทธิ์ ยกตัวอย่างเรื่องราคายางพารา ที่การซื้อขายในตลาดโลกช่วงนี้ชะงักลงไปทำให้ราคาร่วงลงอย่างหนักจะต้องมีการแทรกแซงราคาเพื่อดึงสต็อกเข้ามาลดปริมาณในตลาด เพื่อบรรเทาแรงกดดันและภาวะล้นตลาด

"จะเรียกความเชื่อมั่นกลับมาใน 2-3 เดือนจะส่งสัญญาณให้ชัด เราตั้งใจจะใช้โอกาสแถลงนโยบายก่อนปีใหม่ เร่งจัดการประชุมผู้นำอาเซียน มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา เสนอกฎหมายเพิ่มงบกลางปีในสมัยประชุมสภาสามัญ เปิดทิศทางให้เห็นที่เราจะเดินไป"นายอภิสิทธิ์ กล่าว