สถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จัดงาน ESCO FAIR 2008 "ESCO..Invest for Energy Saving.. Invest for the Future" งานนิทรรศการส่งเสริมธุรกิจบริษัทจัดการพลังงานและงานสัมมนาวิชาการ พร้อมข้อมูลความรู้ เพื่อการตัดสินใจลงทุนด้านการอนุรักษ์พลังงาน โดยได้รับเกียรติจากนายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงานและมอบรางวัลให้กับสถานประกอบการที่ประสบผลสำเร็จจากการใช้ระบบ ESCO พร้อมทั้งวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและเอกชนร่วมเสวนา

สถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมฯ  ดำเนินการจัดทำ โครงการส่งเสริมธุรกิจบริษัทจัดการพลังงานและจัดสร้างเครือข่ายระหว่างบริษัทจัดการพลังงาน ผู้ประกอบการ และสถาบันการเงิน ปีที่ 2 โดยได้รับการสนับสนุนจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงาน มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม เผยแพร่ และประชาสัมพันธ์ธุรกิจบริษัทจัดการพลังงาน

สร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นให้เกิดการดำเนินธุรกิจและการลงทุนด้านการอนุรักษ์พลังงาน ส่งเสริมให้สถานประกอบการที่มีความพร้อมและมีศักยภาพในการอนุรักษ์พลังงาน สามารถเลือกลงทุนเพื่อการอนุรักษ์พลังงานได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งสร้างความร่วมมือระหว่าง ESCO สถาบันการเงิน และผู้ประกอบการ เพื่อให้เกิดการดำเนินการอนุรักษ์พลังงานอย่างเป็นรูปธรรม

ซึ่งจะเป็นแหล่งข้อมูลที่สำคัญที่จะให้โรงงาน/อาคาร สามารถเข้ามาหาข้อมูลเพื่อนำไปพิจารณาเลือกใช้บริการจากบริษัท ESCO ได้ และยังเป็นศูนย์กลาง ข่าวสาร ตลอดจนการประสานงานระหว่างบริษัทจัดการพลังงาน สถาบันการเงิน และผู้ประกอบการ ที่สนใจ

นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การการอนุรักษ์พลังงานจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมืออย่างจริงจังทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อให้สร้างความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน และตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์พลังงาน

นอกจากนี้ในการอนุรักษ์พลังงานจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีหรือความเชี่ยวชาญพิเศษ และต้องการเงินลงทุน ในการปรับเปลี่ยน อุปกรณ์ เครื่องจักร หรือปรับปรุงระบบงานการผลิต จำเป็นที่จะต้องให้ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ อย่างเช่น บริษัทจัดการพลังงานที่สามารถให้บริการอย่างครบวงจร และมีการประกันผลประหยัด เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้ประกอบการ

ทั้งนี้ การพัฒนาด้านเศรษฐกิจ สังคม และชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนจำเป็นต้องบริโภคพลังซึ่งได้กลายเป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญสำหรับการขับเคลื่อนระบบต่างๆ ให้เป็นไปตามกลไกของการดำเนินชีวิต โดยความต้องการใช้พลังงานในแต่ละวันได้เพิ่มมากขึ้น

ในปี 2550 มีการใช้พลังงานในปริมาณรวมทั้งสิ้น 63,180 พันตันเทียบเท่าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นจากปี 2549 ร้อยละ 1.3 ทำให้ประเทศต้องนำเข้าพลังงานรวมทั้งสิ้น 58,383 พันตัน เทียบเท่าน้ำมันดิบมีมูลค่ารวม 870,171 ล้านบาท เพิ่มมากขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 15.4 ซึ่งส่วนใหญ่มีผลอันเนื่องมาจากราคาของ พลังงานทุกประเภทโดยเฉพาะน้ำมันดิบนั้นมีราคาสูงขึ้นมากเป็นลำดับ

งานสัมมนาครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสดีที่จะเปิดตัว การส่งเสริมการลงทุนด้านอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน (ESCO Fund) ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการช่วยเหลือเพื่อการลงทุนอนุรักษ์พลังงาน โดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ได้อนุมัติงบประมาณ 500 ล้านบาท เพื่อที่จะเข้าร่วมทุนในโครงการ (Equity Investment)  หรือเข้าร่วมทุนกับบริษัทจัดการพลังงาน (ESCO Venture Capital) รวมถึงการเช่าซื้ออุปกรณ์ประหยัดพลังงาน/พลังงานทดแทน (Equipment Leasing)

ทั้งนี้ พพ. และสภาอุตสาหกรรมมีเป้าหมายที่จะให้เกิดการลงทุนด้านอนุรักษ์พลังงานมากกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี และส่งเสริมศักยภาพบริษัทจัดการพลังงานในประเทศมากขึ้น (ปัจจุบันมีบริษัท ESCO ที่ active ประมาณ 50 บริษัท และมีการลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาทต่อปี) ซึ่งจะสามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการที่มีความพร้อมในการอนุรักษ์พลังงาน สามารถเลือกลงทุนได้อย่างเหมาะสม อันจะนำไปสู่การลดต้นทุนการผลิตด้านพลังงานและช่วยรักษาภาวะโลกร้อน นำอุตสาหกรรมไทยให้เกิดการพัฒนาศักยภาพก้าวไกลสู่ระดับสากล

นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)

ด้านนายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การใช้พลังงานมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นในทุกภาคส่วนของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้พลังงานในภาคอุตสาหกรรม และภาคธุรกิจ ซึ่งเป็นสาขาเศรษฐกิจที่มีการใช้พลังงานเป็นปริมาณมากที่สุด ดังนั้นหากสามารถทำให้เกิดการอนุรักษ์พลังงานในภาคอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจอย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพก็จะก่อให้เกิดประโยชน์โดยตรงต่อผู้ประกอบการในด้านการลดต้นทุน

ส่งผลให้ผู้ประกอบการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศ ลดการนำเข้าพลังงาน และลดปัญหาสิ่งแวดล้อมที่กำลังเป็นปัญหาสำคัญในภาวะปัจจุบัน ด้วยเหตุผลสำคัญดังกล่าวภาครัฐโดยกระทรวงพลังงาน จึงมีนโยบายในการกำกับดูแลและส่งเสริมให้เกิดการอนุรักษ์พลังงานให้ได้ประสิทธิภาพอย่างสูงสุด

งาน ESCO FAIR 2008  เป็นกิจกรรมหนึ่งที่สำคัญ ซึ่งเป็นทั้งงานสัมมนาให้ความรู้กับผู้ประกอบการ และเป็นเวทีกลางในการพบปะกันระหว่างบริษัทจัดการพลังงาน สถาบันการเงิน/หน่วยงานส่งเสริมการลงทุนที่ให้บริการด้านการอนุรักษ์พลังงาน ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จด้านการอนุรักษ์พลังงาน โดยใช้บริการของบริษัทจัดการพลังงาน จำนวนกว่า 40 บริษัท

"นับเป็นการรวมตัวครั้งใหญ่ เพื่อให้ผู้ประกอบการที่มีความสนใจเรื่องการอนุรักษ์พลังงานพบกับเทคโนโลยีด้านการประหยัดพลังงานใหม่ๆ และการลงทุนด้านการอนุรักษ์พลังงาน ได้เข้าชมและเลือกใช้บริการของบริษัทจัดการพลังงาน อันจะนำไปใช้พัฒนาศักยภาพการผลิตในภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทยให้มีความเข้มแข็งและสามารถสร้างผลประกอบการให้ดีมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับการแข่งขันกับตลาดโลกในยุคปัจจุบัน อีกทั้งยังถือเป็นส่วนช่วยอนุรักษ์พลังงานของโลกให้คงอยู่โดยปราศจากสภาวะโลกร้อนได้อีกทาง" ประธาน ส.อ.ท. กล่าว

นอกจากนี้ สถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมฯ ยังกำหนดให้มีการจัดงาน ESCO Fair ภูมิภาคขึ้น เพื่อสนับสนุนส่งเสริม และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ธุรกิจบริษัทจัดการพลังงานให้ทั่วถึงในทุกภูมิภาค ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับผู้ประกอบการ และผู้ที่สนใจทั่วไป เพื่อสามารถขอรับข้อมูลและทำความเข้าใจถึงรูปแบบ การดำเนินการของ ESCO อีกทั้งยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่น กระตุ้นให้เกิดการดำเนินธุรกิจ การลงทุนด้านการอนุรักษ์พลังงานในภูมิภาคต่างๆ ด้วย

โดยมีกำหนดที่จะจัดงาน ESCO FAIR ภูมิภาค ใน 5 จังหวัด ดังนี้ จังหวัดนครราชสีมา จัดงาน ESCO Fair ภูมิภาค  วันที่ 25 ก.พ. 2552   ณ รร.  ซิตี้พาร์ค จังหวัดปราจีนบุรี    จัดงาน ESCO Fair ภูมิภาค  วันที่ 12 มี.ค. 2552   ณ รร.  วังสำราญ รีสอร์ท จังหวัดสงขลา                 จัดงาน ESCO Fair ภูมิภาค  วันที่ 24 เม.ย. 2552  ณ รร.  เจบี หาดใหญ่ จังหวัดเชียงใหม่     จัดงาน ESCO Fair ภูมิภาค  วันที่ 15 พ.ค. 2552   ณ รร.  ดิเอมเพลส จังหวัดอยุธยา      จัดงาน ESCO Fair ภูมิภาค  วันที่ 10 มิ.ย. 2552   ณ รร.  กรุงศรี ริเวอร์