ซีนอน ซูเปอร์ ซีเอ็นจี รถปิคอัพคันแรกในตลาดรถของไทย ที่ใช้ระบบเครื่องยนต์ ซีเอ็นจี แท้ทั้งระบบ 100% ให้ความประหยัด และมีมลพิษต่ำกว่ารถปิคอัพทั่วไป นับเป็นการเปิดตัวเป็นครั้งแรกในโลกอีกด้วย
ซีนอน ซูเปอร์ ซีเอ็นจี รถปิคอัพคันแรกในตลาดรถของไทย ที่ใช้ระบบเครื่องยนต์ ซีเอ็นจี แท้ทั้งระบบ 100% ให้ความประหยัด และมีมลพิษต่ำกว่ารถปิคอัพทั่วไป นับเป็นการเปิดตัวเป็นครั้งแรกในโลกอีกด้วย |
. |
การเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทาทา ในด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ นับเป็นทางเลือกใหม่ๆ ให้กับลูกค้า ด้วยสินค้าที่มีความแตกต่าง และโดดเด่นจากคู่แข่งในตลาดอย่างแท้จริง ซึ่งลูกค้าของทาทา จะได้เลือกใช้รถปิคอัพที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน ใช้ในการประกอบอาชีพอย่างแท้จริง เป็นรถที่สร้างรายได้ ประหยัดกว่าทั้งในเรื่องการบำรุงรักษา และค่าเชื้อเพลิง ซึ่งนับเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดที่ทาทาได้มีโอกาสเปิดตัวรถปิคอัพ ซีนอน ซูเปอร์ ซีเอ็นจี เป็นครั้งแรกในโลก ให้ลูกค้าชาวไทยได้มีโอกาสสัมผัสรถยนต์พลังงานทางเลือกนวัตกรรมล่าสุด ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงต่ำกว่า ประหยัดกว่า รถปิคอัพทุกคันที่มีวิ่งอยู่ในประเทศไทย จากนโยบายของรัฐบาลที่กำหนดให้ราคาของก๊าซต่ำกว่าราคาดีเซลอย่างน้อยครึ่งต่อครึ่ง |
. |
ปิคอัพฉีกกฎ ซีนอน ซูเปอร์ ซีเอ็นจี เครื่องยนต์ 2.1 ลิตร DOHC หัวฉีดมัลติพอยต์ แรงม้าสูงสุด 115 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 175 นิวตันเมตร ที่รอบต่ำเพียง 3,750 รอบ/นาที โดดเด่นด้วย ระบบเครื่องยนต์ซีเอ็นจี แท้ทั้งระบบ ใช้วัสดุอุปกรณ์ชั้นนำคุณภาพสูงสุด ที่ผ่านการทดสอบและคัดเลือกมาเพื่อระบบเครื่องยนต์ ซีเอ็นจีโดยเฉพาะอาทิ ระบบท่อก๊าซใช้ของ Sandvik เยอรมัน และ Swagelok สหรัฐอเมริกา วาล์วนิรภัยของ OMB อิตาลี ช่วยป้องกันอุบัติเหตุจากการรั่วซึม แรงดัน และอุณหภูมิ ส่วนระบบประมวลผลอัจฉริยะคำนวณการผสมผสานก๊าซ อากาศ สภาพการขับขี่ ใช้ของ Bosch เยอรมัน และเซ็นเซอร์ของ Valeo ฝรั่งเศส เป็นต้น |
. |
การปรับกำลังอัดภายในเครื่องยนต์ให้เหมาะสมกับเชื้อเพลิง CNG เพื่อการเผาไหม้ที่สมบูรณ์สูงสุด เครื่องยนต์จึงทำงานอย่างราบเรียบ และยิ่งไปกว่านั้น เครื่องยนต์ยังถูกออกแบบให้เหมาะกับการใช้งานที่สมบุกสมบัน ทนทานในทุกสภาพการใช้งาน ประหยัดเชื้อเพลิงสูงสุด และบำรุงรักษาง่าย |
. |
จุดเด่นอื่นๆ ของทาทา ซีนอน ซูเปอร์ ซีเอ็นจี อาทิ |
|
. |
กลุ่มลูกค้าเป้าหมายค่อนข้างจะชัดเจน และแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด อาทิกลุ่มผู้ใช้รถประจำถิ่นที่ใช้งานขนส่งสินค้าบนเส้นทางที่แน่นอน และอีกกลุ่มที่มีศักยภาพมาก คือลูกค้ากลุ่มบริษัทใหญ่ๆ ที่มีค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงสูงมากๆ การเลือกใช้ CNG จะทำให้ต้นทุนในการบริหารจัดการต่ำลงทันทีอย่างน้อย 30-50% |