เนื้อหาวันที่ : 2008-12-16 08:36:02 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1159 views

พาณิชย์ ตั้งเป้าส่งออกปี 52 โต 0-5% สวนทางเอกชนมองอาจติดลบ

พาณิชย์ ประเมินเป้าหมายการส่งออกในปี 52 โต 5% ภาคเอกชนในหลายกลุ่มอุตสาหกรรมมองขยายตัวติดลบ แม้ว่าที่นายกคนใหม่ "อภิสิทธิ์" วาดฝันฟื้นเศรษฐกิจ 3 ในเดือนเป็นไปได้ยาก มิหนำซ้ำร้ายกว่าเดิม

พาณิชย์ ประเมินเป้าหมายการส่งออกในปี 52 จากกรมส่งเสริมการส่งออกแล้ว ในหลักการเห็นด้วยที่จะตั้งเป้าหมายการส่งออกให้โต 5% ภาคเอกชนในหลายกลุ่มอุตสาหกรรมจะประเมินว่าการส่งออกในปีหน้าจะขยายตัวติดลบ

.

นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์

.

นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานตัวเลขประเมินเป้าหมายการส่งออกในปี 52 จากกรมส่งเสริมการส่งออกแล้ว ในหลักการเห็นด้วยที่จะตั้งเป้าหมายการส่งออกให้โต 5% แม้ว่าภาคเอกชนในหลายกลุ่มอุตสาหกรรมจะประเมินว่าการส่งออกในปีหน้าจะขยายตัวติดลบ แต่กระทรวงพาณิชย์ในฐานะที่เป็นหน่วยงานขับเคลื่อนด้านการส่งออกก็ต้องผลักดันให้การส่งออกขยายตัวให้ได้ ซึ่งจะมีการเพิ่มมาตรการในการกระตุ้นให้มากขึ้นและจะรายงานให้รัฐบาลใหม่พิจารณาต่อไป

.

"เอกชนมองว่าการส่งออกภาพรวมจะติดลบ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะต้องใช้ความพยายามให้มากที่สุด ให้ลบน้อยที่สุด และต้องเป็นบวกให้ได้ การประเมินส่งออกว่าจะติดลบเป็นการมองในแง่ร้ายสุดๆ แต่ผมไม่เชื่อว่าการส่งออกจะแย่ขนาดนั้น ผมยังมองว่าส่งออกน่าจะโตได้ ไม่ดีสุดน่าจะเป็น 0% หรือถ้าดีก็น่าจะ 5% หรืออยู่ระหว่าง 0-5%"นายศิริพล กล่าว

.

ทั้งนี้ ในการประเมินผลการส่งออกร่วมกับกลุ่มสินค้าต่างๆ พบว่าสินค้ายานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์นั้น ภาคเอกชนมีความเป็นห่วงว่าการส่งออกในปีหน้าจะชะลอตัวลงจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ก็ห่วง เพราะสินค้าเหล่านี้มีสัดส่วน 37% ของการส่งออกรวมทั้งหมด แต่สินค้าที่เหลือ เช่น สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์ยาง วัสดุก่อสร้าง เม็ดพลาสติก สิ่งพิมพ์ เครื่องหนัง รองเท้า เครื่องใช้เครื่องตกแต่ง เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์เภสัช เครื่องมือแพทย์ เครื่องกีฬา และของเล่น รวมถึงสินค้าเกษตรและอาหาร จะยังส่งออกได้ดีขึ้น

.

นายศิริพล กล่าวว่า ได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ทั่วโลกไปดำเนินมาตรการผลักดันการส่งออกให้มากขึ้น และขอให้เข้าถึงผู้นำเข้าและติดตามสถานการณ์สินค้าไทยอย่างใกล้ชิด โดยจะต้องประเมินว่าสินค้าไทยรายการไหนมีโอกาสในการบุกเจาะตลาดเพื่อหาช่องทางในการส่งออกสินค้าไทยให้มากขึ้น ขณะเดียวกันจะต้องเร่งชี้แจงและทำความมั่นใจให้เกิดขึ้นว่าสถานการณ์ในไทยเป็นปกติแล้วและจะไม่มีปัญหาเกิดขึ้นอีก