เนื้อหาวันที่ : 2008-12-02 13:29:06 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1165 views

สศอ.เผยดัชนีอุตสาหกรรมติดลบครั้งแรกในรอบปี จากปัญหาการเมือง

สศอ.เผย จากวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ ที่เป็นปัจจัยภายนอกที่ยากต่อการควบคุม และปัจจัยการเมืองภายในที่ยังไม่สามารถคลี่คลายลงได้ในเร็ววัน เริ่มส่งผลกระทบอย่างชัดเจนต่อภาคอุตสาหกรรมไทย

นายอาทิตย์ วุฒิคะโร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า จากวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ ที่เป็นปัจจัยภายนอกที่ยากต่อการควบคุม และปัจจัยการเมืองภายในที่ยังไม่สามารถคลี่คลายลงได้ในเร็ววัน เริ่มส่งผลกระทบอย่างชัดเจนต่อภาคอุตสาหกรรมไทย

.

นายอาทิตย์ วุฒิคะโร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (สศอ.)

.

จากตัวเลขดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนตุลาคม ที่ลดลงร้อยละ 0.90 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี 2550 โดยเป็นตัวเลขติดลบครั้งแรกในรอบปี 2551 ซึ่งถือว่าปัจจัยแวดล้อมทั้งภายนอกและภายในเริ่มส่งผลต่อภาคการผลิตอย่างชัดเจน

.

สำหรับอุตสาหกรรมสำคัญที่ส่งผลกระทบด้านลบต่อดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมรวม ได้แก่ เครื่องประดับเพชรพลอย ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และเหล็ก  สำหรับเครื่องประดับเพชรพลอย เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน พบว่าดัชนีการผลิตลดลงร้อยละ 34.8 โดยเป็นผลมาจากตลาดส่งออกสำคัญ คือ สหรัฐอเมริกามีภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

.

ทำให้สินค้ากลุ่มนี้เป็นสินค้าฟุ่มเฟือยที่ผู้บริโภคต้องรัดเข็มขัด จึงส่งผลต่อดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในกลุ่มนี้อย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ปัจจัยความผันผวนของราคาวัตถุดิบที่ผันผวนทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการเริ่มที่จะหันไปเปิดตลาดใหม่มากขึ้น โดยเฉพาะแถบตะวันออกกลาง รวมทั้งการรวมกลุ่มกันอย่างเหนียวแน่นเพื่อเกิดพลัง สำหรับการประคองธุรกิจในยามที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัวเช่นทุกวันนี้

.

ขณะที่ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนพบว่า ทั้งการผลิตและจำหน่ายลดลง ใกล้เคียงกัน คือ ลดลงร้อยละ 10 โดยสาเหตุหลักมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกเช่นกัน และเมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีอัตราการผลิตและจำหน่ายอย่างคึกคัก ทำให้ตัวเลขฐานการคำนวณสูงจึงส่งผลต่อการลดลงที่ชัดเจนในเดือนนี้ อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการในกลุ่มนี้ได้มีการปรับตัว

.

โดยการเปิดตลาดใหม่ รวมทั้งเจรจาขอเพิ่มสัดส่วนออร์เดอร์จากลูกค้าหลักให้สูงขึ้น เพื่อเป็นการพยุงสถานการณ์ ซึ่งคาดว่าอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จะสามารถฝ่าผ่านสถานการณ์เศรษฐกิจโลกชะลอตัวได้ในที่สุด

.

ขณะที่การผลิตเหล็ก เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน พบว่าสัดส่วนสินค้าสำเร็จรูปคงคลังต่อการจำหน่ายในผลิตภัณฑ์เหล็กเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในทุกผลิตภัณฑ์ เนื่องจากความต้องการใช้ในประเทศที่ชะลอลง โดยผลกระทบที่ชัดเจนที่สุดนั้นมาจากภาคธุรกิจการก่อสร้างไม่มีความคึกคัก และยังไม่สามารถคาดหวังกับการลงทุนเมกะโปรเจกต์ของรัฐบาลได้

.

นายอาทิตย์ กล่าวอีกว่า แม้สถานการณ์เศรษฐกิจจะชะลอตัว จากปัจจัยลบทั้งภายในและนอกประเทศ แต่สำหรับอุตสาหกรรมสำคัญที่เป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนให้ภาพรวมดัชนีอุตสาหกรรมขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะขยายตัวในอัตราที่ลดลงบ้าง ก็คือ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (Hard Disk Drive) เสื้อผ้าสำเร็จรูป และอุตสาหกรรมแปรรูปผักและผลไม้

.

อย่างไรก็ตาม จากประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้ผู้ประกอบการไทยมีพื้นฐานที่เข้มแข็ง หากสามารถเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสในการปรับปรุงประสิทธิภาพการประกอบการ พัฒนานวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ ตลอดจนเพิ่มทักษะของบุคลากรให้สูงขึ้นก็จะสามารถยืนหยัดสู้กับปัญหาต่าง ๆ และพร้อมที่จะก้าวกระโดด เมื่อภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัว

.

สำหรับดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ดัชนีผลผลิต (มูลค่าเพิ่ม) อยู่ที่ระดับ 180.21 ลดลงร้อยละ 0.90 จากระดับ 181.84 ดัชนีผลิต (มูลค่าผลผลิต) อยู่ที่ระดับ 183.84  ลดลงร้อยละ 1.40 จากระดับ 186.46  ดัชนีการส่งสินค้า อยู่ที่ระดับ 177.40 ลดลงร้อยละ 4.15 จากระดับ 185.07

.

ดัชนีแรงงานในภาคอุตสาหกรรม อยู่ที่ระดับ 116.06 ลดลงร้อยละ 2.96 จากระดับ 119.53 ดัชนีผลิตภาพแรงงานอุตสาหกรรม อยู่ที่ระดับ 135.82 ลดลง -2.11 จากระดับ 138.75 ขณะที่ดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลัง อยู่ที่ระดับ 210.54 เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.71 จากระดับ 190.18 ดัชนีอัตราส่วนสินค้าสำเร็จรูปคงคลัง อยู่ที่ระดับ 187.74 เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.48 จากระดับ 173.07 ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิต อยู่ที่ 60.80.

.

ที่มา : สำนักข่าวไทย