คนโบราณบอกไว้ว่าคนที่มีความกตัญญูกตเวที ชีวิตของเขาจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง อยากทราบว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
. |
คำถาม..คนโบราณบอกไว้ว่าคนที่มีความกตัญญูกตเวที ชีวิตของเขาจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง อยากทราบว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น |
คำตอบ..คนที่มีความกตัญญูกตเวทีก็คือคนที่รู้คุณ แล้วก็รักที่จะประกาศคุณซึ่งเคยได้รับมาจากผู้อื่น คนที่มีความกตัญญูกตเวทีเป็นคนโชคดีตั้งแต่เริ่มต้น โชคดีตรงไหน โชคดีตรงที่เขาเกิดมา ก็ได้เจอคนดี คนมีน้ำใจ เพราะเขาเคยได้รับน้ำใจมา |
. |
ทีนี้ บางคนบอกว่าชีวิตไม่เคยมีใครหยิบยื่นพระคุณมาให้กับเขาเลย ไม่ว่าเขาจะตกทุกข์ได้ยากอย่างไร ไม่เคยมีใครหยิบยื่นมาโอบอุ้ม มาช่วยเหลือ มาหอบหิ้วเขาเลย เมื่อเป็นอย่างนั้น เขาเกิดความรู้สึกอย่างไร เกิดความรู้สึกว่าโลกทั้งโลกมีแต่ความแห้งแล้ง มีแต่คนใจแคบ มีแต่ตัวใครตัวมัน แต่ถ้าเขาเป็นโชคดีได้เจอคนดีที่พร้อมจะหยิบยื่นความช่วยเหลือมาให้ แล้วเขาก็ได้รับด้วยตัวของเขาเอง |
. |
ถ้าคนๆ นี้เขาได้อย่างที่ว่านี้ ก็เพราะว่าเขาได้รับความมีน้ำใจมาแล้ว แล้วเขาก็รู้คุณค่าของความมีน้ำใจนั้นตอบด้วย เขาเรียกว่าคนมีความกตัญญู คือคนรู้คุณที่เขาเคยทำให้กับตัวเอง แต่ว่าถ้าคนไหนทั้งๆ ที่เขาก็ยื่นมือยื่นไม้มาหอบหิ้วมาช่วยเหลือทำให้ตัวพ้นทุกข์พ้นยากแล้ว ก็ยังนึกถึงคุณเขาไม่ออก ฟ้องว่าคนนี้ใจบอดเสียแล้ว ตาอาจจะยังดีอยู่ แต่ใจบอด บอดตรงที่มองความดีของคนอื่นไม่เห็น ทั้งๆ ที่ความดีนั้นได้ถูกหยิบยื่นมาให้ตัวเอง คนประเภทนี้แหละอันตราย เพราะว่า |
. |
|
ทีนี้ยังมีอีกขั้นหนึ่งอีก บางคนมีความกตัญญูรู้ว่าเขามีคุณกับเรา แต่ว่าแค่นี้ยังไม่พอ ต้องยิ่งกว่านั้น ขออภัย แม้แต่สุนัขบางตัวเราเลี้ยงให้อาหาร เมื่อถึงเวลามันยังรู้คุณ เพราะฉะนั้นคนไหน ใครเขามาทำความดีให้แล้วไม่รู้คุณ คนไทยหรือว่าคนโบราณจึงมีคำว่าหนักๆ กับคนไม่รู้คุณคน เขาเปรียบเทียบไว้เยอะแยะ แต่ทีนี้ สุนัขบางตัวอีกเหมือนกัน นอกจากรู้คุณเจ้าของแล้ว มันยังช่วยเฝ้าบ้านอีกเสียด้วย นั่นก็เป็นวิธีตอบแทนคุณอย่างหนึ่งของสุนัข มันทำได้แค่นั้น |
. |
แต่คนที่รู้คุณ แล้วไม่คิดแทนคุณ ตรงนี้ไม่ใช่เสียแล้ว เขามีจิตใจดีงาม ดีงามขนาดไหน ขนาดรู้คุณก็คือขนาดอนุบาล รู้คุณแล้ว แต่ว่าถ้าเมื่อไหร่คิดตอบแทนคุณ แค่คิดตอบแทนคุณเท่านั้นว่าเขามีพระคุณต่อเรา มีโอกาสเราต้องตอบแทนคุณเขาบ้าง แค่คิดตอบแทนเท่านั้น ระดับธรรมะในจิตใจของเขายกขึ้นสู่ชั้นประถมได้แล้ว แล้วเมื่อไรลงมือประกาศคุณของผู้ที่มีพระคุณแก่เราให้ชาวโลกรู้ ประกาศคุณก่อนว่าท่านผู้นั้นหรือท่านผู้นี้ เคยมีพระคุณกับเราอย่างนั้นอย่างนี้ จิตใจหรือธรรมะประจำใจคนๆ นี้ ยกระดับอีกระดับขึ้นสู่ระดับมัธยมเลย |
. |
ถ้าลงมือตอบแทนพระคุณท่านให้สมกับที่ท่านเคยมีพระคุณต่อเรา ถ้าอย่างนี้ละก็คนที่มีจิตใจระดับนี้ฟ้องว่าอย่างไร ฟ้องว่าในใจของเขาไม่เคยคิดเรื่องร้ายเลย คิดแต่เรื่องดี มองโลกก็มองโลกดีๆ ตรงตามความเป็นจริง มองโลกอย่างนี้อย่างสวยงาม มองคนก็มองในแง่ดี โลกนี้ยังมีคนดีอยู่ แล้วเราเองก็จะต้องเป็นคนดีอีกคนหนึ่งในโลกนี้ให้ได้แล้วเมื่อความคิดอย่างนี้เกิดขึ้น การทุ่มเทเพื่อค้นหาศักยภาพในตัวเองไปทำดีเสียแล้ว มันไม่มีเวลาที่จะไปฟุ้งซ่าน ไม่มีเวลาไปอิจฉาตาร้อนใคร มันมีแต่เวลาสำหรับคิดดี พูดดี ทำดี แล้วมันก็จะต้องได้อย่างเดียว คือได้ดีนั่นเอง คือได้ความเจริญรุ่งเรืองตลอดไป |
. |
เพราะฉะนั้นปู่ย่าตายายของเราพูดถูกว่า คนมีความกตัญญูกตเวทีแล้วจะต้องรุ่งเรือง เรามีปู่ย่าตาทวดดีๆ ฉลาดๆ อย่างนี้ ก็เป็นหน้าที่ของเรา จะต้องเชื่อฟังท่าน แล้วก็ทำตามท่าน อย่างสุดชีวิตจิตใจเลย แล้วบ้านเมืองไทยจะมีความเจริญสืบไป |