"ปกรณ์ บริมาสพร" ยังมั่นใจปีนี้รายได้ของ L&E ขยายตัวจากปีที่ผ่านมา 15-20% ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจซบเซา แจงกลยุทธ์รับมือนอกจากครองใจลูกค้าในประเทศเทศแล้ว ในปีหน้ามีแผนบุกตลาดต่างประเทศเพิ่ม ตั้งเป้าสัดส่วนส่งออก 3-4% จากปัจจุบันอยู่ที่ 2% เล็งเจาะตลาดอาเซียนและตะวันออกกลาง ระบุผลงานในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมายังเติบโตเป็นที่พอใจและ พร้อมคาดไตรมาสสุดท้ายปีนี้ยังไปได้สวย

นายปกรณ์ บริมาสพร

ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (L&E)

นายปกรณ์ บริมาสพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (L&E) แสดงความมั่นใจว่าปีนี้รายได้จะสามารถขยายตัวประมาณ 15-20% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 1,423.38 ล้านบาท (9 เดือนแรกปี 2551 บริษัทฯ มีรายได้อยู่ที่ 1,187 ล้านบาท)

ซึ่งสวนทางกับภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มว่าจะชะลอตัวลง นั่นเป็นเพราะลูกค้ายังเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าของ L&E ที่ได้มาตรฐานและราคาไม่แพงโดยเฉพาะลูกค้าประเภทงานโครงการที่ยังคงขยายตัวดี ทั้งประเภทคอนโดมิเนียม, โรงแรมและรีสอร์ท ที่ยังคงสั่งซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่อง

"ปัจจุบัน L&E ยังได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวไม่มากนัก เมื่อเปรียบเทียบกับธุรกิจอื่นๆ ส่วนแผนการดำเนินงานในปีหน้าคงต้องระมัดระวังเพื่อป้องกันความเสี่ยง นอกจากนี้ยังเตรียมปรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยและในปี 2552 บริษัทฯ เตรียมจะขยายสัดส่วนการส่งออกไปยังต่างประเทศให้ได้ 3-4% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนสินค้าส่งออกอยู่ที่ 2% โดยจะเน้นอาเซียนและตะวันออกกลาง เนื่องจากลูกค้าเริ่มยอมรับสินค้าของบริษัทหลังจากที่บริษัทได้ผลักดันด้านการตลาดอย่างต่อเนื่อง"

เขากล่าวต่อถึงแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาสที่ 4/2551 คาดว่าน่าจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 3/2551 เนื่องจากที่ผ่านมายอดขายยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เพราะสามารถรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ได้

สำหรับผลประกอบการของ L&E สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551 งวดไตรมาส 3/2551 มีกำไรสุทธิ 11.82 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.26 บาท จากไตรมาส 3/2550 ที่มีกำไรสุทธิ 11.05 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.24 บาท ส่วนงวด 9 เดือนปี 2551 มีกำไรสุทธิ 35.81 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.78 บาท จากงวดเดียวกันในปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 29.52 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.64 บาท

ทั้งนี้ L&E มีรายได้จากการขายรวมเป็นเงิน 408 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 13% เป็นผลมาจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของการก่อสร้างคอนโดมีเนียม โรงแรมและรีสอร์ท รวมถึงการปรับปรุงศูนย์การค้าและร้านค้าต่างๆ ในไตรมาสนี้การส่งออกไปประเทศต่างๆในอาเซียนได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่วนสาเหตุที่กำไรสุทธิรวมเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 7% เป็นผลมา

จากยอดขายที่เพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตามอัตราเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิน้อยกว่าการเพิ่มขึ้นของยอดขาย เพราะอัตรากำไรเบื้องต้นได้ปรับตัวลดลงจาก 26.9% ปีที่แล้วมาเป็น 25.4% ในปีนี้

"แม้ว่าอัตรากำไรขั้นต้น(margin) ของ L&E ในไตรมาส 3/51 จะปรับลดลงบ้าง แต่ปีนี้คาดว่าจะอยู่ในระดับประมาณ 25-30% ซึ่งเป็นระดับที่ L&E รักษาเอาไว้ได้ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา นอกเหนือจากว่าจะมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด หรืออยู่เหนือการคาดการณ์เกิดขึ้นที่จะเป็นอุปสรรคขวางกั้นต่อการดำเนินธุรกิจ "นายปกรณ์กล่าวในที่สุด