กฟผ.เตรียมลงทุนขนานใหญ่ ใช้เงินลงทุนสูงสุดโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนพลังงานนิวเคลียร์ เริ่มลงทุนตั้งแต่ปี 54-55 เป็นต้นไป และอีกหลายโครงการคาดขออนุมัติจากรัฐบาลเพื่อออกพันธบัตรในเร็วๆ นี้
กฟผ.เตรียมลงทุนขนานใหญ่ ใช้เงินลงทุนสูงสุดโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนพลังงานนิวเคลียร์ เริ่มลงทุนตั้งแต่ปี 54-55 เป็นต้นไป และอีกหลายโครงการคาดขออนุมัติจากรัฐบาลเพื่อออกพันธบัตรในเร็วๆ นี้ |
. |
นายสมบัติ ศานติจารี ผู้ว่าการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เปิดเผยว่า ระหว่างปี 52-55 กฟผ.มีแผนจะลงทุนด้านไฟฟ้าทั้งหมด 31 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวม 682,172 ล้านบาท แต่แผนการใช้จ่ายเงินลงทุนปี 52-55 จะใช้เพียง 188,065 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นลงทุนในปี 52 จำนวน 27,156 ล้านบาท ปี 53 จำนวน 52,357 ล้านบาท ปี 54 จำนวน 48,829 ล้านบาท และปี 55 จำนวน 59,724 ล้านบาท |
. |
โดยแหล่งเงินที่จะนำมาใช้ลงทุนนั้น ส่วนหนึ่งจะใช้กระแสเงินสดของ กฟผ. และอีกส่วนเป็นการออกพันธบัตร รวมถึงการกู้เงินเพื่อระดมทุนมาใช้ลงทุน ซึ่งคาดว่าจะขออนุมัติจากรัฐบาลเพื่อออกพันธบัตรในเร็วๆ นี้ |
. |
สำหรับโครงการที่ กฟผ.ใช้เงินลงทุนสูงสุด 5 อันดับแรก คือ โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนพลังงานนิวเคลียร์ หน่วยที่ 1 และ 2 โครงการละ 136,755 ล้านบาท, โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนใหม่หน่วยที่ 1 มูลค่า 36,838 ล้านบาท, โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนใหม่หน่วยที่ 3 มูลค่า 34,393 ล้านบาท และโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนใหม่หน่วยที่ 2 มูลค่า 33,749 ล้านบาท |
. |
ผู้ว่าฯ กฟผ. กล่าวว่า โครงการทั้งหมดอยู่ใน Power Development Plan 2007 ซึ่งวางแผนการลงทุนด้านไฟฟ้าระยะยาว 15 ปี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุง โดยโครงการลงทุนส่วนใหญ่เป็นโครงการลงทุนต่อเนื่อง และมีโครงการใหม่คือโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมวังน้อย ชุดที่ 4 ที่อยู่ระหว่างขออนุมัติรัฐบาลให้ทำการก่อสร้าง ซึ่งอาจมีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจะชะลอโครงการนี้ไปก่อน เพราะความต้องการใช้ไฟฟ้าในประเทศลดลงดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเร่งสร้าง |
. |
ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนใหม่หน่วยที่ 1-3 และโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนพลังงานนิวเคลียร์ หน่วยที่ 1-2 จะเริ่มลงทุนตั้งแต่ปี 54-55 เป็นต้นไป |