ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคชาวไทยเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาที่ 89 จากการสำรวจเมื่อ 6 เดือนก่อนอยู่ที่ระดับ 87 แม้ว่าจะเห็นว่าทุกอย่างแย่ลง แต่ผู้บริโภคชาวไทยยังมั่นใจในสถานภาพทางการเงินในปีหน้า
นางจันทิรา ลือสกุล กรรมการผู้จัดการ นีลเส็น (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยผลสำรวจความเห็นจากผู้ใช้อินเตอร์เน็ตประมาณ 26,000 คน 52 ประเทศทั่วโลกตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย.-6 ต.ค.51 ว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคชาวไทยเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาที่ 89 จากการสำรวจเมื่อ 6 เดือนก่อนอยู่ที่ระดับ 87 แม้ว่าจะเห็นว่าทุกอย่างแย่ลง แต่ผู้บริโภคชาวไทยยังมั่นใจในสถานภาพทางการเงินในปีหน้า |
. |
"12 เดือนที่ผ่านมาสำหรับผู้บริโภคทั่วโลกนั้นเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างวุ่นวายสับสน ซึ่งรวมถึงประเทศไทยเช่นกันเนื่องจากระบบเศรษฐกิจมีความเกี่ยวพันอย่างใกล้ชิดกับความต้องการของตลาดโลก แต่ในด้านดีที่เราพบก็คือกว่าครึ่งหนึ่งของผู้บริโภคชาวไทยมีความมั่นใจเกี่ยวกับสภาพทางการเงินของตนเองสำหรับปีหน้า และผู้บริโภคชาวไทยเพียงแค่ 5% กล่าวว่าพวกเขาไม่มีเงินเหลือเก็บเลย"นางจันทิรา กล่าว |
. |
จากผลสำรวจพบว่า ปัญหาที่คนไทยกังวลมากที่สุดในอีก 6 เดือนข้างหน้า คือ ปัญหาทางเศรษฐกิจ 40% รองลงมาคือความไม่มั่นคงทางการเมือง 27% ราคาน้ำมัน 20% ปัญหาหนี้สิน 18% และ ความมั่นคงในงาน 16% |
. |
ทั้งนี้ 8 ใน 10 ของผู้บริโภคชาวไทยคิดว่าเศรษฐกิจของประเทศขณะนี้อยู่ในภาวะถดถอย และ 4 ใน 10 ไม่เชื่อว่าประเทศจะหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ได้ในอีก 12 เดือนข้างหน้า รวมทั้งพบว่าผู้บริโภคชาวไทย 72% เชื่อว่าโอกาสทางด้านการงานภายใน 12 เดือนข้างหน้าจะไม่ค่อยดีหรือแย่, 68% เชื่อว่าในช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่ไม่ดีหรือไม่เหมาะสมที่จะซื้อสิ่งของที่ต้องการ และ 58% มีความประสงค์จะเก็บเงินในส่วนที่เหลือเพื่อเก็บออมหลังจากใช้จ่ายสิ่งที่จำเป็นในการดำรงชีวิต |
. |
อย่างไรก็ตาม นีลเส็นตั้งข้อสังเกตว่าผู้บริโภคชาวไทยไม่ได้ตั้งใจจะหยุดการใช้จ่ายทั้งหมด แต่ยินดีที่จะจับจ่ายใช้สอยหากมีข้อเสนอที่ดี ถึงแม้ว่าจะอยู่ในช่วงความรู้สึกที่ต้องระมัดระวังในการใช้จ่าย จึงเป็นโอกาสสำหรับบริษัทท่องเที่ยว กลุ่มผู้ค้าปลีก กลุ่มด้านเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าเทคโนโลยีที่จะกระตุ้นตลาด เนื่องจากคนไทยยังสนใจการใช้จ่ายด้านท่องเที่ยวและการพักผ่อนหย่อนใจ 51% การปรับปรุงและตกแต่งบ้าน 34% และสินค้าทางด้านเทคโนโลยี 32% |
. |
นอกจากนี้ การสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย พบว่า ผู้บริโภคชาวไทยเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยตัดค่าใช้จ่ายในเรื่องค่าไฟฟ้า 60% ลดการออกไปหาความบันเทิงนอกบ้าน 57% ซื้อเสื้อผ้าใหม่น้อยลง 56%ใช้รถยนต์น้อยลง 49% ลดค่าโทรศัพท์ 44% |
. |
นางจันทิรา กล่าวเสริมว่า การอยู่ในบ้านจะเป็นเทรนด์ใหม่สำหรับผู้บริโภคในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ ซึ่งเทรนด์นี้ก็ถิอเป็นโอกาสทางการตลาดใหม่ๆที่ดี สำหรับธุรกิจประเภทอาหารและเครื่องดื่ม อาหารสำเร็จรูปที่มีคุณภาพสูง รวมถึงทางเลือกของสิ่งบันเทิงใหม่ๆ ซึ่งเจาะกลุ่มเฉพาะเพื่อความบันเทิงในบ้าน |
. |
ขณะที่ผลสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทั่วโลกตกลงต่ำสุดในรอบ 3 ปี หลังเกิดวิกฤติการเงินโลก โดยความเชื่อมั่นผู้บริโภค ลดลงจากจุดสูงสุดที่ 99 ในปี 49 มาแตะที่ระดับ 84 แต่ประเทศที่กำลังมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว พบว่ายังมีความเชื่อมั่นในทางบวก โดยอินเดียเป็นประเทศที่ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นสูงสุดอันดับหนึ่งในโลก บราซิลและจีนมีระดับความเชื่อมั่นที่สูงขึ้น ส่วนรัสเซียจัดอยู่ในลำดับ 5 ของโลกที่มองทิศทางในเศรษฐกิจในทิศทางที่ดี โดยประเทศทั้งหมดจัดอยู่ใน 10 ลำดับแรกที่มีความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจภายในประเทศของตน |
. |
สำหรับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐ พบว่าต่ำสุดที่ 82 ลดลงจากระดับ 100 เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยผู้บริโภค 86% คิดว่าเศรษฐกิจของประเทศตนอยู่ในภาวะถดถอย และมากกว่า 50% คิดว่าสภาวะนี้จะอยู่ต่อไปอีกใน 12 เดือนข้างหน้า |