เนื้อหาวันที่ : 2008-11-17 16:19:03 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 4604 views

แอ่วเมืองเหนือ เยือนไร่กาแฟอาราบิก้า

ตลอดเนินทางเดินที่เราเดินขึ้นไปนั้นอากาศเย็นสบาย กาแฟอาราบิก้า สายพันธุ์คาติมอร์ ถูกปลูกไว้เป็นทิวแถว ใบสีเขียวเข้มชูช่อขึ้นมาทักทายพวกเรากันอย่างสนุกสนาน

.

จากสูงสุดสู่สามัญน่ะครับ คือ ประโยคสั้น ๆ แต่ได้ใจความที่ คุณบุรี จารุโชติรัตนสกุล เจ้าของธุรกิจกาแฟสดคอฟแมน

 .

 .

ที่บอกว่าความรู้แบบรื่นรมย์ ก็เพราะว่าการได้มีโอกาสไปเก็บสกู๊ปครั้งนี้ กาแฟสด coffman พาเราไปดูงานกันถึงเชียงใหม่ เชียงราย แล้วก็พะเยา ครอบคลุมตั้งแต่แหล่งเพาะพันธุ์ การเพาะปลูก การเก็บ การคั่ว จนกระทั่งกลายมาเป็นกาแฟสดอย่างที่เรารู้จักกันอย่างทุกวันนี้

.

เราเริ่มต้นกันที่ดอยขุนวาง ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง-แม่จอนหลวง) สถานที่ทดลองและขยายพันธุ์พืชบนที่สูง ที่นั่นสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,100-1,400 เมตร เรื่องรสชาติกาแฟและธรรมชาติของที่นั่น ขอบอกว่ารื่นรมย์สุดยอด ถ้าจะให้พรรณนาออกมาคงยืดยาวเกินไป เอาเป็นว่าอยากให้ไปสัมผัสกันเอาเองจะดีกว่า

.

.

ตลอดเนินทางเดินที่เราเดินขึ้นไปนั้นอากาศเย็นสบาย กาแฟอาราบิก้า สายพันธุ์คาติมอร์  ถูกปลูกไว้เป็นทิวแถว ใบสีเขียวเข้มชูช่อขึ้นมาทักทายพวกเรากันอย่างสนุกสนาน  อ.มานพ หาญเทวี และ อ.สนอง จรินทร นักวิชาการเกษตรของโครงการหลวงอธิบายเพิ่มเติมถึงการปลูกกาแฟสายพันธุ์นี้ว่า อาราบิก้า ชอบอยู่ในที่สูงที่มีอากาศชื้นและหนาวเย็น ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับอาราบิก้าเช่นกัน ดอกกาแฟจะเริ่มบานส่งกลิ่นหอมคล้ายดอกมะลิหลังจากที่หมดหน้าฝนไปแล้ว

.

ความคลาสสิคจะอยู่ที่ช่วงของการเก็บเกี่ยว เมล็ดกาแฟสีแดง สีส้ม และสีเหลืองเท่านั้นที่จะถูกเลือกเก็บ ตรงจุดนี้จึงเป็นจุดสำคัญที่ คุณบุรี ให้ความสำคัญเดินทางขึ้น-ลงดอยต่างๆ เป็นว่าเล่น เพื่อเลือกดูขบวนการเพาะปลูก และคัดเลือกแหล่งปลูกที่ได้คุณภาพด้วยตัวเอง เราเพลิดเพลินกับการบรรยายและพันธุ์พืชของที่นั่นอยู่นาน จนแทบอยากจะนอนค้างที่นั่นให้รู้แล้วรู้รอดกันไป

.

. 

หากแต่เราก็ต้องเดินทางตามกำหนดการที่เราวางไว้ก็คือการเดินทางต่อไปที่หมู่บ้านลีซอ บนดอยช้าง จ.เชียงราย ด้วยรถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อ เพื่อไปดูกระบวนการปลูกและการเก็บแบบไร่กาแฟของจริง อากาศยามค่ำคืนตอนรถวิ่งฉิวนี้เย็น..นเฉียบจับใจ เหล้าข้าวโพด อาหารพื้นเมือง การแสดงพื้นบ้าน และที่พักถูกตระเตรียมไว้เพียบพร้อมเมื่อเราเดินทางไปถึง หนึ่งคืนของที่นั่นผ่านไปอย่างรวดเร็ว

.

เราตื่นกันแต่เช้าเพื่อให้คุณบัญชาเจ้าของบ้านชาวลีซอ พาพวกเราไปดูไร่กาแฟของจริง ที่นี่เราได้เห็นเมล็ดกาแฟสุกปลั่งสีเหลือง สีส้ม สีแดง แทรกตัดอยู่ในต้นสีเขียวครึ้มเต็มไปหมด ต้นมะคาเดเมียถูกปลูกแซมไว้หลายต้น อากาศเย็นสบายบนดอยทำให้รู้สึกว่าการทำธุรกิจกาแฟสดตามแบบคุณบุรีนี่มีความสุขรื่นรมย์ดีจัง  ไม่ต้องรีบร้อน รถไม่ติด อยู่กับธรรมชาติเป็นบางเวลา พอเสร็จจากไร่เราก็ได้เห็นกระบวนการสีเปลือกแล้วคัดเอาแต่เมล็ดกาแฟ เพื่อนำมาตากให้แห้ง นี่เพียงแค่ขั้นตอนเบื้องต้นก็ทำให้เรามองเห็นว่าทุกกระบวนการของการผลิตกาแฟสดนั้นสำคัญทุกขั้นตอนเลยทีเดียว ต้องละเมียดละไม พิถีพี่ถัน เพื่อให้ได้กาแฟคุณภาพ รสชาติดี ๆ แบบที่เราได้ดื่มกัน

.

 

.

เสร็จจากนั้นคุณบุรีพาเราเดินทางต่อไปยังโรงคั่วของ กาแฟสด coffman ที่ จ. พะเยา พอลงจากรถปุ๊บ โรงเก็บกาแฟสีขาว ดูโปร่ง กว้าง เป็นสิ่งแรกที่เราสังเกตเห็น คุณบุรีแนะนำให้เห็นถึงกระบวนการคัดแยกขนาดของเมล็ดด้วยเครื่องคัดแยก โดยเมล็ดกาแฟที่ผ่านการคัดเลือกจะต้องเป็นเมล็ดที่ได้มาตรฐานเท่านั้น ทั้งยังได้เห็นเมล็ดกาแฟพีเบอร์รี่ที่เค้าว่าแพงนักแพงหนาจากที่นี่อีกด้วย เดินเพลิดเพลินดูกระบวนการผลิตไปจนมาถึงเครื่องคั่วกาแฟขนาดใหญ่ ทำให้เราเริ่มอยากเห็นว่าแล้วเขาคั่วกันอย่างไร แต่

.

วันที่เราไปเยี่ยมชมเครื่องใหญ่ไม่มีงานสั่งเข้ามา เครื่องคั่วขนาดเล็ก (ที่ทางคุณบุรีประยุกต์ขึ้นมาเอง) จึงทำหน้าที่คั่วให้พวกเราดูแทน เริ่มคั่วจากเมล็ดสีเขียวอมฟ้าจนกลายเป็นเมล็ดสีน้ำตาลเข้ม กาแฟอาราบิก้าเริ่มส่งกลิ่นหอมคลุ้งไปทั่ว ตอนคั่วนี่ก็สำคัญมากเช่นกัน คั่วไม่ได้ที่ก็ไม่หอม ไม่อร่อย คั่วนานไปก็ไหม้ใช้ไม่ได้อีก กว่าจะได้ออกมาเป็นกาแฟสดแต่ละเม็ดนี่เรียกว่าต้องพิถีพิถันกันอย่างสุดฤทธิ์เลยทีเดียว

.

.

การเยี่ยมชมไร่กาแฟครั้งนี้คุ้มค่ามั่ก..มัก ได้ทั้งสัมผัสกับธรรมชาติที่ช่วยผ่อนคลาย ได้สูดอากาศแสนบริสุทธิ์อย่างเต็มปอด  และได้ทั้งความรู้ในเรื่องของการทำธุระกิจกาแฟอย่างครบวงจรอีกด้วย...คุ้มจริง ๆ

.

.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 0-2579-8130-1 หรือ www.coffmancoffee.com