นายสมัย ลี้สกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ TRC

"สมัย ลี้สกุล" มั่นใจไตรมาสสุดท้ายปีนี้ TRC ยังโชว์ผลงานโดดเด่น จากการรับรู้รายได้จากงานโครงการขนาดใหญ่ แถมสิ้น ก.ย. 51 มีงานในมือที่รอรับรู้รายได้อีกกว่า 2,000 ลบ. และมีแผนเข้าประมูลงานเพิ่มอีก คาดช่วยหนุนให้รายได้ทั้งปีเติบโต 20% - 30% แม้การเมืองร้อน และเศรษฐกิจโลกชะลอ เหตุอยู่ในธุรกิจที่มีทิศทางการเติบโตที่ดี ล่าสุดโชว์ผลงาน Q3/51 กำไร 26.66 ลบ. ส่วนงวด 9 เดือนกำไร 80.84 ลบ.

นายสมัย ลี้สกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ TRC กล่าวถึงแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาสที่ 4/2551 ว่า มีทิศทางเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 3/2551 อย่างชัดเจน โดยหากพิจารณาจากโครงการในมือสิ้นสุดเดือนกันยายน 2551 บริษัทฯ

และสหการวิศวกร บริษัทย่อย มีงานในมือรวม 19โครงการมูลค่ารวมทั้งสิ้น 2,079.14 ล้านบาท และนอกเหนือจากการรอรับรู้รายได้จากงานเดิมที่มีอยู่ในมือแล้ว ในไตรมาสสุดท้ายนี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะประมูลงานใหม่เข้ามาเพิ่มด้วย รวมทั้งการขยายการรับงานออกไปสู่ต่างประเทศ ซึ่งจะเห็นความชัดเจนของงานที่จะได้รับต้นปีหน้าเป็นต้นไป

"ในไตรมาสที่ 4 นี้ TRC ยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างโดดเด่น จากการรับรู้รายได้จากโครงการขนาดใหญ่ คือ งานก่อสร้างโรงงานผลิตไบโอดีเซล ที่อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ของบริษัท บางจากไบโอฟูเอล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บมจ.บางจากปิโตรเลียม มูลค่ารวมทั้งโครงการ 757 ล้านบาท นอกจากนั้นคาดว่าการขายหุ้นในบจก. ราชเพลิน (โครงการรอยัลราชดำริ) ให้กับพันธมิตรต่างประเทศจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาสนี้ "

นายสมัยกล่าวเพิ่มเติมว่า TRC ยังมีแผนเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งงานด้านก่อสร้าง และวิศวกรรมในงานวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ในกลุ่มธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมีซึ่งเป็นงานที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ งานด้านพัฒนาโครงการและการลงทุน (Project Development and Investment) ทั้งทางด้านอสังหาริมทรัพย์ โรงไฟฟ้า และโรงงานปิโตรเคมี ในลักษณะ Turn Key ส่วนการเข้ารับงานในต่างประเทศจะมีความชัดเจนมากขึ้น ตั้งแต่ปีหน้า เป็นต้นไป

นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังคงมุ่งที่จะศึกษาและเข้าลงทุนในโครงการที่จะนำมาซึ่งรายได้ที่ต่อเนื่องในระยะยาวให้กับบริษัทฯ ภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ ดังนั้นจึงเชื่อว่าจะสนับสนุนให้รายได้ในปี 2551 เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ มีอัตราการเติบโตประมาณ 20-30% จากปีก่อนที่ทำได้ 1,607 ล้านบาท แม้ว่าสถานการณ์การเมืองในประเทศจะยังร้อนระอุ และเศรษฐกิจโลกเริ่มชะลอตัว เนื่องจากบริษัทอยู่ในธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมีที่มีทิศทางการเติบโตต่อเนื่อง และมีการวางแผนการลงทุนในระยะยาว ทำให้มีงานออกสู่ตลาดอย่างสม่ำเสมอ บริษัทฯ จึงไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบข้างต้นมากนัก

สำหรับผลประกอบการในไตรมาสที่ 3/2551 บริษัทและบริษัทย่อย มีรายได้จากการให้บริการ 420.85 ล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือนมีรายได้จากการให้บริการ 1,107.94 ล้านบาท และ เมื่อเปรียบเทียบอัตรากำไรขั้นต้นไตรมาส 3 และงวด 9 เดือน พบว่าเท่ากับร้อยละ 18.90 และ 19.70 ตามลำดับ เพิ่มสูงขึ้นกว่าปีก่อน ที่อยู่ระดับร้อยละ 17.82 และ 13.22 สาเหตุต่อเนื่องจากงวด 6 เดือน ซึ่งบริษัทฯ ได้รับงานเพิ่มเติมจากโครงการวางท่อก๊าซสงขลา ซึ่งได้รับรู้ต้นทุนแล้วตั้งแต่ปีก่อน และ ได้รับงานซ่อมท่อส่งก๊าซฉุกเฉินที่ประเทศพม่าซึ่งเป็นงานที่มีอัตรากำไรขั้นต้นค่อนข้างสูง ส่วนบริษัทย่อยมีรายได้เพิ่มเติมจากการปรับตัวของราคาวัตถุดิบ หรือ รายได้ค่า K

ส่งผลให้ในไตรมาสที่ 3/2551 บริษัท และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 26.66 ล้านบาทลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับกำไรสุทธิ 29.53 ล้านบาท ที่ทำได้ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนงวด 9 เดือน บริษัท และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 81.23 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ทำได้ 81.95 ล้านบาท และ ณ สิ้นไตรมาสที่ 3/2551 อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทฯ และบริษัทยังคงอยู่ในระดับใกล้เคียงกับสิ้นปีก่อน คือ เท่ากับ 0.75 เท่า จากสิ้นปีก่อนอยู่ที่ระดับ 0.72 เท่า