นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ระบุว่า การใช้จ่ายเงินของรัฐบาลในระยะข้างหน้าถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะขณะนี้การใช้นโยบายการเงินค่อนข้างมีข้อจำกัด ซึ่งรัฐบาลไทยควรศึกษาตัวอย่างการอัดฉีดเม็ดเงินของรัฐบาลจีนจำนวน 20 ล้านล้านบาท เข้าสู่ระบบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ  

ทั้งนี้รัฐบาลไทยต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่น ด้วยการเร่งการใช้จ่ายของภาครัฐในระยะสั้นให้สอดคล้องกับระยะยาวเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และควรนำเม็ดเงินเข้าไปช่วยพัฒนาด้านการเกษตร ระบบชลประทาน ด้านการท่องเที่ยว ตลอดจนระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน และทำให้นโยบายทางการเงินและการคลังประสานกัน

อดีตรองนายกฯ และ รมว.คลัง กล่าวว่า การแก้ปัญหาสภาพคล่องในระบบนั้นภาครัฐควรวางมาตรการรับมือกับไว้ล่วงหน้า และกระตุ้นให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อเข้าสู่ระบบ เพราะขณะนี้เริ่มระมัดระวังตัวมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศ(ธปท.) ได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว

ส่วนแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยภายในประเทศเห็นว่าควรปรับลดลงตามภาวะตลาดโลก เพื่อช่วยลดภาระของผู้ประกอบการ รวมทั้งมองว่ากระทรวงการคลังและ ธปท.ต้องประสานการทำงานให้มีเอกภาพ เพราะขณะนี้มีข่าวร้ายอยู่รอบด้านจึงทำให้ทุกฝ่ายต้องตั้งสติมากขึ้น