นายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังการประชุมหารือการแก้ปัญหาค้าปลีกว่าได้รับการร้องเรียนว่าธุรกิจค้าปลีก ร้านค้าโชว์ห่วย ขณะนี้มีการรุกเพิ่มเข้าไปในพื้นที่ต่างๆ มากขึ้นในตัวจังหวัดและยังขยายเข้าไปในตัวอำเภอรอบนอกทำให้ร้านค้าโชวห่วยเดิมได้รับผลกระทบจึงขอให้ทางรัฐบาลหาทางแก้ไข / วันนี้จึงได้มีการนัดประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว และผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงก็คือ ภาคเอกชน โดยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยได้นำเสนอข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงของธุรกิจการค้าไทยให้ทราบ และกระทรวงพาณิชย์

โดยกรมการค้าภายใน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า มาช่วยดูเรื่องแผนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศว่าแนวโน้มต่อไปจะเป็นอย่างไรเพื่อหาทางช่วยกันแก้ไข ทางด้านกระทรวงมหาดไทยดูแลในเรื่องผังเมือง การใช้กฎหมายควบคุมอาคาร หรือกฎหมายเทศบาลต่าง ๆ แต่มีอีกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ยังมิได้เชิญมา คือ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สสว.) เพื่อจะเข้ามาช่วยกันแก้ปัญหาที่จะเกิดขึ้น / โดยการแก้ไขปัญหาดังกล่าว คือ การแก้ไขปัญหาในระยะต้น คือ ทำอย่างไรให้ร้านค้าโชวห่วยเดิมอยู่ได้ แต่ในระยะยาวต้องเข้าใจระบบของธุรกิจการค้าแนวโน้มของผู้บริโภคจะเปลี่ยนไป ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่กล่าวมาแล้วต้องให้ความรู้ความเข้าใจกับร้านค้าโชวห่วยว่าถ้าพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปและธุรกิจสมัยใหม่ในอนตาคตจะเป็นอย่างไรให้เห็นวิสัยทัศน์ของการทำธุรกิจแล้ววางกรอบการช่วยเหลือ และต้องทำอย่างต่อและชัดเจน

ในขณะนี้เพื่อชลอปัญหาที่เกิดซึ่งในขณะนี้กฏหมายโดยตรงยังไม่มีแต่มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องในหลายๆ กระทรวงที่มีอยู่ / จากการประชุมหารือได้เห็นตรงกัน คือ 1) การก่อสร้างอาคาร ในการทำธุรกิจเป็น Modern Trade ขนาดใหญ่ ธุรกิจ Express ร้านขนาดเล็ก ในเบื้องต้นก็จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลอย่างเข้มงวดมากขึ้นในเรื่องของผังเมือง กฎหมายควบคุมอาคารโดยกวดขันการยื่นเรื่องการประกอบธุรกิจค้าปลีก ส่วนใหญ่ Express ได้ขยายเข้าไปตามเทศบาล และในส่วนของเทศบาล ที่เป็นผู้ดูแลเบื้องต้น โดยจะให้กระทรวงมหาดไทยเรียกประชุมกับเทศบาลๆ เพื่อให้ความรู้เรื่องการให้ใบอนุญาตการก่อสร้างอาคาร 2) กระทรวงพาณิชย์ จะได้เชิญผู้ประกอบการที่เป็น Modern Trade ใหญ่ ๆ มาทำความเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้น

ขณะนี้ และขอความร่วมมือในการขยายพื้นที่ห้างทั้งขนาดใหญ่และเล็กจะต้องยื่นแผนการขยายพื้นที่และให้ทางราชการเห็นชอบก่อน และจะมีการทำ (MOU) บันทึกข้อตกลง / จากนี้ต่อไปการที่จะสร้างห้างต่าง ๆ นั้น หน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้องจะนำกฎหมายที่มีอยู่โดยใช้อำนาจของการบริหาร โดยขอให้ได้รับการทำประชาวิจารณ์ ในแต่ละพื้นที่ที่จะสร้าง ถ้าเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ก็จะต้องขอต่อองค์การบริหารส่วนจังหวัด ถ้าขนาดเล็กก็ขอต่อเทศบาลให้ความเห็นชอบ จัดให้มีการทำประชาวิจารณ์ที่มีตั้งแต่ผู้บริโภค ผู้ขายของในพื้นที่ และผู้ที่มีอำนาจเกี่ยวข้องเข้ามาร่วมกันทำประชาวิจารณ์ และนำความเห็นดังกล่าวมาหาข้อสรุปว่าจะอนุมัติหรือไม่ให้สร้างในพื้นที่ดังกล่าว

เพราะประเทศไทยมีการแข่งขันเสรีก็ต้องมีการควบคุมในระดับหนึ่ง แต่ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือทางราชการก็จำเป็นต้องใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องทุกฉบับมาใช้ต่อไปเพื่อให้สังคมอยู่ได้ด้วยการค้าที่เป็นธรรมและเสมอภาคกัน และอีกประการหนึ่งได้มอบให้กรมการค้าภายในดูเรื่องกฎหมายค้าปลีก Guidelines ค้าปลีก อันนี้คือข้อสรุปในเบื้องต้น