"สมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์" ยืนยันปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวยังไม่กระทบต่อธุรกิจ SECC อย่างมี นัยสำคัญ ขณะที่ราคาน้ำมันที่เริ่มปรับลดลงอย่างชัดเจนในช่วงนี้เป็นผลดีต่อธุรกิจของบริษัทฯ ส่งผลให้ผู้บริโภคกลับมาซื้อรถยนต์หรูอีกครั้ง หลังจากที่หยุดชะงักไปเล็กน้อยในช่วงที่ราคาน้ำมันพุ่งในช่วงก่อนหน้านี้ ประเมินไตรมาสสุดท้ายของปี ยอดขายยังมีโอกาสขยายตัวได้ดี เหตุเป็นช่วง high season มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่อเนื่องและงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ช่วยหนุน

นายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์

ประธานกรรมการ บริษัท เอส.อี.ซี. ออโต้เซลส์แอนด์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ SECC

นายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ ประธานกรรมการ บริษัท เอส.อี.ซี. ออโต้เซลส์แอนด์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ SECC ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ระดับพรีเมี่ยมจากญี่ปุ่นและยุโรป เปิดเผยถึงธุรกิจจัดจำหน่ายรถยนต์ระดับพรีเมี่ยม ในช่วงที่เศรษฐกิจอยู่ในช่วงชะลอตัวจากปัญหาการเมืองในประเทศ และปัญหาวิกฤตการเงินโลกว่า

ปัญหาดังกล่าวยังไม่กระทบต่อธุรกิจของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญมากนัก ซึ่งถือว่าธุรกิจยังมีทิศทางที่ดี โดยส่วนหนึ่งมาจากลูกค้าของบริษัทส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่มีกำลังซื้อค่อนข้างสูง ทำให้ไม่ได้รับผล กระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ประกอบกับบริษัทได้พยายามนำรถยนต์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเข้ามาจัดจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนั้น ธุรกิจจัดจำหน่ายรถยนต์นำเข้าของบริษัทฯ ได้รับการยอมรับจากลูกค้าอย่างกว้างขวางมาเป็นมาเวลานานทั้งในเรื่องมาตรฐานสินค้า การให้บริการก่อนและหลังการขาย รวมทั้งศูนย์บริการที่มีมาตรฐานและทันสมัยสามารถไว้วางใจได้ และธุรกิจที่เป็นระบบมีแบบแผนแน่นอน จึงทำให้ธุรกิจจัดจำหน่ายรถยนต์นำเข้าของ SECC แตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่นในตลาด

อีกทั้งมีโชว์รูมกระจายอยู่ครอบคุลมทั่วกรุงเทพฯถึง 6 แห่ง และหัวเมืองท่องเที่ยวสำคัญภายใต้มาตรฐานเดียวกัน ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าใช้บริการได้อย่างสะดวกและมั่นใจในคุณภาพ ถือเป็นจุดแข็งที่ทำให้ลูกค้ายังเข้ามาซื้อรถยนต์ที่จัดจำหน่ายผ่านเครือข่ายของ SECC

เขากล่าวอีกว่า สำหรับแนวโน้มธุรกิจในไตรมาสสุดท้ายของปี เชื่อว่าจะยังมีแนวโน้มที่ดี โดยได้รับผลบวกจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลง และทิศทางดอกเบี้ยที่กำลังเป็นขาลง จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และทิศทางดอกเบี้ยในตลาดโลก

ซึ่งจะทำให้ความต้องการซื้อรถยนต์กลับคืนมาอีกครั้ง หลังจากที่หยุดชะงักลงชั่วคราวในช่วงที่ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นสร้างสถิติสูงสุดใหม่ในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับในช่วงไตรมาส 4 ของทุก ๆ ปีจะเป็นฤดูกาลขาย (high season) ของธุรกิจจัดจำหน่ายรถยนต์ มีการจัดงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป

เป็นงานโชว์รถยนต์งานใหญ่ของปีขึ้นในช่วงดังกล่าวด้วย ซึ่งสามารถเพิ่มยอดขายได้อย่างชัดเจน ในขณะเดียวกันการเมืองที่เริ่มลดความรุนแรงลงและตลาดหุ้นที่เริ่มฟื้นตัว น่าจะทำให้กำลังซื้อส่วนใหญ่ของกลุ่มลูกค้าในรถระดับ Hi End เริ่มฟื้นตัวไปในทิศทางเดียวกันด้วย ซึ่งจะส่งผลดีธุรกิจของบริษัทยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ การมุ่งปรับธุรกิจให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าเชื่อว่าจะช่วยให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าในปีนี้รายได้จะเติบโตได้ในอัตรา 10% จากรายได้ 2.5 พันล้านบาทในปีก่อน