สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านวาง 2 เป้าหมายหลักปี 2552 เร่งพัฒนามาตรฐานด้านการก่อสร้าง มุ่งสร้างความต่างด้านมาตรฐานในธุรกิจทั้งระดับปฏิบัติการ และระดับแรงงาน พร้อมเร่งเพิ่มส่วนแบ่ง ด้านการตลาดจากผู้รับเหมารายย่อย เผยปี 2551 ธุรกิจรับสร้างบ้านโตพรวดเล็งจัด 3 กิจกรรมหลักกระตุ้นภาพรวมธุรกิจ
สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านวาง 2 เป้าหมายหลักปี 2552 เร่งพัฒนามาตรฐานด้านการก่อสร้าง มุ่งสร้างความต่างด้านมาตรฐานในธุรกิจทั้งระดับปฏิบัติการ และระดับแรงงาน พร้อมเร่งเพิ่มส่วนแบ่ง ด้านการตลาดจากผู้รับเหมารายย่อย เผยปี 2551 ธุรกิจรับสร้างบ้านจะมีมูลค่ารวมราว 9,800 ล้านบาท คาดปี 2552 เพิ่มเป็น 10,500 ล้านบาท พร้อมเล็งจัด 3 กิจกรรมหลักกระตุ้นภาพรวมธุรกิจ |
. |
นายพันธุ์เทพ ทานชิติกุล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน |
. |
นายพันธุ์เทพ ทานชิติกุล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า นโยบายของสมาคมฯ ในปี 2552 ยังคงมุ่งเน้นการยกระดับมาตรฐานของธุรกิจรับสร้างบ้านให้เป็นที่ยอมรับกับผู้บริโภคโดยทั่วไป โดยมุ่งเน้นกลยุทธ์ใน 2 ส่วนหลัก คือ การเร่งพัฒนาในส่วนของฝีมือแรงงานด้านการก่อสร้าง ซึ่งในปี 2551 ได้มีการจัดทำโครงการร่วมกับวิทยาลัยเทคนิคดอนเมือง เปิดหลักสูตรวิชาเทคนิคการก่อสร้างในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) เพื่อผลิตผู้เชี่ยวชาญในระดับปฏิบัติการด้านการก่อสร้างสำหรับธุรกิจรับสร้างบ้านโดยเฉพาะ |
. |
ขณะเดียวกันในปี 2552 สมาคมฯ จะเพิ่มการพัฒนาในระดับแรงงานผ่านโครงการที่จะผลิตแรงงานก่อสร้างที่มีฝีมือขึ้นมาอีกหนึ่งโครงการ โดยโครงการดังกล่าวจะมุ่งเน้นการสนับสนุนทั้งในด้านการฝึกฝน การสร้างรายได้ การสร้างแรงจูงใจให้กับผู้ที่จะเข้ามาเป็นแรงงาน รวมถึงการให้ความรู้ในด้านต่าง ๆโดยมุ่งหวังให้ธุรกิจรับสร้างบ้านเป็นธุรกิจที่มีมาตรฐานทั้งในด้านการบริหารจัดการและการก่อสร้าง เพื่อคุณภาพของบ้านที่สร้างให้กับกลุ่มผู้บริโภค โดยปัจจุบันสมาคมฯ อยู่ระหว่างการจัดทำแผนงานเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นไป |
. |
ในส่วนที่ 2 ที่เป็นแนวนโยบายที่ต้องจัดทำต่อไปคือ การสร้างมูลค่ารวมทางการตลาดในธุรกิจรับสร้างบ้าน ให้เติบโตเพิ่มขึ้น โดยเป้าหมายของสมาคมฯ คือการเพิ่มสัดส่วนในการใช้บริการของบริษัทรับสร้างบ้านของผู้บริโภคให้เพิ่มขึ้น ซึ่งจากตัวเลขที่ทางสมาคมฯ มีการเก็บรวบรวมพบว่า มูลค่าตลาดรวมบ้านสร้างเองในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ปี 2551 จะอยู่ที่ประมาณ 54,590 ล้านบาท |
. |
ขณะที่ส่วนแบ่งทางการตลาดของบริษัทรับสร้างบ้านมีอยู่ประมาณ 18% หรือ 9,800 ล้านบาท ที่เหลือจะเป็นส่วนแบ่งของกลุ่มผู้รับเหมารายย่อย ขณะที่ ในปี 2552 สมาคมฯ มองว่ามูลค่าตลาดรวมบ้านสร้างเองในเขตกรุงเทพและปริมณฑลจะมีมูลค่ารวม 52,415 ล้านบาท แต่เป้าหมายของสมาคมฯ ต้องการที่จะเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดเป็น 20% คิดเป็นมูลค่ารวม10,500 ล้านบาท |
. |
"ปีหน้าเราคาดการณ์ว่าภาวะโดยรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์น่าจะชะลอตัวลง ทำให้บ้านสร้างเองน่าจะปรับตัวลดลงด้วย แต่เราต้องเร่งเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ของบริษัทรับสร้างบ้านให้มากขึ้นเพื่อมาชดเชยในส่วนของมูลค่าตลาดรวมที่ลดลงโดยการเร่งประชาสัมพันธ์ธุรกิจรับสร้างบ้านผ่านกิจกรรมต่าง ๆของสมาคมฯการสร้างความเข้าใจกับคำว่า ธุรกิจรับสร้างบ้าน ต้องประกอบไปด้วยอะไรบ้าง การสร้างความเชื่อมั่นด้านมาตรฐาน และการให้บริการที่มีคุณภาพ เป็นต้น" นายพันธุ์เทพ กล่าว |
. |
นายพันธุ์เทพ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาส่วนแบ่งทางการตลาดของกลุ่มบริษัทรับสร้างบ้านมีแนวโน้มในการเติบโตขึ้นทุกปี ซึ่งดูได้จากการจัดกิจกรรมทางการตลาดของสมาคมฯที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มผู้บริโภค อย่างในปี 2551 ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่มีปัญหาในด้านการชะลอตัวของกำลังซื้อ แต่ในธุรกิจรับสร้างบ้านผู้บริโภคยังคงมีกำลังซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน”งานรับสร้างบ้าน 2008” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-24 สิงหาคม 2551 ที่ผ่านมา พบว่ามียอดขายภายในงานสูงถึง 1,500 ล้านบาท โดยบ้านระดับราคา 2.5-5 ล้านบาท และ 5-10 ล้านบาท เป็นกลุ่มบ้านที่ผู้บริโภคมีความต้องการมากที่สุด |
. |
สำหรับกิจกรรมหลัก ๆ ด้านการสร้างมูลค่าในธุรกิจรับสร้างบ้าน ประกอบด้วยการจัดกิจกรรมทางการตลาดผ่าน 3 งานหลัก ได้แก่ 1.การจัดงานซึ่งรวมเฉพาะสมาชิกสามัญของสมาคมฯ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2552 ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว 2.การเข้าร่วมงานสถาปนิก 52 ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2552 และ 3.การจัดงานรับสร้างบ้าน 2009 ในช่วงเดือนสิงหาคม 2552 ซึ่งทั้ง 3 กิจกรรม คาดว่าจะช่วยสร้างการรับรู้ในธุรกิจรับสร้างบ้านให้กับผู้บริโภคได้มากขึ้น และยังสามารถช่วยประชาสัมพันธ์สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านให้ เป็นที่รู้จักได้ในวงกว้างด้วยเช่นกัน |