ถึงแม้ว่าตามท้องตลาดในปัจจุบัน ช่วง 2-3 ปี มานี้ ราคากล้องดิจิตอลจะลดลงมาอย่างมาก แต่ยังคงต้องรอบคอบในการจ่ายเงินสำหรับการซื้อกล้องดิจิตอลตัวใหม่   และคงเป็นการช่วยในการตัดสินใจได้เป็นอย่างดีทีเดียว หากคุณได้ลองพิจารณาคำถามที่มักจะถามกันบ่อยเกี่ยวกับการเลือกซื้อกล้องดิจิตอล

กล้องดิจิตอลแบบไหนที่ใช้งานง่าย ? กล้องดิจิตอลแบบไหนที่ใช้งานแบบแมนนวลได้ ? แน่นอนว่า การเลือกใช้งานนั้นขึ้นอยู่กับประเภทของกล้องดิจิตอลและฟังก์ชั่นการใช้งานที่ต้องการ เช่น การใช้งานกล้องแบบแมนวล สามารถกำหนดค่ารูรับแสงหรือความไวชัตเตอร์ได้เอง หรือเพียงแค่เลือกตำแหน่งของภาพ แล้วกดชัตเตอร์โดยการใช้โหมดอัตโนมัติก็เพียงพอแล้ว

กล้องดิจิตอลมีกี่พิกเซล ? หรือกล้องตัวนี้อัดภาพได้สูงสุดที่ขนาดกี่นิ้ว ? ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า จำนวนพิกเซลที่มากไม่ได้หมายความว่าทำให้ภาพที่ถ่ายจะสวยหรือดูดีมากขึ้น แต่มีผลกับขนาดของการอัดภาพ ถ้าปกติอัดภาพแค่ขนาดจัมโบ้ การเลือกกล้องดิจิตอลที่มีจำนวนพิกเซลสูงๆ ถือว่าเป็นการเลือกที่ไม่คุ้มค่าและสิ้นเปลืองหน่วยความจำ (เมื่อถ่ายภาพโดยใช้จำนวนพิกเซลสูง = ไฟล์ที่ได้มีขนาดใหญ่ ทำให้หน่วยความจำเต็มเร็ว)

จำนวนพิกเซลเท่าไหร่จึงจะเหมาะสมขึ้นอยู่กับว่าต้องการอัดภาพขนาดใหญ่เท่าไหร่ค่า PPI (Pixel Per Inch) เป็นค่าความละเอียดของภาพที่สามารถอัดลงกระดาษได้ อาจจะเป็นขนาด 200 ppi หรือ 300 ppi สามารถอัดภาพออกมาได้คุณภาพที่ดีเช่นกัน ถ้าต้องการอัดภาพขนาด 8X10 นิ้ว ที่ความละเอียด 200 ppi จะต้องเป็นไฟล์ขนาด 1,600 * 2,000 พิกเซล หรือ กล้องดิจิตอล ขนาด 3.2 ล้านพิกเซล ถ้าต้องการอัดภาพขนาด 8X10 นิ้ว ที่ความละเอียด 300 ppi ต้องใช้กล้องดิจิตอล ขนาด 7.2 ล้านพิกเซล เป็นต้น

กล้องดิจิตอลซูมได้เท่าไหร่ ? ในกล้องดิจิตอลจะมีช่วงซูม 2 ช่วงคือ ออพติคอลซูมและดิจิตอลซูม ต้องให้ความสำคัญกับออพติคอลซูมมากกว่า เพราะดิจิตอลซูมเป็นเพียงแค่การย่อขนาดภาพให้ดูใกล้ขึ้นมาแค่นั้น และอาจจะทำให้คุณภาพของภาพลดลงอีกด้วย กล้องดิจิตอลทั่วไป มีช่วงซูมเริ่มจากมุมกว้าง (Wide Angle 3X ประมาณ 28 มม., 35 มม.) ซึ่งเหมาะกับการถ่ายภาพภูมิประเทศ วิว ทิวทัศน์ จนมาถึงช่วงซูมเทเล (Tele Photo 10x, 12x ประมาณ 200 มม., 35 มม.) ซึ่งเหมาะกับการถ่ายภาพวัตถุที่อยู่ในระยะไกล ดังนั้นต้องเลือกช่วงซูมให้เหมาะกับความต้องการในการใช้งาน

ขนาดของ LCD เท่าไหร่ ?  ความละเอียดของ LCD เท่าไหร่ ? แม้ว่า LCD ขนาด 2 นิ้วสามารถใช้งานได้อย่างดีอยู่แล้วก็ตาม กล้องดิจิตอลหลายๆ รุ่นได้มีการเพิ่มขนาด LCD เป็น 2.5 นิ้ว หรือ 3 นิ้ว ซึ่งช่วยในการใช้งานกล้องได้หลายอย่างทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการจัดวางตำแหน่งของภาพ การอ่านเมนูที่ชัดเจนขึ้น หรือการดูภาพที่ถ่ายเสร็จแล้วในขนาดใหญ่ขึ้น แต่เมื่อ LCD มีขนาดใหญ่ จะเปลืองแบตเตอรีมากขึ้น สำหรับเรื่องของความละเอียด LCD ปกติทั่วไปใช้งานที่ขนาด 115,000 พิกเซล แต่ความละเอียดที่ 235,000 พิกเซลทำให้ดูภาพได้คมชัดขึ้น

ปกติแล้วช่องมองภาพแบบ Optical จะมีใช้งานบนกล้อง DSLR เท่านั้น มีใช้งานน้อยในกล้องดิจิตอลคอมแพกต์ทั่วไป ปกติแล้วจะใช้งาน ช่องมองภาพ เมื่อไม่สะดวกใช้ LCD เช่น ในที่กลางแจ้งที่ไม่สามารถมองภาพใน LCD ได้ชัดเจน และเพื่อเป็นการประหยัดแบตเตอรี สามารถปิด LCD แล้วใช้ช่องมองภาพแทน ยังสามารถถ่ายภาพต่อไปได้

กล้องดิจิตอลส่วนใหญ่ใช้แบตเตอรีลิเธียม (Li-on) แบบชาร์จได้ และผู้ขายจะให้เครื่องชาร์จแบตเตอรีมาด้วย มีกล้องดิจิตอลบางยี่ห้อเท่านั้นที่ใช้ แบตเตอรีแบบ AA ซึ่งผู้ขายจะให้แบตเตอรีแบบอัลคาไลน์ หรือแบตเตอรี่อื่นๆ ซี่งไม่สามารถชาร์จได้  ข้อดีของการใช้แบตเตอรี แบบ AA คือพกพาสะดวก มีขายทั่วไป สามารถหาซื้อได้ง่าย แต่ข้อเสียก็มีคือ ใช้งานได้ไม่ยาวนานแม้ว่าจะมีแบตเตอรีที่ออกแบบสำหรับใช้กับกล้องดิจิตอลก็ตาม ทำให้เกิดความสิ้นเปลืองที่ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่บ่อยๆ เพื่อความประหยัดและรักษาสิ่งแวดล้อม ควรจะมีแบตเตอรี AA Ni-MH แบบชาร์จได้ ติดตัวไว้ซัก 1 หรือ 2 ชุด พร้อมแท่นชาร์จ

เป็นการแสดงถึงจำนวนภาพสูงสุดที่สามารถถ่ายได้เมื่อใช้งานกับแบตเตอรีในรุ่นที่กำหนดไว้ เช่น ประมาณ 320 ภาพ (แบตเตอรี่ EN-MH1) หรือ แบตเตอรี่ ลิเธียม CR-V3 สามารถถ่ายภาพได้ถึง 510 ภาพ เป็นต้น มาตรฐานเหล่านี้ ถูกกำหนดโดย CIPA (Camera & Imaging Products Association) ซึ่งโรงงานผู้ผลิตจะต้องทำตามมาตรฐานการทดสอบของ CIPA อย่างเคร่งครัด รวมไปถึงการควบคุมเงื่อนไขต่างๆ เช่น เปิด LCD ทิ้งไว้ตลอดการทดสอบ และเปิดใช้งานแฟลชถึง 50% ของการถ่ายภาพ สามารถดูมาตรฐานของ CIPA ได้จากเว็บไซต์ผู้ผลิต

กล้องดิจิตอลใช้การ์ดหน่วยความจำประเภทไหน? ส่วนใหญ่กล้องดิจิตอล จะใช้การ์ด แบบ SD ซึ่งมีหลายขนาด และ ความเร็วของการ์ดที่หลากหลาย การเลือกใช้งานขนาดของการ์ดหน่วยความจำที่เหมาะสม ขึ้นกับจำนวนภาพที่ต้องการ และ จำนวน พิกเซลที่ใช้ในการถ่ายภาพในแต่ละครั้ง (จำนวนพิกเซลเยอะ จะได้ไฟล์ใหญ่ ใช้พื้นที่เก็บบนการ์ดเยอะ ) ดังนั้นการกำหนดความต้องการจำนวนของภาพที่จะเก็บไว้ในการ์ด จะช่วยให้เลือกซื้อการ์ดหน่วยความจำได้เหมาะสมกับความต้องการ และควรสังเกตว่าสามารถรองรับการ์ดแบบ SDHC (Secure Digital High Capacity) เพื่อให้ใช้งานกับการ์ดที่มีความจุสูง 2GB ขึ้นไปได้

ถ้าต้องการต่อกล้องดิจิตอลเข้ากับ TV เพื่อที่จะดูภาพที่ถ่ายเก็บไว้ จะต้องใช้ช่องต่อสัญญาณนี้ ต่อผ่านสายสัญญาณ AV โดยที่สาย AV จะแถมมาให้อยู่แล้วเมื่อเราซื้อกล้องดิจิตอล

อุปกรณ์เสริมจะช่วยให้การถ่ายภาพนั้นสะดวกและได้ภาพที่มีคุณภาพที่ดีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น แฟลชภายนอก ที่ช่วยให้ความสว่างกว่าแฟลช Built-in ที่ติดมากับตัวกล้อง หรือ Housing ไว้สำหรับป้องกันกล้อง เมื่อต้องการถ่ายภาพใต้น้ำ และสำหรับกล้องดิจิตอล SLR อุปกรณ์เสริมอย่างเช่นเลนส์ เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง