เนื้อหาวันที่ : 2008-10-21 09:10:47 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2342 views

ไชยา ไม่สนกลุ่มขวาง กม.ค้าปลีก-ค้าส่ง เตรียมดันเข้า ครม.พรุ่งนี้

พาณิชย์ เตรียมดันกม.ค้าปลีก-ค้าส่งเข้า ครม.เน้นพัฒนามาตรฐานสินค้า ราคา และความปลอดภัยของอาหารให้เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคมากขึ้น ส่วนด้านราคาจะหารือกับผู้ผลิต(ซัพพลายเออร์)จัดหาสินค้าราคาถูกให้กับกลุ่มตลาดสด เพื่อให้แข่งขันกับค้าปลีกรายใหญ่ได้

พาณิชย์ เตรียมดันกม.ค้าปลีก-ค้าส่งเข้า ครม.เน้นพัฒนามาตรฐานสินค้า ราคา และความปลอดภัยของอาหารให้เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคมากขึ้น ส่วนด้านราคาจะหารือกับผู้ผลิต(ซัพพลายเออร์)จัดหาสินค้าราคาถูกให้กับกลุ่มตลาดสด เพื่อให้แข่งขันกับค้าปลีกรายใหญ่ได้

.

นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีพรุ่งนี้(21 ต.ค.) กระทรวงพาณิชย์จะนำเสนอให้พิจารณาพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจค้าส่งค้าปลีกไทย ซึ่งเป็นฉบับที่ยกร่างโดยกระทรวงพาณิชย์ในสมัยที่นายเกริกไกร จีระแพทย์ เป็น รมว.พาณิชย์ และผ่านการพิจารณาจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ในวาระ 1 แล้ว

.

ทั้งนี้เพื่อให้ทันกับการเปิดสมัยประชุมของรัฐสภาที่จะปิดในราวเดือน พ.ย.51 เพราะหากกระทรวงพาณิชย์ไม่สามารถผลักดันให้เข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ในสมัยประชุมนี้ เชื่อว่ากฎหมายฉบับนี้จะไม่มีผลบังคับใช้ได้ในรัฐบาลชุดนี้อย่างแน่นอน

.

"กระทรวงพาณิชย์จำเป็นต้องเร่งผลักดันให้กฎหมายมีผลบังคับใช้โดยเร็ว เพื่อให้ธุรกิจค้าปลีกขนาดเล็กอยู่ได้ และไม่ได้รับผลกระทบจากการขยายสาขาของรายใหญ่ ยืนยันว่าไม่ได้ทำเพื่อปกป้องซัพพลายเออร์เหมือนที่หลายฝ่ายเข้าใจ แต่ต้องการจัดระเบียบการค้าปลีก ค้าส่งของไทยเท่านั้น" นายไชยา กล่าว

.

รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า แม้จะมีหลายฝ่ายพยายามล้มล้าง พ.ร.บ.ฉบับนี้และไม่ต้องการให้ไทยมีกฎหมายดูแลค้าปลีกค้าส่งเป็นการเฉพาะ แต่ตนเองจะพยายามผลักดันให้ถึงที่สุดเพื่อให้กฎหมายมีผลบังคับใช้โดยเร็ว ที่สำคัญไม่กลัวว่าบุคคลที่ต้องการล้มล้างกฎหมายดังกล่าวจะมีอิทธิพลเพียงใดและจะล็อบบี้ใครเพื่อไม่ให้พิจารณาหรือไม่อนุมัติกฎหมายดังกล่าว

.

นางวัชรี วิมุกตายน รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มตลาดสดได้รับผลกระทบจากการขยายสาขาของห้างค้าปลีกรายใหญ่อย่างมาก เพราะห้างค้าปลีกได้พัฒนารูปแบบการทำธุรกิจโดยหันมาเปิดเป็นตลาดสดติดแอร์ แต่ที่สำคัญมีความเชี่ยวชาญ และชั้นเชิงในการทำการตลาดอย่างมาก จึงทำให้ตลาดสดได้รับความเดือดร้อนไม่ต่างจากกลุ่มโชห่วย

.

ดังนั้นกรมการค้าภายในจึงได้หารือกับกลุ่มสมัชชาตลาดสดทั่วประเทศ เพื่อทำกรอบความร่วมมือร่วมกันในการพัฒนามาตรฐานสินค้า ราคา และความปลอดภัยของอาหารให้เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคมากขึ้น โดยจะให้หน่วยงานของรัฐช่วยเหลือ ส่วนด้านราคาจะหารือกับผู้ผลิต(ซัพพลายเออร์)จัดหาสินค้าราคาถูกให้กับกลุ่มตลาดสด เพื่อให้แข่งขันกับค้าปลีกรายใหญ่ได้

.

ด้านหอการค้าไทยสนับสนุนให้กระทรวงพาณิชย์เดินหน้าผลักดันร่างกฎหมายค้าปลีกค้าส่งเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อนำเสนอให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบและตราเป็นกฎหมายออกมาบังคับใช้โดยเร็ว เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างธุรกิจค้าปลีกค้าส่งขนาดใหญ่กับร้านค้ารายย่อย ซึ่งจะเป็นผลดีต่อสภาวะเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม

.

"การตัดสินใจนำร่างพระราชบัญญัติเข้าสู่คณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาและนำสู่สภาผู้แทนราษฎรจึงเป็นการดีและจะช่วยแก้ไขปัญหาให้กับธุรกิจค้าปลีกอย่างยั่งยืน" นายดุสิต นนทะนาคร รองประธานกรรมการหอการค้าไทย ระบุในเอกสารเผยแพร่

.

ที่ผ่านมาหอการค้าไทยได้แสดงจุดยืนให้รัฐบาลเร่งออกกฎหมายดังกล่าวเพื่อใช้เป็นกฎกติกาในการดูแลปัญหาธุรกิจค้าปลีกค้าส่งเช่นเดียวกับประเทศพัฒนาแล้วที่จะช่วยเอื้ออำนวยให้ธุรกิจค้าปลีกค้าส่งทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก ดำเนินธุรกิจร่วมกันอย่างเป็นธรรม

.

"เราไม่ต้องการเห็นธุรกิจค้าปลีกค้าส่งของประเทศซึ่งมีมูลค่ามหาศาลถูกผูกขาดโดยผู้ประกอบการเพียงไม่กี่ราย ซึ่งหากยังปล่อยให้ปัญหานี้สะสมยืดเยื้อออกไปผลกระทบจะรุนแรงเพิ่มมากขึ้นและทำให้แก้ปัญหาได้ยาก" นายดุสิต กล่าว