นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(สอท.) ว่า ที่ประชุมไดหารือเกี่ยวกับมาตรการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมของไทย ให้สามารถดําเนินธุรกิจไดภายใตสภาวะที่ต้องเผชิญปัจจัยเสี่ยงด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะในเรื่องของราคาพลังงานและค่าแรงงานที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้นเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมของประเทศและเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนทั่วไปกระทรวงอุตสาหกรรมจึงไดมอบหมายใหสอท.เร่งจัดทํารายงานการสํารวจเชิงลึกเกี่ยวกับความต้องด้านแรงงานในภาคอุตสาหกรรมเพื่อทําจัดเป็นโครงการพิเศษในการพัฒนาบุคลากรที่มีศักยภาพการทํางานสูงกว่าแรงงานขั้นพื้นฐานป้อนสู่ภาคอุตสาหกรรม ซึ่งรัฐบาลจะเป็นผู้สนับสนุนงบประมาณใหดําเนินโครงการดังกล่าว

ทั้งนี้เนื่องจากปัจจุบันการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมไม่ได้แข่งขันที่ค่าแรงงานถูกอีกต่อไปแต่เป็นการแข่งขันกันในเรื่องของการสร้างมูลเพิ่มให้กับสินค้า คุณภาพสินค้า เทคโนโลยีการผลิต และการบริหารจัดการภายในองค์กรซึ่งเป็นเรื่องของต้นทุนการผลิตทั้งสิ้น

ดังนั้นสิ่งที่กระทรวงอุตสาหกรรมต้องเร่งดําเนินการคือเรื่องการพัฒนาบุคลากรทั้งทางด้านเทคนิคและผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อป้อนสูภาคอุตสาหกรรมใหเพียงพอต่อความต้องการ รวมถึงการสนับสนุนให้คนไทยให้เป็นผู้ประกอบการด้วยการส่งเสริมให้คนไทยเป็นเจ้าของกิจการเพิ่มมากขึ้นโดยให้สํานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) จัดมาตรการพิเศษในการส่งเสริมการลงทุนใหอาทิ การยกเว้นภาษีสําหรับผู้ประกอบการที่มีแนวคิดและแผนงานในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเป็นต้น

นอกจากนี้ได้เน้นย้าให้ภาคเอกชนตระหนักถึงเรื่องการประหยัดพลังงานภายในโรงงานอุตสาหกรรม และการดูแลสิ่งแวดล้อมโดยใหโรงงานอุตสาหกรรมรับผิดชอบในการเพิ่มต้นทุนการผลิตด้วยการสร้างกระบวนการกําจัดกากของเสียก่อนปล่อยออกจากโรงงานอุตสาหกรรมให้ถูกต้องตามกระบวนการเพื่อลดปัญหาสภาพสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ